ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า กระทู้นี้ของปาน ไม่ได้มีสาระ อะไรกับใครหรอกนะคะ หากท่านไม่มีเวลามากพอ ไม่ต้องอ่านก็ได้ ปานไม่อยากรบกวนเวลาโดยไม่ตั้งใจค่ะ
เริ่มเรื่อง...ปานเป็นคนที่ไม่ว่าจะเรียน ทำงาน ออกสังคม ในหมู่เพื่อน ปานจะเป็นแถวหน้าเสมอค่ะ ไม่เคยเป็นผู้ตาม ไม่เคย อยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่า..ด้อย ปานเป็นคนรักศักดิ์ศรีมาก แทบจะเป็นคนหยิ่ง พูดคำไหนคำนั้น เท่าที่จำได้ไม่เคยผิดคำพูดเลย ทะนงในตัวเองมาก ถึงแม้จะหวานมาก และอ่อนน้อม ยอมคนมากก็ตาม ความหวาน ยินยอม หยวน ไม่สู้คนของปาน มันแค่ภายนอกค่ะ เพราะปานไม่ชอบมีเรื่อง
ทีนี้...ปานทำธุรกิจคะ และด้วยความที่หลงว่าตัวเองเก่ง เลยคิดไม่เหมือนใคร ตัวอย่างในที่นี้คือ เจ้าอื่นนับสิบๆ เจ้าขายของชนิดนี้ 30 ชิ้น 100 บาท ปานจะขาย 36 ชิ้น 120 บาท หากคุณๆ ลองคำนวณดู จะทราบว่าราคาต่อชิ้นเท่ากัน ปานมั่นใจว่าปานต้องขายได้แน่ แถมยอดต่อหน่วยที่สูงขึ้น น่าจะทำให้ยอดขายดีขึ้นด้วย
ปรากฏว่า ขายไม่ได้ค่ะ อธิบายกับลูกค้าเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เค้าคิดแต่ว่าเราแพงกว่า กดเครื่องคิดเลขให้ดูก็ไม่สน เค้าบอกว่าเค้าเคยชินแบบนั้น แบบนั้นถูกกว่า หุ้นส่วนบอกให้เปลี่ยนมาทำเหมือนเจ้าอื่นๆ ปานไม่ยอมค่ะ รู้สึกว่ามันเสียหน้ามาก ยืนยันว่าแบบเราต้องเวิคร์
ปานเปลี่ยนวิธีใหม่ ยอมลดกำไรค่ะ เป็น 39 ชิ้น 120 บาท คำนวณดูจะรู้ว่า ถูกกว่าชิ้นละ 0.25 บาท กำไรลดลงมากค่ะ
ไปเสนออีก ลูกค้าไม่ยอมรับเช่นเดิมค่ะ บอกว่าแพงกว่า กดเครื่องคิดเลขให้ดู อธิบายยังไงก็ไม่สน “ชั้นเคยซื้อของชั้นแบบนี้” อย่าให้ปานต้องพูดถึงวิธีอธิบายเลยนะคะ ทีมปานทั้งทีม ลองมา 108 จนถอดใจแล้ว ยอดตกลงเรื่อยๆ
...อนึ่ง...จากปัญหาครั้งนี้ ทำให้ปานรู้ว่า ปานวิเคราะห์ลูกค้าผิด ลูกค้าของปานส่วนใหญ่คือ จบระดับประถม อายุน้อยๆ ก็ 40 ขึ้น หัวโบราณ ยืนยัน และไม่ฟังคำอธิบายซะเป็นส่วนมาก ความเคยชินคือเรื่องสำคัญ (ท่านที่มีคุณย่า ตา ยาย ในบ้าน คงพอเข้าใจสถานการณ์นะคะ) ปานไปคิดลูกค้าเปรียบเทียบกับตัวเอง (ปานจบด้นคณิตค่ะ ชอบตัวเลขมาก) คิดว่าลูกค้าต้องเปรียบเทียบหาสิ่งที่คุ้มที่สุดเข้าร้าน แต่มันผิดคาดไปหมด
...วันนี้
เป็นวันที่ปานแบกรับปัญหาแทบไม่ไหวแล้ว ปานตัดสินใจ เปลี่ยนราคาสินค้า 30 ชิ้น 99 บาท คราวนี้หุ้นส่วนและทีมที่เค้าลงสนาม ยืนยันว่าชัวร์ ขายได้แน่ (ตั้งแต่ต้น ปานไม่เคยเชื่อทีมเลยค่ะ เชื่อแต่ตัวเอง ที่นั่งอยู่แต่ออฟฟิศ แต่วันนี้ต้องลองยอมรับฟังเค้า ฟังคนที่เรียนน้อยกว่า คิดตื้นกว่า ปานต้องยอมรับความคิดเห็นคนอื่นแล้ว ..ขอบคุณสถานะการณ์)
แต่ปานไม่สบายใจคะ...เรื่องที่ไม่สบายใจคือ คู่แข่งเคยปรามาสปานไว้ว่า ทำแบบตอนแรก ไม่มีทางขายได้ เปลี่ยนมาทำแบบเค้าดีกว่ามั้ย พูดแบบเยาะและดูถูกมาก เราก็ทะนงมาตอดว่าไม่มีทางเลียนแบบใคร ชั้นเก่งพอ ชั้นอยู่ได้
ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ปานต้องโดนคำว่า เลียนแบบ สุดท้ายก็ไม่รอด ต้องมาทำแบบนี้ ไหนว่าเก่ง ไหนว่าไม่ทำเหมือนใคร
มันขัดกับคนที่ทะนงในความคิดตัวเองมาก
ถามว่าปานรู้มั้ยว่ากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง มันคือธุรกิจ ไม่เห็นเสียศักดิ์ศรีตรงไหน ...ปานรู้ค่ะ แต่มันก็บอกตัวเองให้เชื่อแบบนั้นไม่ได้ คิดว่าหลายท่านคงเข้าใจ ที่รู้ว่าอะไรถูกต้อง แต่มีความสุขกับความถูกต้องไม่ได้ เพราะมันขัดตัวตนเดิม
บอกตามตรง..ปานต้องการแรงใจ และการสนับสนุนจากภายนอกค่ะ ปานอธิบายอารมณ์ไม่ถูก ปานต้องเข้มแข็งในคืนนี้ ลูกทีมหลายคนที่ต้องดูแล จากนี้ ปานต้องเป็นหลักในเค้าให้ได้
ขอคำดีๆซักคำเถอะค่ะ...ที่จะพอช่วยให้ปานรู้สึกดีขึ้นบ้าง
ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
ธุรกิจ กับจิตใจ และตัวตน ไม่รู้จะเอาไงดีค่ะ
เริ่มเรื่อง...ปานเป็นคนที่ไม่ว่าจะเรียน ทำงาน ออกสังคม ในหมู่เพื่อน ปานจะเป็นแถวหน้าเสมอค่ะ ไม่เคยเป็นผู้ตาม ไม่เคย อยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่า..ด้อย ปานเป็นคนรักศักดิ์ศรีมาก แทบจะเป็นคนหยิ่ง พูดคำไหนคำนั้น เท่าที่จำได้ไม่เคยผิดคำพูดเลย ทะนงในตัวเองมาก ถึงแม้จะหวานมาก และอ่อนน้อม ยอมคนมากก็ตาม ความหวาน ยินยอม หยวน ไม่สู้คนของปาน มันแค่ภายนอกค่ะ เพราะปานไม่ชอบมีเรื่อง
ทีนี้...ปานทำธุรกิจคะ และด้วยความที่หลงว่าตัวเองเก่ง เลยคิดไม่เหมือนใคร ตัวอย่างในที่นี้คือ เจ้าอื่นนับสิบๆ เจ้าขายของชนิดนี้ 30 ชิ้น 100 บาท ปานจะขาย 36 ชิ้น 120 บาท หากคุณๆ ลองคำนวณดู จะทราบว่าราคาต่อชิ้นเท่ากัน ปานมั่นใจว่าปานต้องขายได้แน่ แถมยอดต่อหน่วยที่สูงขึ้น น่าจะทำให้ยอดขายดีขึ้นด้วย
ปรากฏว่า ขายไม่ได้ค่ะ อธิบายกับลูกค้าเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เค้าคิดแต่ว่าเราแพงกว่า กดเครื่องคิดเลขให้ดูก็ไม่สน เค้าบอกว่าเค้าเคยชินแบบนั้น แบบนั้นถูกกว่า หุ้นส่วนบอกให้เปลี่ยนมาทำเหมือนเจ้าอื่นๆ ปานไม่ยอมค่ะ รู้สึกว่ามันเสียหน้ามาก ยืนยันว่าแบบเราต้องเวิคร์
ปานเปลี่ยนวิธีใหม่ ยอมลดกำไรค่ะ เป็น 39 ชิ้น 120 บาท คำนวณดูจะรู้ว่า ถูกกว่าชิ้นละ 0.25 บาท กำไรลดลงมากค่ะ
ไปเสนออีก ลูกค้าไม่ยอมรับเช่นเดิมค่ะ บอกว่าแพงกว่า กดเครื่องคิดเลขให้ดู อธิบายยังไงก็ไม่สน “ชั้นเคยซื้อของชั้นแบบนี้” อย่าให้ปานต้องพูดถึงวิธีอธิบายเลยนะคะ ทีมปานทั้งทีม ลองมา 108 จนถอดใจแล้ว ยอดตกลงเรื่อยๆ
...อนึ่ง...จากปัญหาครั้งนี้ ทำให้ปานรู้ว่า ปานวิเคราะห์ลูกค้าผิด ลูกค้าของปานส่วนใหญ่คือ จบระดับประถม อายุน้อยๆ ก็ 40 ขึ้น หัวโบราณ ยืนยัน และไม่ฟังคำอธิบายซะเป็นส่วนมาก ความเคยชินคือเรื่องสำคัญ (ท่านที่มีคุณย่า ตา ยาย ในบ้าน คงพอเข้าใจสถานการณ์นะคะ) ปานไปคิดลูกค้าเปรียบเทียบกับตัวเอง (ปานจบด้นคณิตค่ะ ชอบตัวเลขมาก) คิดว่าลูกค้าต้องเปรียบเทียบหาสิ่งที่คุ้มที่สุดเข้าร้าน แต่มันผิดคาดไปหมด
...วันนี้
เป็นวันที่ปานแบกรับปัญหาแทบไม่ไหวแล้ว ปานตัดสินใจ เปลี่ยนราคาสินค้า 30 ชิ้น 99 บาท คราวนี้หุ้นส่วนและทีมที่เค้าลงสนาม ยืนยันว่าชัวร์ ขายได้แน่ (ตั้งแต่ต้น ปานไม่เคยเชื่อทีมเลยค่ะ เชื่อแต่ตัวเอง ที่นั่งอยู่แต่ออฟฟิศ แต่วันนี้ต้องลองยอมรับฟังเค้า ฟังคนที่เรียนน้อยกว่า คิดตื้นกว่า ปานต้องยอมรับความคิดเห็นคนอื่นแล้ว ..ขอบคุณสถานะการณ์)
แต่ปานไม่สบายใจคะ...เรื่องที่ไม่สบายใจคือ คู่แข่งเคยปรามาสปานไว้ว่า ทำแบบตอนแรก ไม่มีทางขายได้ เปลี่ยนมาทำแบบเค้าดีกว่ามั้ย พูดแบบเยาะและดูถูกมาก เราก็ทะนงมาตอดว่าไม่มีทางเลียนแบบใคร ชั้นเก่งพอ ชั้นอยู่ได้
ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ปานต้องโดนคำว่า เลียนแบบ สุดท้ายก็ไม่รอด ต้องมาทำแบบนี้ ไหนว่าเก่ง ไหนว่าไม่ทำเหมือนใคร
มันขัดกับคนที่ทะนงในความคิดตัวเองมาก
ถามว่าปานรู้มั้ยว่ากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง มันคือธุรกิจ ไม่เห็นเสียศักดิ์ศรีตรงไหน ...ปานรู้ค่ะ แต่มันก็บอกตัวเองให้เชื่อแบบนั้นไม่ได้ คิดว่าหลายท่านคงเข้าใจ ที่รู้ว่าอะไรถูกต้อง แต่มีความสุขกับความถูกต้องไม่ได้ เพราะมันขัดตัวตนเดิม
บอกตามตรง..ปานต้องการแรงใจ และการสนับสนุนจากภายนอกค่ะ ปานอธิบายอารมณ์ไม่ถูก ปานต้องเข้มแข็งในคืนนี้ ลูกทีมหลายคนที่ต้องดูแล จากนี้ ปานต้องเป็นหลักในเค้าให้ได้
ขอคำดีๆซักคำเถอะค่ะ...ที่จะพอช่วยให้ปานรู้สึกดีขึ้นบ้าง
ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ