มายาตวัน ต้องสร้างตามบทประพันธ์เป๊ะขนาดนั้นเลยเหรอคะ เสียดายนักแสดงมาก ๆ เลย

ก็เข้าใจนะคะบางคนที่บอกว่าเหมือนบทประพันธ์ดี อิ่มเอมในการเสพอรรถรสอันค่อยเป็นค่อยไป  แต่ถ้าจะเอาประพันธ์มาทำเป็นละครเนี่ย มันไม่สามารถดัดแปลงให้น่าติดตามได้บ้างเลยเหรอ  คือ หากเป็นหนังมันยังแยกกลุ่มตามความชอบได้  แต่ละครคนดูทุกเพศ ทุกวัย และถ้าจะอืดอาด ไม่มีแกนเรื่อง และมาสนุก น่าติดตามเอา 3 ตอนสุดท้าย เนี่ยก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ แล้วจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอกับการต้องตัดบทไปมา เพื่อให้รองรับกับอีก 2 เรื่องที่เหลือ เลยกลายเป็นว่าเรื่องแรกไม่ปะติดปะต่อ เยิ่นเย้อ พอกำลังน่าติดตาม อ้าวสลับไปอีกคู่นึงและ สลับไปมาอยู่นั่นแหละ  สงสารนักแสดงเรื่องแรกจริง ๆ เรตติ้ง 6-7 นี่ก็ถือว่าสูงสำหรับเนื้อเรื่องเนิบนาบอย่างนี้  นักแสดงแต่ละคนมี power ในการดึงคนดูทั้งนั้น ก็ยังเอาไม่อยู่เพราะตัวบทแสนจะเบาสุด ๆ

ญาญ่า  มีแฟนตั้งแต่รุ่นเยาว์ ไปจนถึงวัยทำงาน
อั้ม อธิชาติ มีแฟนตั้งแต่วัยทำงาน ไปจนถึงวัยกลางคน
ศรราม มีแฟนตั้งแต่วัยทำงาน กลางคน จนถึงรุ่นพ่อ รุ่นแม่  โดยเฉพาะศรราม ก่อนฉายเห็นคนที่เคยอ่านบอกว่า บทจะเฉือดเฉือนกับพระเอก ดูเข้าจริง อภิโธ่ ความจะมีบทบาทสำคัญ เอาเมื่อเกือบจะจบ เวรแท้

เพียงแต่ถ้าเนื้อเรื่องจะสนุก น่าติดตาม กระชับให้มากกว่านี้สักนิดนึง คนดูเยอะกว่านี้แน่นอน ได้แต่เสียดาย แต่คิดว่า เรื่องต่อไปน่าจะสนุกขึ้น เพราะไม่ต้องปูเรื่อง เยอะแยะสลับไปมาอีก 2 คู่เท่าไร และเน้นฉากบู๊ สืบสวน สอบสวน น่าจะเรียกคนดูกลับมาได้ไม่ยาก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
พฤติกรรมการดูละครของคนสมัยใหม่เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่จะมีสมาธิสั้น ไม่ชอบอะไรที่เรียบๆเรื่อยๆมาเรียงๆ ชอบอะไรที่กระชับฉับไว ลุ้นตั้งแต่เปิดเรื่องยันจบเรื่อง

ลองกลับไปดูละครสมัยก่อน (ประมาณ 15 ปีขึ้นไป) ละครเกือบทั้งหมดก็มักจะเป็นแบบเปิดเรื่องปูทางปูภูมิหลังของตัวละครต่างๆ ชนิดเรื่อยๆมาเรียงๆ เพื่อให้รู้ที่มาที่ไป ก็เห็นหลายเรื่องประสบความสำเร็จขึ้นหิ้งจนเป็นเวอร์ชั่นคลาสสิคมานักต่อนัก

สรุป....      ผู้ผลิตสร้างละครได้อย่างเรื่อยๆเอื่อยๆอืดๆ เดินเรื่องช้าน่าเบื่อน่ารำคาญ หรือว่า  คนดูมีสมาธิสั้นไม่มีความอดทนในการเข้าถึงงานศิลปะการละครกันแน่?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่