ในฐานะแฟน รีล มาดริด...
หากพูดถึงหัวข้อนี้ในบอร์ดต่างประเทศที่เล่นเป็นประจำ
คงเจอยำเละเทะ การพูดถึงเลวานดี้ในยามนี้ ถือเป็นเรื่องต้องห้ามพอสมควร
กับแฟนบอลที่ฮาร์ดคอร์มากๆของรีลมาดริด
เพราะ ณ ตอนนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นนักเตะที่แฟนๆฮาร์ดคอร์ของรีล มาดริด
ไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุด
ฉันเกลียดเธอลิววี่ .. (ชื่อเล่นน่ารักเหลือเกิน)
เกลียดพอๆกับที่ต้องยอมรับว่า ชายคนนี้ "น่าทึ่ง"
ในประวัติศาสตร์ของบอลถ้วยใหญ่ที่สุดของยุโรป และ ในประวัติศาสตร์ของทีมรีล มาดริด
ไม่เคยมีใคร "สามารถ" ทำแฮตทริคกับ "ยักษ์ใหญ่จากสเปน" ได้มาก่อน
แต่ เลวานดี้ ทำได้ ... และ มันน่าหมั่นไส้ตรงที่ เขาทำได้ถึง 4 ประตู
"เฮ้ ... นายทำไป 4 ประตูแล้วนะ .... พอได้แล้วมั้ง"
เปเป้ กระซิบข้างๆหูเลวานดี้ หลังจากเขาทำประตูที่ 4 ในวันนั้น เลวานดี้ ยิ้มแย้มเบิกบานเป็นพิเศษ การทำได้ถึง 4 ประตูจาก "โคตรทีม" คงทำให้เขาสุขล้น แม้จะเจอใครยียวนกวนประสาทแค่ไหน เขาก็ทำท่า ส่ายนิ้ว จิ๊จ๊ะๆ ตอบกลับไปเท่านั้น...
ก่อนผ่านเข้ามาสู่รอบ 8 ทีม ไม่เคยมีใครคิดว่า ดอทมุนต์จะสามารถเอาชนะรีลมาดริดได้เลย แม้ตอนที่มาดริดไปเจอกับดอทมุนต์ที่เวสต์ฟาเลนในรอบแบ่งกลุ่ม จะจบลงด้่วยการที่มาดริด พ่ายกลับมา แต่ ดอทมุนต์ ก็ไม่ได้ถึงขั้นได้ชื่อว่าเป็นทีมต่อ-หรือเหนือมาดริดมาก่อน...
"แชมป์เปี้ยนลีกส์ ยังใหม่สำหรับเราในฤดูกาลที่แล้ว และหลายคนในทีม พึ่งเคยเข้ามาเล่นในรายการนี้ครั้งแรก เราเล่นได้ดีแต่ตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่ในฤดูกาลนี้ เราแสดงให้เห็นแล้วว่า เราพัฒนากว่าเดิมอย่างไร มันคงจะดีมากถ้าเราบุกไปเก็บแต้มได้เรื่อยๆแบบนี้"
เลวานดี้ ให้สัมภาษณ์ ในรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากการย้ายเข้ามาร่วมทีม โบรุซเซีย ดอทมุนต์ในปี 2010 เขาเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ในฤดูกาลแีรกที่มาถึง และ อีกครั้ง ในฤดูกาลต่อมา แถมยัง พ่วงด้วย เดเอฟเอ โพคาล อีก 1 ครั้งนั่นชี้ให้เห็นว่า การมาถึง ดอร์ทมุนต์ ของเขาค่อนข้างสวยหรู และเต็มไปด้วยเกียรติยศและความมั่นใจก็เต็มร้อย
"ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เวลามีคนบอกว่า การได้เข้ามาเล่นในแชมป์เปี้ยนลีกส์ จะทำให้สภาพร่างกายเสื่อม ผมชอบเล่นบอลทุกๆ 3 วัน สนุกกับการแข่งมากกว่าการซ้อม ผมไม่เคยบ่นเรื่องนี้เลย"
เลวานดี้แสดงความเห็นต่อ การที่มีนักฟุตบอลหลายๆทีม หรือ กระทั่งค่านิยมที่พูดกันต่อๆมา ว่าการได้เข้าไปเล่นในแชมป์เปียนลีกส์ จะทำให้ผลงานในลีกส์หลักดรอปลง เนื่องจากการที่ลงแข่งขันในสนามถี่เกินไป สิ่งหนึ่งที่ยืนยันในความบ้าฟุตบอลของเขาได้ คือ เมื่อตอนเด็ก ลิววี่ ต้องเข้าพิธีศีลมหาสนิทเป็นครั้งแรก และเนื่องจากมันเป็นวันเดียวกับวันที่เขามีแข่งนัดสำคัญ หลวงพ่อทำพิธีให้เขาเสร็จอย่างรวดเร็ว ลิววี่รีบขับรถไปสนาม เขาเปลี่ยนรีบเสื้อผ้าในรถ และ รีบวิ่งลงสนาม แล้วก็ ตู้ม ซัดประตูชัยให้ทีมชนะ
แต่แน่นอนว่า คนแบบเลวานดี้ ย่อมพูดได้ ... เพราะเขาเติบโตมาด้วยความแข็งแกร่ง เกิดในครอบครัวนักกีฬา...
พ่อของลิววี่เป็น แชมยูโด ของโปแลนด์ และเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมในดิวิชั่น 2 ของโปแลนด์ แม่ของเขาเป็นอดีตนักวอลเล่ย์บอลสังกัดทีมในโปแลนด์ และ น้องสาวของเขาก็เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลทีมชาติรุ่น U21 ของโปแลนด์ และ คู่หมั้นของเขา Anna Stachurska ยังเป็นนักกีฬา คาราเต้ ทีมชาติ ที่สามารถคว้าเหรียญทองแดงได้ใน คาราเต้เวิร์ลด คัพ ปี 2009 ด้วย (และประตูที่ลิววี่ ทำได้ตอนอยู่ ดอทมุนต์ ด้วยท่าจักรยานอากาศ ก็มาจากการฝึกซ้อมกับแอนนาด้วย -..-)
ส่วนตัวเขาเองก็เป็นนักฟุตบอลทีมชาติของ โปแลนด์ ตั้งแต่อายุ 19 ปี
บางคนตั้งฉายาให้เขาว่า "ดรอกบาแห่งโปแลนด์" เพราะความสามารถในการปั้นเกมส์ และ จบสกอร์ได้ด้วยตัวเอง และที่สำคัญคือ ความถึกทน แบบที่กองหน้าน้อยคนจะมี ขณะที่ Nuri Sahin ตั้งฉายาให้เขาว่า "The Body" เพราะร่างกายอันเต็มไปด้วย มัดกล้ามของความสมบูรณ์แบบ (อื้อหืออ -,.- ซาฮินบอกมานะ เราไมไ่ด้เขียนเอง)
ขณะที่ ตัว เลวานดี้เอง กลับ อยากเป็นแบบ "อองรี" มากกว่า
"ไอดอลตลอดกาลที่ผมอยากเล่นฟุตบอลให้ได้แบบเขามากที่สุด คือ เธียร์รี่ อองรี ผมชอบสไตล์และการเคลื่อนที่บนสนามของอาเซนอล"
เรียกได้ว่า ชีวิตของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ห่างไกลกับคำว่า "นักฟุตบอลธรรมดาๆ" ไปมากทีเดียว
จากการพัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว ทำให้เลวานดี้เป็นที่จับตามองจากทีมใหญ่หลายๆทีม ก่อนหน้านี้
แม้เลวานดี้ จะมีประวัติอันงดงามพอสมควรในบุนเดสลีก้า แต่ก็เขาก็ไม่ได้เนื้อหอมขนาดนี้ หลายคนบอกว่า
แม้เขาจะเก่งพอตัว แต่ก็ยังคงสู้ Lucas Barrios กองหน้าขวัญใจของดอทมุนต์ในตอนนั้นไม่ได้
อาจกล่าวได้ว่า เขายังคงอยู่ใต้เงาของบาริออสอยู่ส่วนหนึ่ง จนกระทั่ง ดอทมุนต์ ปล่อยตัว บาริออส ไปจีน
การพัฒนาฝีเท้า และ ความสามารถในการเล่นได้หลายตำแหน่งของ เลวานดี้
ทำให้ จากผู้เล่นในตำแหน่งหน้าต่ำ มาสู่การเล่น ในตำแหน่งหน้าเป้า ยิ่งทำให้พรสวรรค์ของเขาได้รับการส่งเสริมไปในทางที่ถูกที่ควรมากขึ้น
จนกระทั่งสามารถระเบิดฟอร์มอย่างยิ่งใหญ่ ในฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของยุโรป
UEFA CHAMPION LEAGUE
ที่ การทำ 4 ประตูได้ในเกมระดับนี้ และในรอบลึกระดับนี้ ทำให้บรรดาเกจิลูกหนัง และ สื่อฯอาวุโส หลายกลุ่ม ยกย่องว่า "นี่คือแมตแห่งความทรงจำในประวัติศาสตร์ของยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์"
"ความฝันของผมในตอนเด็กคือ การได้เล่น แชมป์เปี้ยนลีกส์"
ฟังดูไม่น่าเชื่อเท่าไร ว่าคนแบบเขาจะมีฝันวัยเด็ก อยู่เท่านั้น...
เพราะตอนนี้ เขาได้ผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายใน ยูฟาแชมเปี้ยนลีกส์ รายการยอดปรารถนาของเขาแล้ว...
เหลืออีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น...
Robert Lewandowski | Warsaw, Poland | 24 years old (1988)
ลิววี่ ผู้ฆ่ายักษ์ : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กับ การล้มยักษ์อันน่าทึ่ง
หากพูดถึงหัวข้อนี้ในบอร์ดต่างประเทศที่เล่นเป็นประจำ
คงเจอยำเละเทะ การพูดถึงเลวานดี้ในยามนี้ ถือเป็นเรื่องต้องห้ามพอสมควร
กับแฟนบอลที่ฮาร์ดคอร์มากๆของรีลมาดริด
เพราะ ณ ตอนนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นนักเตะที่แฟนๆฮาร์ดคอร์ของรีล มาดริด
ไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุด
ฉันเกลียดเธอลิววี่ .. (ชื่อเล่นน่ารักเหลือเกิน)
เกลียดพอๆกับที่ต้องยอมรับว่า ชายคนนี้ "น่าทึ่ง"
ในประวัติศาสตร์ของบอลถ้วยใหญ่ที่สุดของยุโรป และ ในประวัติศาสตร์ของทีมรีล มาดริด
ไม่เคยมีใคร "สามารถ" ทำแฮตทริคกับ "ยักษ์ใหญ่จากสเปน" ได้มาก่อน
แต่ เลวานดี้ ทำได้ ... และ มันน่าหมั่นไส้ตรงที่ เขาทำได้ถึง 4 ประตู
"เฮ้ ... นายทำไป 4 ประตูแล้วนะ .... พอได้แล้วมั้ง"
เปเป้ กระซิบข้างๆหูเลวานดี้ หลังจากเขาทำประตูที่ 4 ในวันนั้น เลวานดี้ ยิ้มแย้มเบิกบานเป็นพิเศษ การทำได้ถึง 4 ประตูจาก "โคตรทีม" คงทำให้เขาสุขล้น แม้จะเจอใครยียวนกวนประสาทแค่ไหน เขาก็ทำท่า ส่ายนิ้ว จิ๊จ๊ะๆ ตอบกลับไปเท่านั้น...
ก่อนผ่านเข้ามาสู่รอบ 8 ทีม ไม่เคยมีใครคิดว่า ดอทมุนต์จะสามารถเอาชนะรีลมาดริดได้เลย แม้ตอนที่มาดริดไปเจอกับดอทมุนต์ที่เวสต์ฟาเลนในรอบแบ่งกลุ่ม จะจบลงด้่วยการที่มาดริด พ่ายกลับมา แต่ ดอทมุนต์ ก็ไม่ได้ถึงขั้นได้ชื่อว่าเป็นทีมต่อ-หรือเหนือมาดริดมาก่อน...
"แชมป์เปี้ยนลีกส์ ยังใหม่สำหรับเราในฤดูกาลที่แล้ว และหลายคนในทีม พึ่งเคยเข้ามาเล่นในรายการนี้ครั้งแรก เราเล่นได้ดีแต่ตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่ในฤดูกาลนี้ เราแสดงให้เห็นแล้วว่า เราพัฒนากว่าเดิมอย่างไร มันคงจะดีมากถ้าเราบุกไปเก็บแต้มได้เรื่อยๆแบบนี้"
เลวานดี้ ให้สัมภาษณ์ ในรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากการย้ายเข้ามาร่วมทีม โบรุซเซีย ดอทมุนต์ในปี 2010 เขาเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ในฤดูกาลแีรกที่มาถึง และ อีกครั้ง ในฤดูกาลต่อมา แถมยัง พ่วงด้วย เดเอฟเอ โพคาล อีก 1 ครั้งนั่นชี้ให้เห็นว่า การมาถึง ดอร์ทมุนต์ ของเขาค่อนข้างสวยหรู และเต็มไปด้วยเกียรติยศและความมั่นใจก็เต็มร้อย
"ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เวลามีคนบอกว่า การได้เข้ามาเล่นในแชมป์เปี้ยนลีกส์ จะทำให้สภาพร่างกายเสื่อม ผมชอบเล่นบอลทุกๆ 3 วัน สนุกกับการแข่งมากกว่าการซ้อม ผมไม่เคยบ่นเรื่องนี้เลย"
เลวานดี้แสดงความเห็นต่อ การที่มีนักฟุตบอลหลายๆทีม หรือ กระทั่งค่านิยมที่พูดกันต่อๆมา ว่าการได้เข้าไปเล่นในแชมป์เปียนลีกส์ จะทำให้ผลงานในลีกส์หลักดรอปลง เนื่องจากการที่ลงแข่งขันในสนามถี่เกินไป สิ่งหนึ่งที่ยืนยันในความบ้าฟุตบอลของเขาได้ คือ เมื่อตอนเด็ก ลิววี่ ต้องเข้าพิธีศีลมหาสนิทเป็นครั้งแรก และเนื่องจากมันเป็นวันเดียวกับวันที่เขามีแข่งนัดสำคัญ หลวงพ่อทำพิธีให้เขาเสร็จอย่างรวดเร็ว ลิววี่รีบขับรถไปสนาม เขาเปลี่ยนรีบเสื้อผ้าในรถ และ รีบวิ่งลงสนาม แล้วก็ ตู้ม ซัดประตูชัยให้ทีมชนะ
แต่แน่นอนว่า คนแบบเลวานดี้ ย่อมพูดได้ ... เพราะเขาเติบโตมาด้วยความแข็งแกร่ง เกิดในครอบครัวนักกีฬา...
พ่อของลิววี่เป็น แชมยูโด ของโปแลนด์ และเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมในดิวิชั่น 2 ของโปแลนด์ แม่ของเขาเป็นอดีตนักวอลเล่ย์บอลสังกัดทีมในโปแลนด์ และ น้องสาวของเขาก็เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลทีมชาติรุ่น U21 ของโปแลนด์ และ คู่หมั้นของเขา Anna Stachurska ยังเป็นนักกีฬา คาราเต้ ทีมชาติ ที่สามารถคว้าเหรียญทองแดงได้ใน คาราเต้เวิร์ลด คัพ ปี 2009 ด้วย (และประตูที่ลิววี่ ทำได้ตอนอยู่ ดอทมุนต์ ด้วยท่าจักรยานอากาศ ก็มาจากการฝึกซ้อมกับแอนนาด้วย -..-)
ส่วนตัวเขาเองก็เป็นนักฟุตบอลทีมชาติของ โปแลนด์ ตั้งแต่อายุ 19 ปี
บางคนตั้งฉายาให้เขาว่า "ดรอกบาแห่งโปแลนด์" เพราะความสามารถในการปั้นเกมส์ และ จบสกอร์ได้ด้วยตัวเอง และที่สำคัญคือ ความถึกทน แบบที่กองหน้าน้อยคนจะมี ขณะที่ Nuri Sahin ตั้งฉายาให้เขาว่า "The Body" เพราะร่างกายอันเต็มไปด้วย มัดกล้ามของความสมบูรณ์แบบ (อื้อหืออ -,.- ซาฮินบอกมานะ เราไมไ่ด้เขียนเอง)
ขณะที่ ตัว เลวานดี้เอง กลับ อยากเป็นแบบ "อองรี" มากกว่า
"ไอดอลตลอดกาลที่ผมอยากเล่นฟุตบอลให้ได้แบบเขามากที่สุด คือ เธียร์รี่ อองรี ผมชอบสไตล์และการเคลื่อนที่บนสนามของอาเซนอล"
เรียกได้ว่า ชีวิตของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ห่างไกลกับคำว่า "นักฟุตบอลธรรมดาๆ" ไปมากทีเดียว
จากการพัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว ทำให้เลวานดี้เป็นที่จับตามองจากทีมใหญ่หลายๆทีม ก่อนหน้านี้
แม้เลวานดี้ จะมีประวัติอันงดงามพอสมควรในบุนเดสลีก้า แต่ก็เขาก็ไม่ได้เนื้อหอมขนาดนี้ หลายคนบอกว่า
แม้เขาจะเก่งพอตัว แต่ก็ยังคงสู้ Lucas Barrios กองหน้าขวัญใจของดอทมุนต์ในตอนนั้นไม่ได้
อาจกล่าวได้ว่า เขายังคงอยู่ใต้เงาของบาริออสอยู่ส่วนหนึ่ง จนกระทั่ง ดอทมุนต์ ปล่อยตัว บาริออส ไปจีน
การพัฒนาฝีเท้า และ ความสามารถในการเล่นได้หลายตำแหน่งของ เลวานดี้
ทำให้ จากผู้เล่นในตำแหน่งหน้าต่ำ มาสู่การเล่น ในตำแหน่งหน้าเป้า ยิ่งทำให้พรสวรรค์ของเขาได้รับการส่งเสริมไปในทางที่ถูกที่ควรมากขึ้น
จนกระทั่งสามารถระเบิดฟอร์มอย่างยิ่งใหญ่ ในฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของยุโรป
UEFA CHAMPION LEAGUE
ที่ การทำ 4 ประตูได้ในเกมระดับนี้ และในรอบลึกระดับนี้ ทำให้บรรดาเกจิลูกหนัง และ สื่อฯอาวุโส หลายกลุ่ม ยกย่องว่า "นี่คือแมตแห่งความทรงจำในประวัติศาสตร์ของยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์"
"ความฝันของผมในตอนเด็กคือ การได้เล่น แชมป์เปี้ยนลีกส์"
ฟังดูไม่น่าเชื่อเท่าไร ว่าคนแบบเขาจะมีฝันวัยเด็ก อยู่เท่านั้น...
เพราะตอนนี้ เขาได้ผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายใน ยูฟาแชมเปี้ยนลีกส์ รายการยอดปรารถนาของเขาแล้ว...
เหลืออีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น...
Robert Lewandowski | Warsaw, Poland | 24 years old (1988)