กว่าสามปีที่ไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวสู้คดี มาดูกันสิว่าพวกเขาคือ "อาชญากร" ที่ควรติดคุกตลอดชีวิตไหม

กระทู้สนทนา
ล่าสุดวันนี้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ให้จำคุกผู้ต้องหาคตลอดชีวิตที่กระทำความผิดร้ายแรง ร่วมกันเผาศาลากลางจังหวัด คือ
1. น.ส.ปัทมา มูลมิล
2. นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ
3. นายสนอง เกตุสุวรรณ
4. นายสมศักดิ์  ประสานทรัพย์
แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 33 ปี 12 เดือน และศาลจะได้ส่งรายละเอียดคำพิพากษาให้จำเลยรับทราบ
เนื่องจากจำเลยทั้ง 4 ไม่ได้มาฟังคำพิพากษ าเพราะถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษบางเขน กรุงเทพฯ
http://www.manager.co.th/south/ViewNews.aspx?NewsID=9560000052923

นายสนอง เกตุสุวรรณ์ ถูกจับระหว่างทำหน้าที่แทนนายท่ารถที่ตลาดเทศบาลเมืองวารินชำราบ ตำรวจนอกเครื่องแบบจับเขาใส่กุญแจมือไขว้หลังโดยไม่มีหมายจับแต่อย่างใด เมื่อไปถึง สภ.เมืองอุบลฯ ตำรวจข่มขู่ให้เขายอมรับว่าเป็นคนเผาศาลากลาง   สนองให้การว่า เขาถูกตำรวจและทหารการข่าวขอร้องให้เข้าไปห้ามปรามไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เขาห้ามผู้ชุมนุมและช่วยดับไฟที่อาคารธนารักษ์สำเร็จ แต่กลับถูกถ่ายภาพ และใช้เป็นหลักฐานกล่าวหาว่าเขาร่วมเผา ซ้ำร้ายตำรวจยังบันทึกคำให้การของเขาเพี้ยนจาก  “อย่าเผาอาคารธนารักษ์ เผายงเผายางอะไรก็เผาไป” กลายเป็น “ไปเผาศาลากลางเลย”  

นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ ตำรวจมาที่บ้านพ่อของเขา และเชิญตัวไปให้การที่โรงพักโดยไม่มีหมายศาล สมศักดิ์ให้การต่อศาลว่า เขาเป็นอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อป.พร.) และเป็นเหยี่ยวข่าวอาชญากรรมให้กับ สภ.วารินชำราบ ในวันเกิดเหตุ เขาได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารจากประธาน อป.พร. ให้ไปช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยที่ศาลากลาง เขาไปถึงศาลากลางตอนเที่ยง ต่อมา ในช่วงบ่าย เมื่อผู้ชุมนุมพังรั้วศาลากลางเข้าไป เขาได้ยินเสียงปืน และผู้ชุมนุม 2 คนล้มลงห่างจากเขาเพียง 30 เมตร จึงวิ่งเข้าไปช่วย และนำขึ้นรถเพื่อส่งโรงพยาบาล จากนั้น เขาก็ยังเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่อีกจนกระทั่งศาลากลางไฟไหม้  

น.ส.ปัทมา มูลมิล ถูกจับกุมที่สถานีขนส่ง จ.สุรินทร์ โดยก่อนหน้านั้นตำรวจได้ควบคุมตัวเพื่อนของปัทมาซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เผาไปที่โรงพัก จ.สุรินทร์ ข่มขู่ จนถึงตบหน้าเพื่อให้บอกว่าปัทมาอยู่ที่ใด ตัวปัทมาเอง ขณะเข้าจับกุมตำรวจได้จับเธอกดคอลงกับพื้น เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นปืนกำลังจ่อหัว เมื่อไปถึงโรงพัก เธอถูกข่มขู่ว่า หากไม่รับสารภาพจะแจ้งข้อหากับเพื่อนของเธอว่า ให้ที่พักพิงผู้ต้องหา ปัทมาจึงจำต้องรับสารภาพ   หลังจากนั้น เธอก็ถูกบังคับให้แถลงข่าวว่าเป็นคนเผาศาลากลาง แต่เธอเลือกนั่งนิ่งแทน

นายธีรวัฒน์  สัจสุวรรณ ถูกจับกุมในเวลาประมาณ 06.00 น. ขณะนอนหลับอยู่ที่บ้าน ตอนแรกตำรวจแจ้งว่าต้องการให้ธีระวัฒน์มาเป็นพยานในคดีเสื้อแดง แต่เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ เขาก็ถูกนำตัวไปกักขัง จากนั้น ตำรวจก็ข่มขู่ ตลอดจนใช้แฟ้มตีศีรษะ เพื่อให้เขารับสารภาพ และเซ็นรับว่าชายชุดดำปิดหน้าในภาพถ่ายเป็นตัวเขา แต่เขาไม่ยอม เพราะไม่ใช่เขาจริงๆ เขายอมรับว่าเขาไปที่ศาลากลาง แต่ไม่ได้แต่งตัวแบบนั้น และได้แต่ยืนดูเหตุการณ์อยู่รอบๆ  ในที่สุด ตำรวจเกลี้ยกล่อมว่าจะกันตัวไว้เป็นพยานแล้วจะปล่อยกลับบ้าน เขาจึงยอมเซ็น แต่แล้วก็โดนตั้งข้อหาร้ายแรง  
http://prachatai.com/journal/2011/08/36615

ทั้ง 4 คน  คือสี่ในจำนวน 21 คนที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี

พวกเขาเผาศาลากลางจริงไหม ?
หรือเป็นเหยื่อของสถานการณ์ ?
หรือเป็นแพะรับบาปจากความผิดที่ไม่ได้ก่อ  เพื่อตอบสนองการทำลายล้างกันทางการเมือง ?

ดูชื่อแต่ละคน  ดูอาชีพแต่ละคน  ดูชีวิตแต่ละคน   พวกเขาคืออาชญากรที่ไม่สมควรได้รับการนิรโทษกรรมหรือ ?

ศาลากลางหนึ่งหลัง  มีค่ากว่าชีวิตพลเมืองหนึ่งชีวิตอย่างนั้นหรือ
หรือเพราะศาลากลางคือเครื่องหมายของ "อำนาจ" ที่ต้องสั่งสอนให้รู้ว่าอย่ามาหาญต้าน

แม้กระทั่งการประกันตัวก็ยังไม่ได้รับความเมตตาและความเป็นธรรม

ไม่มีการเข็ดหลาบจากผู้โดนกระทำ   จะมีแต่การแข็งขืนยืนสู้
ความเข้าใจ  ความเป็นธรรมต่างหากคือแนวทางที่ประชาชนต้องการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่