แนวคิด วิธีคิด การบริหารจัดการ การใช้อำนาจ ผมว่าแกคงหนีไม่พ้นในสิ่งที่แกทำเหมือนๆ กับนักการเมืองที่แกเคยเป็นมาก่อน
นักการเมืองบ้านเราชอบที่จะใช้ "อำนาจ" นำหน้าองค์ความรู้หรือระบบและกระบวนการที่ถูกต้อง
อำนาจที่ว่านั้นมีหลายรูปแบบ รูปแบบที่สำคัญและใช้ได้ผลที่สุดคือ
"อำนาจเงิน"
ใครที่ยังไม่เคยสัมผัสกับการทำงานของนักการเมืองก็คงยังไม่เข้าใจ
ตัวผมและเพื่อนร่วมงานได้เคยสัมผัส เคยพบ เคยทราบสิ่งเหล่านี้มาบ้างแล้ว
นักการเมืองมักไม่สนใจกระบวนการการทำงานที่ถูกต้อง หรือการบริหารจัดการที่เป็นระบบ
แต่มักจะใช้ปัจจัยที่สามารถเป็นตัวเร่งให้งานหรือสิ่งที่ต้องการลุล่วง นั่นคือ
"อำนาจ"
กรณีของการปลดโค้ชแต๊กก็เช่นกัน
แม้ที่ผ่านมาเรามองว่าคุณเนวินเป็นประธานสโมสรที่บ้าบอลมากคนหนึ่ง เป็นเจ้าบุญทุ่ม เป็นเจ้าของทีมที่พร้อมทุ่มเททุกอย่างเพื่อทีม
แต่ลึก ๆ ผมยังมีความเชื่อว่าแนวทางการบริหารของคุณเนวินคือการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ
เป็นแนวทางของนักการเมืองที่เราเห็นในปัจจุบัน
ไม่ต้องการบอร์ดบริหาร ไม่ต้องการความเห็นจากกรรมการ แต่คิดว่าทำอย่างไรให้ได้ผลเร็วที่สุด และสร้างชื่อเสียงให้ได้มากที่สุด
เราจึงมักมองภาพของบุรีรัมย์ยูไนเต็ดคู่กับคุณเนวิน
น้อยคนจะนึกถึงโค้ชแต๊ก
ผมคิดเช่นนั้นครับ
ภาพที่คุณเนวินนั้่งข้างโค้ชแต๊กคุมทีมข้างสนามเป็นภาพที่ชินตามาก
วัฒนธรรมแบบไทย ๆ มักเคารพให้แก่ผู้มีอำนาจ และละเลยกติกาหรือระเบียบที่ปฏิบัติกัน
เราจึงเห็นผู้มีอำนาจทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับบอลไทยและทำให้บอลไทยเกิดความวุ่นวาย
หลายสโมสรเป็นเช่นนั้น
การบริหารอย่างมืออาชีพมีอยู่ค่อนข้างน้อย
เมืองทอง ชลบุรี บีจี เทโร
ยักษ์ใหญ่เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าทีมฟุตบอลมีวัฏจักรของมัน จะขึ้น จะลง แต่ก็สามารถอยู่ได้
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับทีมอาจทำให้สั่นคลอน แต่ทีมยังคงอยู่ด้วยโครงสร้างการบริหารที่เข้มแข็ง
ลองย้อนไปมองดูหลายๆ ทีมที่ขึ้นอยู่กับเจ้าของคนเดียวหรือคนที่อุดหนุนทีมหาเงินเข้าทีมคนเดียว
พอตกชั้นหรือเกิดปัญหาภายในขึ้น
ทีมไม่มีโครงสร้างมารองรับอยู่แล้ว ก็โงนเงน พร้อมจะล้มทุกเมื่อ
ฟุตบอลไทยกำลังก้าวสู่ความเป็นอาชีพ
โครงสร้างทุกอย่างต้องค่อย ๆ ก่อขึ้นมาเพื่อรองรับระบบที่เกิดขึ้นและทำให้ทีมอยู่ได้
เราเห็นกันอยู่ว่านักการเมืองในสภา เข้ามาและเดินออกไป ทิ้งอะไรให้เราดูบ้าง
ผมไม่ได้หมายความว่าในทีมฟุตบอลจะเป็นเช่นนั้น
แต่ด้วยความเป็น "นักการเมือง" แบบไทย ๆ
ผมเชื่อว่าเราคงได้เห็นอะไรในวงการฟุตบอลอีกเยอะครับ
อย่าลืมว่ายังไงซะคุณเนวินก็คือ "นักการเมือง"
นักการเมืองบ้านเราชอบที่จะใช้ "อำนาจ" นำหน้าองค์ความรู้หรือระบบและกระบวนการที่ถูกต้อง
อำนาจที่ว่านั้นมีหลายรูปแบบ รูปแบบที่สำคัญและใช้ได้ผลที่สุดคือ
"อำนาจเงิน"
ใครที่ยังไม่เคยสัมผัสกับการทำงานของนักการเมืองก็คงยังไม่เข้าใจ
ตัวผมและเพื่อนร่วมงานได้เคยสัมผัส เคยพบ เคยทราบสิ่งเหล่านี้มาบ้างแล้ว
นักการเมืองมักไม่สนใจกระบวนการการทำงานที่ถูกต้อง หรือการบริหารจัดการที่เป็นระบบ
แต่มักจะใช้ปัจจัยที่สามารถเป็นตัวเร่งให้งานหรือสิ่งที่ต้องการลุล่วง นั่นคือ
"อำนาจ"
กรณีของการปลดโค้ชแต๊กก็เช่นกัน
แม้ที่ผ่านมาเรามองว่าคุณเนวินเป็นประธานสโมสรที่บ้าบอลมากคนหนึ่ง เป็นเจ้าบุญทุ่ม เป็นเจ้าของทีมที่พร้อมทุ่มเททุกอย่างเพื่อทีม
แต่ลึก ๆ ผมยังมีความเชื่อว่าแนวทางการบริหารของคุณเนวินคือการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ
เป็นแนวทางของนักการเมืองที่เราเห็นในปัจจุบัน
ไม่ต้องการบอร์ดบริหาร ไม่ต้องการความเห็นจากกรรมการ แต่คิดว่าทำอย่างไรให้ได้ผลเร็วที่สุด และสร้างชื่อเสียงให้ได้มากที่สุด
เราจึงมักมองภาพของบุรีรัมย์ยูไนเต็ดคู่กับคุณเนวิน
น้อยคนจะนึกถึงโค้ชแต๊ก
ผมคิดเช่นนั้นครับ
ภาพที่คุณเนวินนั้่งข้างโค้ชแต๊กคุมทีมข้างสนามเป็นภาพที่ชินตามาก
วัฒนธรรมแบบไทย ๆ มักเคารพให้แก่ผู้มีอำนาจ และละเลยกติกาหรือระเบียบที่ปฏิบัติกัน
เราจึงเห็นผู้มีอำนาจทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับบอลไทยและทำให้บอลไทยเกิดความวุ่นวาย
หลายสโมสรเป็นเช่นนั้น
การบริหารอย่างมืออาชีพมีอยู่ค่อนข้างน้อย
เมืองทอง ชลบุรี บีจี เทโร
ยักษ์ใหญ่เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าทีมฟุตบอลมีวัฏจักรของมัน จะขึ้น จะลง แต่ก็สามารถอยู่ได้
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับทีมอาจทำให้สั่นคลอน แต่ทีมยังคงอยู่ด้วยโครงสร้างการบริหารที่เข้มแข็ง
ลองย้อนไปมองดูหลายๆ ทีมที่ขึ้นอยู่กับเจ้าของคนเดียวหรือคนที่อุดหนุนทีมหาเงินเข้าทีมคนเดียว
พอตกชั้นหรือเกิดปัญหาภายในขึ้น
ทีมไม่มีโครงสร้างมารองรับอยู่แล้ว ก็โงนเงน พร้อมจะล้มทุกเมื่อ
ฟุตบอลไทยกำลังก้าวสู่ความเป็นอาชีพ
โครงสร้างทุกอย่างต้องค่อย ๆ ก่อขึ้นมาเพื่อรองรับระบบที่เกิดขึ้นและทำให้ทีมอยู่ได้
เราเห็นกันอยู่ว่านักการเมืองในสภา เข้ามาและเดินออกไป ทิ้งอะไรให้เราดูบ้าง
ผมไม่ได้หมายความว่าในทีมฟุตบอลจะเป็นเช่นนั้น
แต่ด้วยความเป็น "นักการเมือง" แบบไทย ๆ
ผมเชื่อว่าเราคงได้เห็นอะไรในวงการฟุตบอลอีกเยอะครับ