เจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย
เครื่องบินมาถึงท่าอากาศยาน คิงส์ อับดุลลาซิซ อินเตอร์เนชันแนล แอร์พอร์ต King Abdulaziz Internation Airport โดยสวัสดิภาพ เป็นเวลาอันสดใสเช้าของวันใหม่ เมื่อเครื่องลงจอด เราก็เดินเข้ามาสู่ตัวอาคาร เป็นวินาทีลุ้นระทึกของลีน่า แอร์สาวผู้ลักลอบขนสิ่งผิดกฏหมายเข้าประเทศ คือเนื้อหมูเค็ม จะถูกจับกุมหรือไม่
แต่แล้วหมูเค็มในกระเป๋าของลีน่า ก็รอดหูรอดตาผ่านด่านตรวจมาได้ อาจเป็นเพราะความสวยของลูกเรือไทย ทำให้ด่านตรวจมัวแต่มองเพลินจนลืมดูกระเป๋าก็เป็นได้
ในที่สุดเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว พวกเราก็พากันเดินเฉิดฉายออกมาจากตัวอาคาร รถตู้จอดรออยู่ก่อนแล้ว ก็ทยอยกันขึ้นรถ ที่จอดรอต่อแถว พาเราไปยังคอมปาวด์ compound ที่พักอันเป็นเขตเฉพาะสำหรับลูกเรือต่างชาติ
อากาศร้อนอบอ้าวแบบสุดๆ แสงแดดสาดลำลงมา จนฉันต้องหรี่ตาหลบแดดอันแผดเปรี้ยง สมกับเป็นดินแดนแถบทะเลทรายจริงๆ แต่ก็ยังดีที่มีลมเย็นพัดโชยมาเป็นระรอก จากฝั่งทะเลแดงให้ชื่นใจอยู่บ้าง ขณะมองออกไปจากรถตู้ที่แล่นไปบนถนนอันกว้างใหญ่ไพศาล
บรรยากาศโดยรอบดูแห้งแล้งปราศจากต้นไม้ไม่เหมือนเมืองไทย สีเขียวที่พอจะมองเห็นได้ก็มีเพียงต้นหญ้า กับสีเขียวเป็นหย่อมๆปาล์มต้นใหญ่ที่ขึ้นเรียงราย อยู่สองฝั่งของถนนปูลาดด้วยคอนกรีตเท่านั้น ไกลออกไปก็เป็นภูเขาแห้งแล้งที่มีแต่หิน และอูฐเท่านั้นที่สามารถทนอยู่ในสภาพอันแห้งแล้งเช่นนี้ พวกมันเดินไปมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
แต่กระนั้นตึกรามบ้านช่องของเขาก็ออกแบบได้ทันสมัย สวยงาม และดูคลาสสิกในคราเดียวกัน สิ่งปลูกสร้างทั้งหลายดูผสมผสานกลมกลืนกันอย่างลงตัว ไม่มีแปลกแยกสะดุดตาแบบประหลาดๆให้เหลียวหลังแบบบ้านเรา แต่ละหลังมีดีไซน์ที่หลากหลายไม่ซ้ำแบบกัน แต่ที่เหมือนกันหมดคือทุกบ้านจะไม่มีหลังคา เหตุเพราะประเทศนี้แห้งแล้งฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาลมาชั่วนาตาปี พวกเขาจึงต้องออกแบบหลังคาสำหรับกักเก็บรองรับน้ำฝนที่ตกลงมา แล้วสายตาอันเฉียบไวของ ลีน่า เพื่อนสาวคนสวย ก็สะกิดบอกมาว่า “เมื่อกี้เราเห็นที่นี่เค้ามีป้ายเขียนว่า มินิสทรี ออฟ อินทีเรีย Ministry of Interior ด้วยล่ะ” ฉันก็เลย อ้อ ไม่แปลกใจว่าทำไมการออกแบบแต่งแต้ม อาคารบ้านเรือนของประเทศซาอุฯจึงดูมีระดับไม่ธรรมดาน่าชื่นชมนัก
สุเหล่าขนาดใหญ่ มีหลังคาทรงกลมยอดปลายแหลม ปรากฏเด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
ความเคร่งขรึมของตัวอาคาร และสถาปติยกรรมโบราณอันงดงามเก่าแก่ ข่มขวัญคณะกลุ่มเล็กๆของเราที่กำลังเลี้ยวรถผ่าน พร้อมประกาศเตือนให้เคารพต่อศาสนา และวัฒนธรรมของประเทศนี้ให้มาก
ฉันเบิกตากว้างเช่นเดียวกันคนอื่นๆ คิดว่าประเทศนี้ช่างน่ายำเกรงเหลือเกิน เป็นความรู้สึกของคนที่มาเยือนดินแดนแห่งนี้เป็นครั้งแรก
ในความเก่าแก่อันมีมนต์ขลังเหล่านั้น ฉันพบว่า ยังมีความทันสมัยสอดแทรกอยู่ด้วย เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองฉันก็เริ่มเห็นว่า มีรถสปอร์ตเก๋ๆหลายคันโฉบผ่านหน้าผ่านตาไป บ้างก็จอดเด่นหราอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าทันสมัยใหญ่โต มีให้เห็นสะดุดตาอยู่เป็นระยะๆ แสดงถึงความเจริญทางด้านวัตถุที่เริ่มเข้ามามีบทบาท แต่พวกเขาก็ยังสามารถรักษาความเจริญทางด้านจิตวิญญาณ และคำสอนในศาสนาของพวกเขาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย
แล้วรถตู้ก็แล่นมาบนถนนสายหลัก พรินซ์สุลต่านสตรีท Prince Sultan Street จากนั้นก็เลี้ยวขวาพาพวกเราเข้ามา สู่บริเวณด้านหน้าของเขตที่พักลูกเรือต่างชาติ มูฮัมมัดดิยาห์ คอมปาวด์ Muhammadiyah Compound ได้ยินว่าคอมปาวด์ แห่งนี้ เป็นของเจ้าชายองค์หนึ่งนามมูฮัมมัด
ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่สิ่งปลูกสร้าง ยิ่งใหญ่อลังการณ์งานสร้างนี้จะก็เป็นของเชื้อพระวงศ์ แล้วฉันก็เดาว่าเจ้าชายนามมูฮัมมัดคงมีอยู่นับร้อยกว่าพระองค์ ประเทศซาอุดิอาระเบียมีเจ้าชายอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากสุลตานมีภรรยาจำนวนไม่น้อย จึงสามารถผลิตเจ้าชายออกมามากมายหลายรุ่น องค์เล็กองค์น้อย องค์ใหญ่องค์โต มีตั้งแต่ชั้นต้นยังชั้นปลายแถว เรียงรายกันมาชนิดนับได้จำนวนไม่ครบถ้วน (น่าคอลเลคทำแคตตาล็อคให้เลือกจิ้ม อุ๊บส์) กระทั่งสุลต่านเองก็อาจจะงงๆหลงๆลืมๆไปบ้าง ว่ามีเจ้าชายทั้งหมดกี่องค์ในซาอุดิอาระเบีย
ไม่แน่ว่าขณะที่เดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้า ก็อาจมีเจ้าชายองค์ใดองค์หนึ่ง บังเอิญเดินผ่านหน้าเราไปก็เป็นได้ สาวๆหลายคนอาจบังเอิญพบเจ้าชายในฝันที่เป็นจริง เพียงแต่สาวๆไม่ทราบเท่านั้นเองว่าใครคือเจ้าชายตัวจริงเสียงจริง เพราะเจ้าชายอาหรับก็แต่งการเหมือนสามัญชนคนธรรมดาทั่วๆไปนั่นแหล่ะ คือสวมชุดโต๊ปสีขาวแขนยาว ชุดคลุมยาวถึงข้อเท้า แบบเดียวกันหมดทั่วประเทศ ไม่แบ่งแยกดีเหมือนกันจะว่าไป
รุ่นพี่คนหนึ่งเล่าว่ามีลูกเรือไทยคนนึงก็คบหาอยู่กับเจ้าชาย ชีวิตเลยกลายเป็นหนูตกถังน้ำมัน เพียงแต่เธอคนนั้นไม่ใช่แอร์ หากแต่เป็นสจ๊วตหนุ่มรูปหล่อ!!?
ประเด็นหนึ่ง ที่ทำให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นมากมายในประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นเพราะกฏหมายของทางการซาอุฯ มีความรุนแรงเหี้ยมโหดเป็นอย่างมาก เรื่องความสัมพันธุ์ของเพศตรงข้าม หากชายหญิงที่มิได้เกี่ยวดองสายเลือดเดียวกัน ถ้าไม่ได้แต่งงานกัน อยู่ด้วยกันแตะเนื้อต้องตัวกัน เท่านี้ก็สามารถถูกจับกุม เอาตัวไปขังคุก หรือไม่ก็ถูกจับโบยตี จับมัดให้คนรุมขว้างปาหินก็มี
เคยมีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นในประเทศซาอุดิอาระเบีย หัวข้อว่า ซาอุฯจับ 57 หนุ่ม ข้อหาจีบหญิงในห้าง ข้อมูลข่าวมีดังนี้ บีบีซีรายงานวันที่ 23 ก.พ. ทางการซาอุดีอาระเบีย สอบสวนชายหนุ่ม 57 รายที่ถูกจับกุมตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ฐานต้องสงสัยจีบสาวในห้างสรรพสินค้าในนครเมกกะ โดยชายหนุ่มกลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่า ใส่เสื้อผ้าไม่เหมาะสม เปิดเพลงเสียงดัง และเต้นรำ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสาวๆ ในห้าง ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายของประเทศที่เป็นอิสลามสายเคร่ง แต่หนุ่มๆ ให้การว่า ตนเองแค่ไปรวมกลุ่มสังสรรค์กันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้แล...จึงทำให้ชายชาวซาอุดี้ เข็ดขยาดหวาดกลัวเพศแม่ จนต้องหันไปใช้บริการเพศเดียวกันแทน
“เย้ย!” ใครคนหนึ่งร้องลั่น ชี้โบ้ชี้เบ้ ทำให้ฉันและลูกเรือคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในรถ สะดุ้งตัวไปตามๆกัน เมื่อหันไปพบกันสิ่งนั้นเข้า ก็ถึงกับผวา
ทหารอาหรับกลุ่มหนึ่งเต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ท่าทางดุดัน เครียดครัด และเก็บกด ยืนถือปืนเรียงกันอยู่หน้าด่านประตูทางเข้า ลักษณะเป็นซุ้มหลังคามุงสังกะสี มีลวดหนามม้วนขดเป็นวงต่อเนื่องเป็นเส้นยาวอยู่บนกำแพงใหญ่ พร้อมกับปืนบรรจุลูกซองไม่ระบุจำนวนลำยาวเงาวับ ตั้งข่มขวัญอาคันตุกะอยู่บนคันรองเหล็ก ซึ่งยึดติดกับฐานทรงสี่เหลี่ยม หันปากกระบอกมายังรถตู้ที่แล่นเข้ามา สู่อาณาเขตของพวกเขาอย่างใจกล้าท้าทาย
‘แอร๊ย! นี่มันค่ายกักกันชัดๆ’ ฉันกรีดร้องในใจอย่างไม่เชื่อสายตา นึกสภาพว่าจะต้องกลายมาเป็นหนึ่งในผู้อพยพต่างด้าว ที่ถูกกักบริเวณด้วยความปลงสังเวชสลดใจ
หนึ่งในทหารหน้าโฉดก็เข้ามาขอตรวจ passport และบัตรประจำตัวลูกเรือทุกคน จากนั้นก็เปิดทางให้รถตู้ผ่านเข้าไปข้างใน เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาสู่บริเวณคอมปาวด์ ความรู้สึกหวาดไม่สบายใจของฉันก็อันตธานหายไปสิ้น สายตาเป็นประกายทอดมองออกมาจากรถ ด้วยความตื่นเต้นที่เข้ามาแทนที่ ภายในคอมปาวด์แห่งนี้ มีอาณาบริเวณพื้นที่กว้างขวาง ถนนทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา มีต้นไม้ต่างชนิดมากมาย หลากหลายสายพันธุ์ ช่วยให้สถานที่ดูร่มรื่น ไม่แห้งแล้งแตกต่างจากข้างนอกสิ้นเชิง มีต้นปาล์มกับไม่ยืนต้นพันธุ์อื่น ปลูกกระจายกันอยู่บริเวณรอบๆตัวอาคาร จำนวนมากมายหลายสิบหลัง แต่ละหลังเว้นระยะห่างกันพอสมควร ตัวอาคารนั้นมีสีครีมอ่อนๆ ดูเก่าแต่ก็ทันสมัยไม่ซ้ำแบบใคร ผนังด้านนอกบางส่วนเจาะลายฉลุ ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ได้กลิ่นอายสไตร์อาราเบี้ยน
ที่นี่คือศูนย์รวมของลูกเรือจากหลายสายการบิน มาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นอาณานิคม อาทิเช่น Air France, Air Atlanta, Air Asia, Garuda Airlines, Royal Jordanian และสายการบินอื่นๆอีกมากมายหลายสายการบิน
ภายในคอมปาวด์แห่งนี้ คือฟรีด้อมแพลนเน็ต แห่งเดียวในซาอุดิอาระเบีย ที่นี่ลูกเรือหญิง-ชาย มีอิสระภาพไม่จำกัด ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดอาบาย่าหรือคลุมหน้าด้วยฮิญาบ จะแต่งตัวยังไงก็ไม่มีใครมาว่า จะใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด เดินไปเดินมาก็ไม่มีใครจับ แต่กระนั้น ฉันก็ไม่กล้าประมาท ยังคงแต่งกายรัดกุมอยู่เสมอ
ในอาณานิคมแห่งนี้ มีสระว่ายน้ำ ร้านสะดวกซื้อ ร้านทำผม ร้านซักรีด ร้านอาหาร ห้องฟิตเนส ห้องกระจกสำหรับเล่นสนุ๊กและปิงปอง สนามเทนนิส และแม้กระทั่งไนท์คลับก็ยังมี
นอกจากนี้ยังมีแมวอาหรับ หน้าตาน่ารักหลายตัว เดินป้วนเปี้ยนคลอเคลียอยู่ให้เห็นทั่วไป หลายคนชอบเข้าไปอุ้มไปกอดเล่นและเอาอาหารไปให้ พวกมันกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของลูกเรือได้โดยปริยาย โดยเฉพาะลูกเรือไทยที่แสดงความเป็น นางสาวไทยรักหมาแมวออกนอกหน้า หารู้ไม่ว่าพวกมันมีหมัดอาหรับ สายพันธุ์โครตดุ ที่ต่อมาเล่นงานพวกเราเสียคันยิบ ขาลายพร้อยไปตามๆกัน เดือดร้อนต้องไปหาหมอขอยามาทา ถึงขั้นต้องจ้างบริษัทกำจัดหมัด มาฉีดยากำจัดหมัดแมวให้ราบคาบ
v
v
Suwayya Arabian Airlines [04 - เจดดาห์]
เครื่องบินมาถึงท่าอากาศยาน คิงส์ อับดุลลาซิซ อินเตอร์เนชันแนล แอร์พอร์ต King Abdulaziz Internation Airport โดยสวัสดิภาพ เป็นเวลาอันสดใสเช้าของวันใหม่ เมื่อเครื่องลงจอด เราก็เดินเข้ามาสู่ตัวอาคาร เป็นวินาทีลุ้นระทึกของลีน่า แอร์สาวผู้ลักลอบขนสิ่งผิดกฏหมายเข้าประเทศ คือเนื้อหมูเค็ม จะถูกจับกุมหรือไม่
แต่แล้วหมูเค็มในกระเป๋าของลีน่า ก็รอดหูรอดตาผ่านด่านตรวจมาได้ อาจเป็นเพราะความสวยของลูกเรือไทย ทำให้ด่านตรวจมัวแต่มองเพลินจนลืมดูกระเป๋าก็เป็นได้
ในที่สุดเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว พวกเราก็พากันเดินเฉิดฉายออกมาจากตัวอาคาร รถตู้จอดรออยู่ก่อนแล้ว ก็ทยอยกันขึ้นรถ ที่จอดรอต่อแถว พาเราไปยังคอมปาวด์ compound ที่พักอันเป็นเขตเฉพาะสำหรับลูกเรือต่างชาติ
อากาศร้อนอบอ้าวแบบสุดๆ แสงแดดสาดลำลงมา จนฉันต้องหรี่ตาหลบแดดอันแผดเปรี้ยง สมกับเป็นดินแดนแถบทะเลทรายจริงๆ แต่ก็ยังดีที่มีลมเย็นพัดโชยมาเป็นระรอก จากฝั่งทะเลแดงให้ชื่นใจอยู่บ้าง ขณะมองออกไปจากรถตู้ที่แล่นไปบนถนนอันกว้างใหญ่ไพศาล
บรรยากาศโดยรอบดูแห้งแล้งปราศจากต้นไม้ไม่เหมือนเมืองไทย สีเขียวที่พอจะมองเห็นได้ก็มีเพียงต้นหญ้า กับสีเขียวเป็นหย่อมๆปาล์มต้นใหญ่ที่ขึ้นเรียงราย อยู่สองฝั่งของถนนปูลาดด้วยคอนกรีตเท่านั้น ไกลออกไปก็เป็นภูเขาแห้งแล้งที่มีแต่หิน และอูฐเท่านั้นที่สามารถทนอยู่ในสภาพอันแห้งแล้งเช่นนี้ พวกมันเดินไปมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
แต่กระนั้นตึกรามบ้านช่องของเขาก็ออกแบบได้ทันสมัย สวยงาม และดูคลาสสิกในคราเดียวกัน สิ่งปลูกสร้างทั้งหลายดูผสมผสานกลมกลืนกันอย่างลงตัว ไม่มีแปลกแยกสะดุดตาแบบประหลาดๆให้เหลียวหลังแบบบ้านเรา แต่ละหลังมีดีไซน์ที่หลากหลายไม่ซ้ำแบบกัน แต่ที่เหมือนกันหมดคือทุกบ้านจะไม่มีหลังคา เหตุเพราะประเทศนี้แห้งแล้งฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาลมาชั่วนาตาปี พวกเขาจึงต้องออกแบบหลังคาสำหรับกักเก็บรองรับน้ำฝนที่ตกลงมา แล้วสายตาอันเฉียบไวของ ลีน่า เพื่อนสาวคนสวย ก็สะกิดบอกมาว่า “เมื่อกี้เราเห็นที่นี่เค้ามีป้ายเขียนว่า มินิสทรี ออฟ อินทีเรีย Ministry of Interior ด้วยล่ะ” ฉันก็เลย อ้อ ไม่แปลกใจว่าทำไมการออกแบบแต่งแต้ม อาคารบ้านเรือนของประเทศซาอุฯจึงดูมีระดับไม่ธรรมดาน่าชื่นชมนัก
สุเหล่าขนาดใหญ่ มีหลังคาทรงกลมยอดปลายแหลม ปรากฏเด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
ความเคร่งขรึมของตัวอาคาร และสถาปติยกรรมโบราณอันงดงามเก่าแก่ ข่มขวัญคณะกลุ่มเล็กๆของเราที่กำลังเลี้ยวรถผ่าน พร้อมประกาศเตือนให้เคารพต่อศาสนา และวัฒนธรรมของประเทศนี้ให้มาก
ฉันเบิกตากว้างเช่นเดียวกันคนอื่นๆ คิดว่าประเทศนี้ช่างน่ายำเกรงเหลือเกิน เป็นความรู้สึกของคนที่มาเยือนดินแดนแห่งนี้เป็นครั้งแรก
ในความเก่าแก่อันมีมนต์ขลังเหล่านั้น ฉันพบว่า ยังมีความทันสมัยสอดแทรกอยู่ด้วย เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองฉันก็เริ่มเห็นว่า มีรถสปอร์ตเก๋ๆหลายคันโฉบผ่านหน้าผ่านตาไป บ้างก็จอดเด่นหราอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าทันสมัยใหญ่โต มีให้เห็นสะดุดตาอยู่เป็นระยะๆ แสดงถึงความเจริญทางด้านวัตถุที่เริ่มเข้ามามีบทบาท แต่พวกเขาก็ยังสามารถรักษาความเจริญทางด้านจิตวิญญาณ และคำสอนในศาสนาของพวกเขาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย
แล้วรถตู้ก็แล่นมาบนถนนสายหลัก พรินซ์สุลต่านสตรีท Prince Sultan Street จากนั้นก็เลี้ยวขวาพาพวกเราเข้ามา สู่บริเวณด้านหน้าของเขตที่พักลูกเรือต่างชาติ มูฮัมมัดดิยาห์ คอมปาวด์ Muhammadiyah Compound ได้ยินว่าคอมปาวด์ แห่งนี้ เป็นของเจ้าชายองค์หนึ่งนามมูฮัมมัด
ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่สิ่งปลูกสร้าง ยิ่งใหญ่อลังการณ์งานสร้างนี้จะก็เป็นของเชื้อพระวงศ์ แล้วฉันก็เดาว่าเจ้าชายนามมูฮัมมัดคงมีอยู่นับร้อยกว่าพระองค์ ประเทศซาอุดิอาระเบียมีเจ้าชายอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากสุลตานมีภรรยาจำนวนไม่น้อย จึงสามารถผลิตเจ้าชายออกมามากมายหลายรุ่น องค์เล็กองค์น้อย องค์ใหญ่องค์โต มีตั้งแต่ชั้นต้นยังชั้นปลายแถว เรียงรายกันมาชนิดนับได้จำนวนไม่ครบถ้วน (น่าคอลเลคทำแคตตาล็อคให้เลือกจิ้ม อุ๊บส์) กระทั่งสุลต่านเองก็อาจจะงงๆหลงๆลืมๆไปบ้าง ว่ามีเจ้าชายทั้งหมดกี่องค์ในซาอุดิอาระเบีย
ไม่แน่ว่าขณะที่เดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้า ก็อาจมีเจ้าชายองค์ใดองค์หนึ่ง บังเอิญเดินผ่านหน้าเราไปก็เป็นได้ สาวๆหลายคนอาจบังเอิญพบเจ้าชายในฝันที่เป็นจริง เพียงแต่สาวๆไม่ทราบเท่านั้นเองว่าใครคือเจ้าชายตัวจริงเสียงจริง เพราะเจ้าชายอาหรับก็แต่งการเหมือนสามัญชนคนธรรมดาทั่วๆไปนั่นแหล่ะ คือสวมชุดโต๊ปสีขาวแขนยาว ชุดคลุมยาวถึงข้อเท้า แบบเดียวกันหมดทั่วประเทศ ไม่แบ่งแยกดีเหมือนกันจะว่าไป
รุ่นพี่คนหนึ่งเล่าว่ามีลูกเรือไทยคนนึงก็คบหาอยู่กับเจ้าชาย ชีวิตเลยกลายเป็นหนูตกถังน้ำมัน เพียงแต่เธอคนนั้นไม่ใช่แอร์ หากแต่เป็นสจ๊วตหนุ่มรูปหล่อ!!?
ประเด็นหนึ่ง ที่ทำให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นมากมายในประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นเพราะกฏหมายของทางการซาอุฯ มีความรุนแรงเหี้ยมโหดเป็นอย่างมาก เรื่องความสัมพันธุ์ของเพศตรงข้าม หากชายหญิงที่มิได้เกี่ยวดองสายเลือดเดียวกัน ถ้าไม่ได้แต่งงานกัน อยู่ด้วยกันแตะเนื้อต้องตัวกัน เท่านี้ก็สามารถถูกจับกุม เอาตัวไปขังคุก หรือไม่ก็ถูกจับโบยตี จับมัดให้คนรุมขว้างปาหินก็มี
เคยมีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นในประเทศซาอุดิอาระเบีย หัวข้อว่า ซาอุฯจับ 57 หนุ่ม ข้อหาจีบหญิงในห้าง ข้อมูลข่าวมีดังนี้ บีบีซีรายงานวันที่ 23 ก.พ. ทางการซาอุดีอาระเบีย สอบสวนชายหนุ่ม 57 รายที่ถูกจับกุมตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ฐานต้องสงสัยจีบสาวในห้างสรรพสินค้าในนครเมกกะ โดยชายหนุ่มกลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่า ใส่เสื้อผ้าไม่เหมาะสม เปิดเพลงเสียงดัง และเต้นรำ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสาวๆ ในห้าง ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายของประเทศที่เป็นอิสลามสายเคร่ง แต่หนุ่มๆ ให้การว่า ตนเองแค่ไปรวมกลุ่มสังสรรค์กันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้แล...จึงทำให้ชายชาวซาอุดี้ เข็ดขยาดหวาดกลัวเพศแม่ จนต้องหันไปใช้บริการเพศเดียวกันแทน
“เย้ย!” ใครคนหนึ่งร้องลั่น ชี้โบ้ชี้เบ้ ทำให้ฉันและลูกเรือคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในรถ สะดุ้งตัวไปตามๆกัน เมื่อหันไปพบกันสิ่งนั้นเข้า ก็ถึงกับผวา
ทหารอาหรับกลุ่มหนึ่งเต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ท่าทางดุดัน เครียดครัด และเก็บกด ยืนถือปืนเรียงกันอยู่หน้าด่านประตูทางเข้า ลักษณะเป็นซุ้มหลังคามุงสังกะสี มีลวดหนามม้วนขดเป็นวงต่อเนื่องเป็นเส้นยาวอยู่บนกำแพงใหญ่ พร้อมกับปืนบรรจุลูกซองไม่ระบุจำนวนลำยาวเงาวับ ตั้งข่มขวัญอาคันตุกะอยู่บนคันรองเหล็ก ซึ่งยึดติดกับฐานทรงสี่เหลี่ยม หันปากกระบอกมายังรถตู้ที่แล่นเข้ามา สู่อาณาเขตของพวกเขาอย่างใจกล้าท้าทาย
‘แอร๊ย! นี่มันค่ายกักกันชัดๆ’ ฉันกรีดร้องในใจอย่างไม่เชื่อสายตา นึกสภาพว่าจะต้องกลายมาเป็นหนึ่งในผู้อพยพต่างด้าว ที่ถูกกักบริเวณด้วยความปลงสังเวชสลดใจ
หนึ่งในทหารหน้าโฉดก็เข้ามาขอตรวจ passport และบัตรประจำตัวลูกเรือทุกคน จากนั้นก็เปิดทางให้รถตู้ผ่านเข้าไปข้างใน เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาสู่บริเวณคอมปาวด์ ความรู้สึกหวาดไม่สบายใจของฉันก็อันตธานหายไปสิ้น สายตาเป็นประกายทอดมองออกมาจากรถ ด้วยความตื่นเต้นที่เข้ามาแทนที่ ภายในคอมปาวด์แห่งนี้ มีอาณาบริเวณพื้นที่กว้างขวาง ถนนทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา มีต้นไม้ต่างชนิดมากมาย หลากหลายสายพันธุ์ ช่วยให้สถานที่ดูร่มรื่น ไม่แห้งแล้งแตกต่างจากข้างนอกสิ้นเชิง มีต้นปาล์มกับไม่ยืนต้นพันธุ์อื่น ปลูกกระจายกันอยู่บริเวณรอบๆตัวอาคาร จำนวนมากมายหลายสิบหลัง แต่ละหลังเว้นระยะห่างกันพอสมควร ตัวอาคารนั้นมีสีครีมอ่อนๆ ดูเก่าแต่ก็ทันสมัยไม่ซ้ำแบบใคร ผนังด้านนอกบางส่วนเจาะลายฉลุ ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ได้กลิ่นอายสไตร์อาราเบี้ยน
ที่นี่คือศูนย์รวมของลูกเรือจากหลายสายการบิน มาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นอาณานิคม อาทิเช่น Air France, Air Atlanta, Air Asia, Garuda Airlines, Royal Jordanian และสายการบินอื่นๆอีกมากมายหลายสายการบิน
ภายในคอมปาวด์แห่งนี้ คือฟรีด้อมแพลนเน็ต แห่งเดียวในซาอุดิอาระเบีย ที่นี่ลูกเรือหญิง-ชาย มีอิสระภาพไม่จำกัด ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดอาบาย่าหรือคลุมหน้าด้วยฮิญาบ จะแต่งตัวยังไงก็ไม่มีใครมาว่า จะใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด เดินไปเดินมาก็ไม่มีใครจับ แต่กระนั้น ฉันก็ไม่กล้าประมาท ยังคงแต่งกายรัดกุมอยู่เสมอ
ในอาณานิคมแห่งนี้ มีสระว่ายน้ำ ร้านสะดวกซื้อ ร้านทำผม ร้านซักรีด ร้านอาหาร ห้องฟิตเนส ห้องกระจกสำหรับเล่นสนุ๊กและปิงปอง สนามเทนนิส และแม้กระทั่งไนท์คลับก็ยังมี
นอกจากนี้ยังมีแมวอาหรับ หน้าตาน่ารักหลายตัว เดินป้วนเปี้ยนคลอเคลียอยู่ให้เห็นทั่วไป หลายคนชอบเข้าไปอุ้มไปกอดเล่นและเอาอาหารไปให้ พวกมันกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของลูกเรือได้โดยปริยาย โดยเฉพาะลูกเรือไทยที่แสดงความเป็น นางสาวไทยรักหมาแมวออกนอกหน้า หารู้ไม่ว่าพวกมันมีหมัดอาหรับ สายพันธุ์โครตดุ ที่ต่อมาเล่นงานพวกเราเสียคันยิบ ขาลายพร้อยไปตามๆกัน เดือดร้อนต้องไปหาหมอขอยามาทา ถึงขั้นต้องจ้างบริษัทกำจัดหมัด มาฉีดยากำจัดหมัดแมวให้ราบคาบ
v
v