ผมไม่ได้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ แต่ผมเป็นเพียงนักเดินทางที่มีโอกาสไปประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย
ผมไม่รู้ว่าเหตุผลที่ ธปท. ไม่ลดดอกเบี้ย คืออะไร แต่เหตุผลหนึ่งที่เค้าบอกมาและผมเห็นด้วย คือ เค้าคิดว่าถ้าลดดอกเบี้ยแล้ว
คนจะเข้าไปเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผมเห็นด้วยกับจุดนี้มาก และไม่อยากให้ คนไทยรุ่นหลัง ต้องเป็น "ทาสบ้าน" "ทาสอพาร์ตเมนท์"
เหมือน "คนจีน" "คนญี่ปุ่น" ในปัจจุบัน
ผมมีโอกาสไปจีน หลายครั้ง ตั้งแต่ จีนยังพัฒนาไม่เต็มตัว มีโอกาสพูดคุยกับคนจีน ทั้งที่เป็นญาติ และคนทำงาน
สิ่งหนึ่งในปัจจุบันที่เกิดขึ้นคือ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีน มันเลยเถิด ความเป็นจริงไปแล้วหรือเปล่า
อะไรคือมูลค่าที่แท้จริงของอสังหาริมทรัพย์............................................................................
คนจีน (ทำงานบริษัท หรือ หน่วยงานรัฐ) ส่วนใหญ่ไม่มีเงินฝากธนาคาร (เพราะ เค้าว่าดอกเบี้ยน้อย)
ส่วนใหญ่เค้า ไปซื้อ (เงินผ่อน) อพาร์ตเมนท์กันหมด ใครมีตังค์ในยุคแรกๆ ก็ได้ที่ใจกลางเมือง ใครมีตังค์ยุคหลังก็ได้ชานเมือง
แต่ถ้าใครมีตังค์ในยุคปัจจุบัน อาจได้ที่ "หลังเขา"
เค้า ซื้ออพาร์ตเมนท์ แล้วก็ปล่อยเช่า เอารายได้จากค่าเช่า ไปโป๊ะ แบงค์ ซึ่งปัญหามันก็มี คือ คนจีนที่มาเช่า บางครั้งก็หนีหายไปเลย
เนื่องจากบางครั้งค่าเช่ามันแพงมาก ถ้าคนซื้ออพาร์ตเมนท์ มีเงินเก็บพอมาทดแทนรายจ่ายนี้ก็ดีไป ถ้าไม่มีก็คิดหนัก
อย่างอาจาร์ยมหาลัยท่านหนึ่ง ท่านมีอพาร์ตเมนท์ฟรีของมหาลัยแล้ว ท่านก็นำเงินเดือนท่านมาซื้ออพาร์ตเมนท์มาปล่อยเช่า
ท่านซื้อได้ห้องหนึ่ง แล้วตอนหลัง ท่านก็ใช้ชื่อญาติ ไปซื้ออีกห้องหนึ่งมาปล่อยเช่า
แต่รายนี้ไม่ต้องห่วง คนเช่าเป็นนักศึกษาต่างชาติ
แต่สำหรับคนจีนทั่วไป ถ้าคนเช่าเป็นคนจีนด้วยกัน "กินกันยากมากครับ"
จริงๆแล้ว ปักกิ่ง มีถึง หกวงแหวนแล้ว (ถ้าจำไม่ผิด)
คนปักกิ่งเล่าให้ฟังว่า บ้าน(เช่า)เค้าอยู่วงแหวนรอบที่สี่ เทียบเท่า กับเส้นวนแหวนรอบนอกของเรา (วงแหวนรอบนอกเรา อยู่ครอบครุม นนทบุรี)
เค้าเช่าบ้านหลังนี้ เดือนละ สองหมื่นบาท (อพาร์ทเมนต์หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ) ราคาอพาร์ตเมนต์ประมาณหนึ่งล้านหยวน (ไม่ใช่บาท)
แล้ววงแหวนรอบที่หก มันประมาณไหน มันก็ห่างออกไปอีกประมาณ สิบกิโลเมตร ก็ประมาณ นครปฐม
คุณลองคิดดู คนทำงานในปักกิ่ง (เทียบกับ กทม.) บ้านอยู่ นครปฐม.........
วงแหวนรอบหก เป็น ราคาที่คนทำงานออฟฟิต ทั่วไป ที่ปักกิ่ง พอจะผ่อนได้
แต่กรรมสิทธิ์ในบ้าน (อพาร์ตเมนท์) ที่จีน ก็เพียงแค่ เก้าสิบปีเท่านั้น นั่นหมายถึง รุ่นคุณอยู่ได้ รุ่นลูกคุณอยู่ได้ แต่อาจตายไม่ได้ที่นี่
ในญี่ปุ่นไม่ต่างกัน เพื่อนพี่สาวผม แต่งงานไปกับคนญี่ปุ่น (ไอ้เราก็นึกว่าเค้าโชคดีจริงๆ)
แฟนเพื่อนพี่สาวผม ทำงานในโตเกียว นั่งรถไฟความเร็วสูงเข้ามาทำงาน ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง
ผมไม่รู้ว่า ระยะเวลานั่งรถไฟความเร็วสูงหนึ่งชั่วโมง มันไกลจากโตเกียวแค่ไหน
แต่บ้านที่เค้าอยู่กับสามี ผ่อนห้าสิบปี (แต่ยังดีที่กรรมสิทธิ์ตกไปได้ถึงลูกหลานเหลนโหลน)
เวลาเค้าจะมาเจอ พี่สาวผม ต้องนัดเวลาให้ดี เพื่อที่เค้าจะได้กะเวลาขึ้นรถไฟถูกเวลา (บ้านเราเหรอ ชิวๆ ขับรถไปเจอสบายๆ)
ส่วนอพาร์ตเมนท์ในเมือง ไม่ต้องห่วง ใหญ่กว่า รูหนู นิดเดียว
สถานการณ์นี้ เกิดที่ ฮองกง มาเก๊า
ผมถามทุกท่านว่า ปรกติ ท่านซื้ออพาร์ตเมนท์ที่ไทย คิดเป็น "ตารางเมตร" ใช่ไหมครับ
ที่ ฮองกง มาเก๊า ซื้อขายเป็น "ตารางฟุต" นะครับ ใช่ครับ "ตารางฟุต" ทุกท่านลองเอา ไม้บรรทัด มาขีด กวาง คูณ ยาว ท่านได้ที่เท่านั้นเอง
และเป็นที่ใน อพาร์ทเมนต์ด้วย ไม่ใช่ "ที่ดิน"
ผมไม่ได้ว่า การเก็งกำไร ในอสังหาริมทรัพย์ไม่ดี
แต่ผมสงสาร คนไทย รุ่นลูกรุ่นหลาน เท่านั้นเอง ถ้าเค้าต้องทำงานทั้งชีวิต เพื่อมาเป็น "ทาสบ้าน" "ทาสอพาร์ตเมนต์"
ปล. เงินเดือน คนฮองกง มาเก๊า และญี่ปุ่น ดีกว่าคนไทยมาก อย่างคนฮองกง สตาร์ทที่ สี่หมื่นบาทไทย
ปล. แต่เงินเดือนคนจีน ยังพอๆ กับคนไทยอยู่ สตาร์ทที่ หมื่นกว่าๆ (ผมสงสารผู้ชายจีนมากกว่า จะหาเมียที่ปักกิ่ง กับเซี่ยงไฮ้ ยากโครต
ถ้าไม่มีบ้าน กับ รถ)
ผมไม่ได้กลัว ฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ แต่ผมกลัวราคาอสังหาริมทรัพย์มันแพงเกินอัตราเงินเฟ้อและรายได้เฉลี่ยมากกว่า
ผมไม่รู้ว่าเหตุผลที่ ธปท. ไม่ลดดอกเบี้ย คืออะไร แต่เหตุผลหนึ่งที่เค้าบอกมาและผมเห็นด้วย คือ เค้าคิดว่าถ้าลดดอกเบี้ยแล้ว
คนจะเข้าไปเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผมเห็นด้วยกับจุดนี้มาก และไม่อยากให้ คนไทยรุ่นหลัง ต้องเป็น "ทาสบ้าน" "ทาสอพาร์ตเมนท์"
เหมือน "คนจีน" "คนญี่ปุ่น" ในปัจจุบัน
ผมมีโอกาสไปจีน หลายครั้ง ตั้งแต่ จีนยังพัฒนาไม่เต็มตัว มีโอกาสพูดคุยกับคนจีน ทั้งที่เป็นญาติ และคนทำงาน
สิ่งหนึ่งในปัจจุบันที่เกิดขึ้นคือ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีน มันเลยเถิด ความเป็นจริงไปแล้วหรือเปล่า
อะไรคือมูลค่าที่แท้จริงของอสังหาริมทรัพย์............................................................................
คนจีน (ทำงานบริษัท หรือ หน่วยงานรัฐ) ส่วนใหญ่ไม่มีเงินฝากธนาคาร (เพราะ เค้าว่าดอกเบี้ยน้อย)
ส่วนใหญ่เค้า ไปซื้อ (เงินผ่อน) อพาร์ตเมนท์กันหมด ใครมีตังค์ในยุคแรกๆ ก็ได้ที่ใจกลางเมือง ใครมีตังค์ยุคหลังก็ได้ชานเมือง
แต่ถ้าใครมีตังค์ในยุคปัจจุบัน อาจได้ที่ "หลังเขา"
เค้า ซื้ออพาร์ตเมนท์ แล้วก็ปล่อยเช่า เอารายได้จากค่าเช่า ไปโป๊ะ แบงค์ ซึ่งปัญหามันก็มี คือ คนจีนที่มาเช่า บางครั้งก็หนีหายไปเลย
เนื่องจากบางครั้งค่าเช่ามันแพงมาก ถ้าคนซื้ออพาร์ตเมนท์ มีเงินเก็บพอมาทดแทนรายจ่ายนี้ก็ดีไป ถ้าไม่มีก็คิดหนัก
อย่างอาจาร์ยมหาลัยท่านหนึ่ง ท่านมีอพาร์ตเมนท์ฟรีของมหาลัยแล้ว ท่านก็นำเงินเดือนท่านมาซื้ออพาร์ตเมนท์มาปล่อยเช่า
ท่านซื้อได้ห้องหนึ่ง แล้วตอนหลัง ท่านก็ใช้ชื่อญาติ ไปซื้ออีกห้องหนึ่งมาปล่อยเช่า
แต่รายนี้ไม่ต้องห่วง คนเช่าเป็นนักศึกษาต่างชาติ
แต่สำหรับคนจีนทั่วไป ถ้าคนเช่าเป็นคนจีนด้วยกัน "กินกันยากมากครับ"
จริงๆแล้ว ปักกิ่ง มีถึง หกวงแหวนแล้ว (ถ้าจำไม่ผิด)
คนปักกิ่งเล่าให้ฟังว่า บ้าน(เช่า)เค้าอยู่วงแหวนรอบที่สี่ เทียบเท่า กับเส้นวนแหวนรอบนอกของเรา (วงแหวนรอบนอกเรา อยู่ครอบครุม นนทบุรี)
เค้าเช่าบ้านหลังนี้ เดือนละ สองหมื่นบาท (อพาร์ทเมนต์หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ) ราคาอพาร์ตเมนต์ประมาณหนึ่งล้านหยวน (ไม่ใช่บาท)
แล้ววงแหวนรอบที่หก มันประมาณไหน มันก็ห่างออกไปอีกประมาณ สิบกิโลเมตร ก็ประมาณ นครปฐม
คุณลองคิดดู คนทำงานในปักกิ่ง (เทียบกับ กทม.) บ้านอยู่ นครปฐม.........
วงแหวนรอบหก เป็น ราคาที่คนทำงานออฟฟิต ทั่วไป ที่ปักกิ่ง พอจะผ่อนได้
แต่กรรมสิทธิ์ในบ้าน (อพาร์ตเมนท์) ที่จีน ก็เพียงแค่ เก้าสิบปีเท่านั้น นั่นหมายถึง รุ่นคุณอยู่ได้ รุ่นลูกคุณอยู่ได้ แต่อาจตายไม่ได้ที่นี่
ในญี่ปุ่นไม่ต่างกัน เพื่อนพี่สาวผม แต่งงานไปกับคนญี่ปุ่น (ไอ้เราก็นึกว่าเค้าโชคดีจริงๆ)
แฟนเพื่อนพี่สาวผม ทำงานในโตเกียว นั่งรถไฟความเร็วสูงเข้ามาทำงาน ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง
ผมไม่รู้ว่า ระยะเวลานั่งรถไฟความเร็วสูงหนึ่งชั่วโมง มันไกลจากโตเกียวแค่ไหน
แต่บ้านที่เค้าอยู่กับสามี ผ่อนห้าสิบปี (แต่ยังดีที่กรรมสิทธิ์ตกไปได้ถึงลูกหลานเหลนโหลน)
เวลาเค้าจะมาเจอ พี่สาวผม ต้องนัดเวลาให้ดี เพื่อที่เค้าจะได้กะเวลาขึ้นรถไฟถูกเวลา (บ้านเราเหรอ ชิวๆ ขับรถไปเจอสบายๆ)
ส่วนอพาร์ตเมนท์ในเมือง ไม่ต้องห่วง ใหญ่กว่า รูหนู นิดเดียว
สถานการณ์นี้ เกิดที่ ฮองกง มาเก๊า
ผมถามทุกท่านว่า ปรกติ ท่านซื้ออพาร์ตเมนท์ที่ไทย คิดเป็น "ตารางเมตร" ใช่ไหมครับ
ที่ ฮองกง มาเก๊า ซื้อขายเป็น "ตารางฟุต" นะครับ ใช่ครับ "ตารางฟุต" ทุกท่านลองเอา ไม้บรรทัด มาขีด กวาง คูณ ยาว ท่านได้ที่เท่านั้นเอง
และเป็นที่ใน อพาร์ทเมนต์ด้วย ไม่ใช่ "ที่ดิน"
ผมไม่ได้ว่า การเก็งกำไร ในอสังหาริมทรัพย์ไม่ดี
แต่ผมสงสาร คนไทย รุ่นลูกรุ่นหลาน เท่านั้นเอง ถ้าเค้าต้องทำงานทั้งชีวิต เพื่อมาเป็น "ทาสบ้าน" "ทาสอพาร์ตเมนต์"
ปล. เงินเดือน คนฮองกง มาเก๊า และญี่ปุ่น ดีกว่าคนไทยมาก อย่างคนฮองกง สตาร์ทที่ สี่หมื่นบาทไทย
ปล. แต่เงินเดือนคนจีน ยังพอๆ กับคนไทยอยู่ สตาร์ทที่ หมื่นกว่าๆ (ผมสงสารผู้ชายจีนมากกว่า จะหาเมียที่ปักกิ่ง กับเซี่ยงไฮ้ ยากโครต
ถ้าไม่มีบ้าน กับ รถ)