ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องแนวทางการจัดวางตู้ ATM ของทุกๆธนาคารครับ

คือตู้ ATM (Automatic Teller Machine) ในประเทศไทยเรามีพัฒนาการมานานแล้วในเรื่องระบบการอำนวยความสะดวกต่างๆ เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมามีนวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับตู้ ATM ที่นำมาใช้ในประเทศไทยเราก็จะมี Barcode Scanner ไปจนถึง Touch Screen

แถมยังแตกย่อยประเภทตู้ ATM ออกมาเป็นตู้ CDM (Cash Deposit Machine) และ PUM? (Passbook Update Machine)

ไอ้สองอย่างหลังนี่แหละครับที่มาเป็นความไม่เข้าใจแนวทางการจัดหาเครื่องพวกนี้มาใช้งาน

คือเครื่อง ATM ของธนาคารต่างๆในญี่ปุ่นจะมีคุณสมบัติสามอย่าง ATM CDM PUM รวมอยู่ในเครื่อง ATM เครื่องเดียว... (แถมยังเอาเหรียญใส่เข้าฝากได้ด้วย) ซึ่งมันทำให้ประหยัด machine slot หน้าธนาคารได้เยอะทีเดียว แถมกินพื้นที่ไม่มากด้วย

แต่มาดูแต่ละธนาคารในไทย สมมุติว่ามี machine slot หน้าธนาคาร 5 ช่อง ก็จะกลายเป็น
ATM สำหรับถอนเงิน โอนเงิน ชำระบิล ถามยอด เติมเงินมือถือ ไปแล้ว 3 ช่อง
CDM สำหรับฝากเงิน 1 ช่อง
PUM สำหรับอัพเดทสมุดบัญชีอีก 1 ช่อง

ซึ่งบางทีช่อง ATM ก็คิวยาวมาก แต่ช่อง PUM คิวสั้น ส่วนช่อง CDM หร่อมแหรมแทบไม่มีคน
เมื่อมาพิจารณาในแง่ Load Balancing ของพื้นที่ Mechine slot หน้าธนาคารแล้ว ถือว่าไม่ค่อยดีนัก

ถ้าสมมุติว่าธนาคารของไทยได้เปลี่ยนตู้ ATM เป็นแบบญี่ปุ่นทุก slot  ซึ่งรับฝากเงินด้วย อัพเดทสมุดบัญชีด้วย หรือจะโอนเงิน ทำโน่นนี่ก็ได้ ก็น่าจะทำให้ Load Balancing ดีขึ้นเพราะทุก Mechine slot มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน เมื่อมีผู้ใช้หนาแน่น



หรือถ้าหากว่าจะอำนวยความสะดวกขึ้นมาอีกหน่อยก็อาจจะจัด PUM ไว้เล็กๆบนโต๊ะซักเครื่องนึงก็ได้ (จริงๆแล้วเครื่องมันไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ตัวเท่า laser printer เครื่องเดียว)

ถ้าจัดได้อย่างนี้ การรอคิวใช้บริการก็ไม่น่าจะนานกว่าหรือเท่ากับทุกวันนี้นะครับ...
ทุกวันนี้บางทีรอแบบแทบไม่มีจุดหมายเลยไม่รู้ว่าคนข้างหน้าจะเสร็จเมื่อไหร

คิดเห็นเป็นไงบ้างครับ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่