บังเอิญได้แอบอ่านจดหมายของคุณแก้วสรรถึงเครือข่ายประชาคมประชาธิปไตย แล้วทำให้ผมต้องรีบเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อส่งให้คุณแก้วสรรโดยด่วน เพราะไม่อยากให้จดหมายฉบับเดียวของคุณแก้วสรร ทำคนไทยขายหน้าไปทั่วโลก ไม่อยากให้คนทั่วไป มองว่านักวิชาการของไทยมีแนวคิดอย่างคุณแก้วสรรกันทุกคน
เพราะจดหมายของคุณแก้วสรรถึงมือเครือข่ายฯเมื่อไหร่ เขาคงต้องสืบประวัติกันให้แน่ชัดว่า เจ้าแก้วสรรนี่มันใครกันหว่า และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะพบว่า ที่แท้ก็พวกนักวิชาการตกขอบที่ยอมเป็นทาสรับใช้ของพวกเผด็จการนั่นเอง แค่นี้คนไทยอย่างผมก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วครับคุณแก้วสรร
แล้วถ้าพวกเขาสาวลึกเข้าไปอีก ก็จะยิ่งพบว่า คนที่ยอมตกเป็นลูกสมุนของคณะปฏิวัติ ยังมีน้ำหน้ามาคุยเรื่องประชาธิปไตยอีก พวกเขาคงได้หัวเราะกันฟันร่วงเป็นแถบๆแน่ๆเลยครับ
คุณแก้วสรรครับ ที่คุณแก้วสรรไปฟ้องทางเครือข่ายประชาคมประชาธิปไตยเรื่องคุณยิ่งลักษณ์ ตัวจริงไม่ได้นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนั้น ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอกครับ เพียงแต่สิ่งที่คุณยิ่งลักษณ์หรือแม้กระทั่งครอบครัวขึ้นมามีอำนาจนั้น มันเป็นการได้มาตามวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง มาจากเสียงของคนส่วนใหญ่เทให้ แล้วคุณแก้วสรรล่ะครับ ได้เป็น คตส.นั้น ได้มาเพราะอะไรหรือครับ ลงทุนด่าคุณทักษิณ แล้วเชื้อเชิญให้ทหารปฏิวัติ จากนั้นก็ได้ตำแหน่งตามที่เผด็จการจัดให้ มันน่าภูมิใจสิท่า ทุเรศเอ๊ย
ที่คุณแก้วสรรยอมเป็น คตส. นี่ก็เห็นชัดๆ การเอาปฏิปักษ์มาสืบสวน สอบสวน แถมยังสั่งฟ้องเองได้อีกต่างหาก แถมยังมีกฎหมายรองรับในทุกๆการกระทำ แบบนี้หรือครับจึงเป็นประชาธิปไตยแบบของคุณแก้วสรร แต่ผมเชื่อว่าทางเครือข่ายเขาคงไม่เห็นด้วยกับคุณแก้วสรรแน่ๆเลยครับ
ยิ่งถ้าเครือข่ายฯได้รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดกลุ่มงูเห่า แล้วทำให้พรรคที่คุณแก้วสรรสนับสนุนนั้น ได้เป็นรัฐบาลสมใจอยาก จนทำให้เกิดรัฐบาลที่ไม่สง่างาม อันเป็นเหตุให้เกิดการสังหารหมู่กลางเมืองหลวง โดยไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบ ยิ่งทำให้คำพูดของคุณยิ่งลักษณ์มีน้ำหนักขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คุณแก้วสรรเขียนขึ้น จึงเป็นเพียงจดหมายที่ไม่ต่างจากกระดาษชำระสักเท่าไหร่นัก นอกจากเหม็นแล้ว คงหาประโยชน์อื่นใดไม่ได้หรอกครับคุณแก้วสรร
และถ้ารู้ว่า คุณแก้วสรรเป็นหนึ่งใน คตส.ที่สั่งฟ้องเรื่องกล้ายาง แต่กลับขึ้นเป็นพยานให้กับคุณเนวิน ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะอะไรปานนั้น มันน่าทุเรศอะไรปานนั้น แล้วไม่ต้องมาแถเรื่องเป็นเสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยกับการสั่งฟ้องนะครับ เพราะไม่ได้ทำให้การกระทำของคุณแก้วสรรดีขึ้นแต่อย่างไร ลองคุณเนวินไม่ย้ายข้างสิ ไม่เป็นกลุ่มงูเห่าสิ และไม่ได้ไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารสิ คุณแก้วสรรจะไปเป็นพยานให้กับคุณเนวินให้เมื่อยตุ้มทำไมกัน แบบนี้แล้วคุณแก้วสรรยังกล้าบอกว่าคุณยิ่งลักษณ์ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอีกหรือครับ
คุณแก้วสรรครับ ยังจำได้ไหมครับเรื่องคุณสมบัติของคุณยิ่งลักษณ์ ซึ่งคุณแก้วสรรให้สัมภาษณ์กับทางช่อง 7 ว่าการนำประเด็นนี้มาพูดถึง มันจะกลายเป็นหาเรื่องกลั่นแกล้งกัน ซึ่งหน้าข้าวหน้าเหล้าอย่างนี้ นักเลงเขาไม่ทำกัน แต่คล้อยหลังเพียงสิบกว่าวัน ก็เป็นคุณแก้วสรรนี่แหละที่กลับนำเรื่องนี้มากลั่นแกล้งคุณยิ่งลักษณ์ แบบนี้คุณแก้วสรรจะเรียกว่าตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ หรือ เพราะถูกอำนาจที่ยากปฏิเสธ จนทำให้ยอมเสียสุนัข กลืนน้ำลายตัวเอง?
ส่วนเรื่องการเลือกข้างนั้นมันไม่ผิดหรอกครับคุณแก้วสรร เพียงแต่พื้นฐานทางวิชาการจะละทิ้งไม่ได้เป็นอันขาด แต่การกระทำที่ผ่านมา คุณแก้วสรรเคยมองเห็นหรือยังว่า นอกจากทำให้ความเป็นนักวิชาการของคุณแก้วสรรเสื่อมถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนผลตอบแทนกลับมานั้น มันก็แค่ได้มีโอกาสกำจัดเสี้ยมหนามแทนพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเท่านั้น สำเร็จแล้วเขาเห็นคุณค่าหรือเปล่าครับคุณแก้วสรร แม้แต่ยอมบากหน้าไปขอสมัครเป็นผู้ว่า กทม.ให้กับพรรคที่คุณแก้วสรรพยายามอุ้มชู แล้วเป็นไงครับ หน้าแตกหมอไม่ได้เย็บ ยังไม่เข็ดไม่หลาบอีกหรือครับคุณแก้วสรร
แต่ที่เสร็จนา เขาไม่ฆ่าโคถึกอย่างคุณแก้วสรร ก็ไม่ใช่เพราะเห็นความสามารถหรอกนะครับ เขาเพียงแต่ยังเห็นว่าพอมีประโยชน์อยู่บ้าง พอหลอกใช้ให้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตยกันต่อไปได้ เพียงแต่คุณแก้วสรรจะยอมไถนาให้นกกินต่อไป แล้วพกเอาความเกลียดชังจากคนส่วนใหญ่ติดตัวไปเรื่อยๆ ก็ตามใจนะครับคุณแก้วสรร
ที่น่าสังเวชที่สุดสำหรับแนวคิดของคุณแก้วสรรนั่นคือ คุณแก้วสรรใช้ส่วนไหนคิดกันครับที่นำเอาคุณยิ่งลักษณ์ไปเปรียบกับนายคิม จองอิลของเกาหลีเหนือ ผมว่าคุณแก้วสรรผิดหวังจนป่วยทางจิตไปแล้วกระมังครับ
คุณแก้วสรรครับ รู้จักประชาธิปไตยแค่ไหนกันครับ แต่ไม่ว่าจะฝักใฝ่เผด็จการแค่ไหน ไม่ว่าจะกลัวการเลือกตั้งแค่ไหน แต่คุณแก้วสรรก็ไม่ควรบิดเบือนหลักของประชาธิปไตย อำนาจจะไม่มีทางได้มาตามวิถีทางประชาธิปไตยหรอกครับ ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เข้าใจหรือยังครับ ที่พวกคุณแก้วสรรดิ้นทุรนทุรายอยู่เวลานี้ จึงเป็นเพียงไม่สามารถจะชนะได้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ต่างหากเล่า จึงได้แต่หวังมีอำนาจพิเศษเข้ามาบิดเบือนประชาธิปไตย แล้วคอยรับเศษอำนาจที่เขามอบให้เหมือนกับสุนัขหิวโซหวังเศษกระดูกที่เขาแบ่งปันให้ คุณแก้วสรรต้องการเพียงแค่นี้จริงๆหรือครับ
สำหรับสื่อฯต่างๆที่คุณแก้วสรรประณามรับจ๊อบเพื่อสร้างความหลงใหลให้กับตระกูลชินเฉกเช่นเดียวกับเกาหลีเหนือนั้น ผมก็ไม่รู้แน่ชัดว่าคุณแก้วสรรได้ข้อมูลจากที่ไหน เพียงแต่อยากถามคุณแก้วสรรว่า ต้องเป็นสื่อฯแบบแนวหน้า ไทยโพสหรือผู้จัดการที่คอยสร้างความแตกแยก สร้างความเกลียดชังให้กับสังคมไทย จึงเป็นสื่อฯที่มีจิตวิญญาณของความเป็นสื่อฯสำหรับคุณแก้วสรรอย่างนั้นหรือ เฮ้อ พวกกระเบื้องลอยน้ำจริงเลยนะคุณแก้วสรร
สุดท้ายที่จะบอกคุณแก้วสรรว่า อำนาจต่างๆตามระบอบประชาธิปไตยนั้น มันอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่เท่านั้น ตราบใดที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดกับประชาชน เกิดกับประเทศชาติ ตราบนั้นประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินครับว่าจะให้อยู่ต่อหรือไม่
แต่อำนาจนอกระบบที่คุณแก้วสรรยอมคลุกด้วยนั้น มันไม่ใช่ครับ นอกจากไม่มีอะไรถ่วงดุลแล้ว ยังไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย แม้แต่ คตส.ที่คุณแก้วสรรทำหน้าที่ ยังออกกฎหมายคุ้มครองทุกการกระทำความผิด นี่หรือครับเป็นประชาธิปไตยที่คุณแก้วสรรรู้จัก ป๊าดโธ่ ไม่มีงาช้างนอกบนปากสุนัขจริงๆ
ดังนั้นสิ่งที่คุณยิ่งลักษณ์ไปแสดงปาฐกถาในวันนั้น จึงเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจริงๆ ส่วนการบิดเบือนนั้น มันเหมาะที่จะใช้กับคุณแก้วสรรกับพวกต่างหากครับ ดังนั้นถ้าจะเป็นไปได้ ผมคิดว่าคุณแก้วสรรควรนำจดหมายโสโครกอันนั้นกลับมาดีกว่านะครับ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อประเทศ แต่เป็นการทำเพื่อคุณแก้วสรรด้วย ไม่หวังดีผมไม่รีบเตือนนะครับคุณแก้วสรร
จดหมายเปิดผนึกถึงคุณแก้วสรร
เพราะจดหมายของคุณแก้วสรรถึงมือเครือข่ายฯเมื่อไหร่ เขาคงต้องสืบประวัติกันให้แน่ชัดว่า เจ้าแก้วสรรนี่มันใครกันหว่า และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะพบว่า ที่แท้ก็พวกนักวิชาการตกขอบที่ยอมเป็นทาสรับใช้ของพวกเผด็จการนั่นเอง แค่นี้คนไทยอย่างผมก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วครับคุณแก้วสรร
แล้วถ้าพวกเขาสาวลึกเข้าไปอีก ก็จะยิ่งพบว่า คนที่ยอมตกเป็นลูกสมุนของคณะปฏิวัติ ยังมีน้ำหน้ามาคุยเรื่องประชาธิปไตยอีก พวกเขาคงได้หัวเราะกันฟันร่วงเป็นแถบๆแน่ๆเลยครับ
คุณแก้วสรรครับ ที่คุณแก้วสรรไปฟ้องทางเครือข่ายประชาคมประชาธิปไตยเรื่องคุณยิ่งลักษณ์ ตัวจริงไม่ได้นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนั้น ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอกครับ เพียงแต่สิ่งที่คุณยิ่งลักษณ์หรือแม้กระทั่งครอบครัวขึ้นมามีอำนาจนั้น มันเป็นการได้มาตามวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง มาจากเสียงของคนส่วนใหญ่เทให้ แล้วคุณแก้วสรรล่ะครับ ได้เป็น คตส.นั้น ได้มาเพราะอะไรหรือครับ ลงทุนด่าคุณทักษิณ แล้วเชื้อเชิญให้ทหารปฏิวัติ จากนั้นก็ได้ตำแหน่งตามที่เผด็จการจัดให้ มันน่าภูมิใจสิท่า ทุเรศเอ๊ย
ที่คุณแก้วสรรยอมเป็น คตส. นี่ก็เห็นชัดๆ การเอาปฏิปักษ์มาสืบสวน สอบสวน แถมยังสั่งฟ้องเองได้อีกต่างหาก แถมยังมีกฎหมายรองรับในทุกๆการกระทำ แบบนี้หรือครับจึงเป็นประชาธิปไตยแบบของคุณแก้วสรร แต่ผมเชื่อว่าทางเครือข่ายเขาคงไม่เห็นด้วยกับคุณแก้วสรรแน่ๆเลยครับ
ยิ่งถ้าเครือข่ายฯได้รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดกลุ่มงูเห่า แล้วทำให้พรรคที่คุณแก้วสรรสนับสนุนนั้น ได้เป็นรัฐบาลสมใจอยาก จนทำให้เกิดรัฐบาลที่ไม่สง่างาม อันเป็นเหตุให้เกิดการสังหารหมู่กลางเมืองหลวง โดยไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบ ยิ่งทำให้คำพูดของคุณยิ่งลักษณ์มีน้ำหนักขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คุณแก้วสรรเขียนขึ้น จึงเป็นเพียงจดหมายที่ไม่ต่างจากกระดาษชำระสักเท่าไหร่นัก นอกจากเหม็นแล้ว คงหาประโยชน์อื่นใดไม่ได้หรอกครับคุณแก้วสรร
และถ้ารู้ว่า คุณแก้วสรรเป็นหนึ่งใน คตส.ที่สั่งฟ้องเรื่องกล้ายาง แต่กลับขึ้นเป็นพยานให้กับคุณเนวิน ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะอะไรปานนั้น มันน่าทุเรศอะไรปานนั้น แล้วไม่ต้องมาแถเรื่องเป็นเสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยกับการสั่งฟ้องนะครับ เพราะไม่ได้ทำให้การกระทำของคุณแก้วสรรดีขึ้นแต่อย่างไร ลองคุณเนวินไม่ย้ายข้างสิ ไม่เป็นกลุ่มงูเห่าสิ และไม่ได้ไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารสิ คุณแก้วสรรจะไปเป็นพยานให้กับคุณเนวินให้เมื่อยตุ้มทำไมกัน แบบนี้แล้วคุณแก้วสรรยังกล้าบอกว่าคุณยิ่งลักษณ์ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอีกหรือครับ
คุณแก้วสรรครับ ยังจำได้ไหมครับเรื่องคุณสมบัติของคุณยิ่งลักษณ์ ซึ่งคุณแก้วสรรให้สัมภาษณ์กับทางช่อง 7 ว่าการนำประเด็นนี้มาพูดถึง มันจะกลายเป็นหาเรื่องกลั่นแกล้งกัน ซึ่งหน้าข้าวหน้าเหล้าอย่างนี้ นักเลงเขาไม่ทำกัน แต่คล้อยหลังเพียงสิบกว่าวัน ก็เป็นคุณแก้วสรรนี่แหละที่กลับนำเรื่องนี้มากลั่นแกล้งคุณยิ่งลักษณ์ แบบนี้คุณแก้วสรรจะเรียกว่าตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ หรือ เพราะถูกอำนาจที่ยากปฏิเสธ จนทำให้ยอมเสียสุนัข กลืนน้ำลายตัวเอง?
ส่วนเรื่องการเลือกข้างนั้นมันไม่ผิดหรอกครับคุณแก้วสรร เพียงแต่พื้นฐานทางวิชาการจะละทิ้งไม่ได้เป็นอันขาด แต่การกระทำที่ผ่านมา คุณแก้วสรรเคยมองเห็นหรือยังว่า นอกจากทำให้ความเป็นนักวิชาการของคุณแก้วสรรเสื่อมถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนผลตอบแทนกลับมานั้น มันก็แค่ได้มีโอกาสกำจัดเสี้ยมหนามแทนพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเท่านั้น สำเร็จแล้วเขาเห็นคุณค่าหรือเปล่าครับคุณแก้วสรร แม้แต่ยอมบากหน้าไปขอสมัครเป็นผู้ว่า กทม.ให้กับพรรคที่คุณแก้วสรรพยายามอุ้มชู แล้วเป็นไงครับ หน้าแตกหมอไม่ได้เย็บ ยังไม่เข็ดไม่หลาบอีกหรือครับคุณแก้วสรร
แต่ที่เสร็จนา เขาไม่ฆ่าโคถึกอย่างคุณแก้วสรร ก็ไม่ใช่เพราะเห็นความสามารถหรอกนะครับ เขาเพียงแต่ยังเห็นว่าพอมีประโยชน์อยู่บ้าง พอหลอกใช้ให้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตยกันต่อไปได้ เพียงแต่คุณแก้วสรรจะยอมไถนาให้นกกินต่อไป แล้วพกเอาความเกลียดชังจากคนส่วนใหญ่ติดตัวไปเรื่อยๆ ก็ตามใจนะครับคุณแก้วสรร
ที่น่าสังเวชที่สุดสำหรับแนวคิดของคุณแก้วสรรนั่นคือ คุณแก้วสรรใช้ส่วนไหนคิดกันครับที่นำเอาคุณยิ่งลักษณ์ไปเปรียบกับนายคิม จองอิลของเกาหลีเหนือ ผมว่าคุณแก้วสรรผิดหวังจนป่วยทางจิตไปแล้วกระมังครับ
คุณแก้วสรรครับ รู้จักประชาธิปไตยแค่ไหนกันครับ แต่ไม่ว่าจะฝักใฝ่เผด็จการแค่ไหน ไม่ว่าจะกลัวการเลือกตั้งแค่ไหน แต่คุณแก้วสรรก็ไม่ควรบิดเบือนหลักของประชาธิปไตย อำนาจจะไม่มีทางได้มาตามวิถีทางประชาธิปไตยหรอกครับ ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เข้าใจหรือยังครับ ที่พวกคุณแก้วสรรดิ้นทุรนทุรายอยู่เวลานี้ จึงเป็นเพียงไม่สามารถจะชนะได้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ต่างหากเล่า จึงได้แต่หวังมีอำนาจพิเศษเข้ามาบิดเบือนประชาธิปไตย แล้วคอยรับเศษอำนาจที่เขามอบให้เหมือนกับสุนัขหิวโซหวังเศษกระดูกที่เขาแบ่งปันให้ คุณแก้วสรรต้องการเพียงแค่นี้จริงๆหรือครับ
สำหรับสื่อฯต่างๆที่คุณแก้วสรรประณามรับจ๊อบเพื่อสร้างความหลงใหลให้กับตระกูลชินเฉกเช่นเดียวกับเกาหลีเหนือนั้น ผมก็ไม่รู้แน่ชัดว่าคุณแก้วสรรได้ข้อมูลจากที่ไหน เพียงแต่อยากถามคุณแก้วสรรว่า ต้องเป็นสื่อฯแบบแนวหน้า ไทยโพสหรือผู้จัดการที่คอยสร้างความแตกแยก สร้างความเกลียดชังให้กับสังคมไทย จึงเป็นสื่อฯที่มีจิตวิญญาณของความเป็นสื่อฯสำหรับคุณแก้วสรรอย่างนั้นหรือ เฮ้อ พวกกระเบื้องลอยน้ำจริงเลยนะคุณแก้วสรร
สุดท้ายที่จะบอกคุณแก้วสรรว่า อำนาจต่างๆตามระบอบประชาธิปไตยนั้น มันอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่เท่านั้น ตราบใดที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดกับประชาชน เกิดกับประเทศชาติ ตราบนั้นประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินครับว่าจะให้อยู่ต่อหรือไม่
แต่อำนาจนอกระบบที่คุณแก้วสรรยอมคลุกด้วยนั้น มันไม่ใช่ครับ นอกจากไม่มีอะไรถ่วงดุลแล้ว ยังไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย แม้แต่ คตส.ที่คุณแก้วสรรทำหน้าที่ ยังออกกฎหมายคุ้มครองทุกการกระทำความผิด นี่หรือครับเป็นประชาธิปไตยที่คุณแก้วสรรรู้จัก ป๊าดโธ่ ไม่มีงาช้างนอกบนปากสุนัขจริงๆ
ดังนั้นสิ่งที่คุณยิ่งลักษณ์ไปแสดงปาฐกถาในวันนั้น จึงเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจริงๆ ส่วนการบิดเบือนนั้น มันเหมาะที่จะใช้กับคุณแก้วสรรกับพวกต่างหากครับ ดังนั้นถ้าจะเป็นไปได้ ผมคิดว่าคุณแก้วสรรควรนำจดหมายโสโครกอันนั้นกลับมาดีกว่านะครับ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อประเทศ แต่เป็นการทำเพื่อคุณแก้วสรรด้วย ไม่หวังดีผมไม่รีบเตือนนะครับคุณแก้วสรร