ต่อมน้ำตาแตก ลองสิ

หลายคนคงเคยอ่านแล้ว เราลืมไปแล้ว ไปเจอมาเมื่อกี้ เลยอ่านอีกรอบ
ผู้ชายนี่ก็.....  น้ำตาไหลพลั่กๆเลย

.......................................................................................

เป็นเรื่องของคู่รักคู่หนึ่ง แต่งงานอยู่กินกันมาเป็นเวลา 5 ปี

ทั้งคู่รักกันมาก

ฝ่ายชายเป็นวิศวกรนิวเคลียร์อนาคตไกลทำงานในเมืองใกล้ๆ
ฝ่ายหญิงทำงานเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดชุมชนในเมืองนั้นเอง

วันหนึ่งฝ่ายหญิงประสบอุบัติเหตุ
ทำให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง
และเธอก็ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียการมองเห็น

แต่สามีเธอก็พยายาม ปลอบใจ และให้กำลังใจเธอตลอด
พยายามสอนให้เธอใช้ประสาทสัมผัสให้มากขึ้น
จนสามารถกลับไปทำงานผู้ช่วยในที่ทำงานเดิมได้

ที่ทำงานของเธอกับสามีอยู่คนละทาง
แต่เขาก็ขับรถไปส่งและไปรับอยู่เสมอ

เธอคิดอยู่ในใจตลอดเวลา ว่าคนเพียบพร้อมขนาดเขา
จะยอมจมปลักอยู่กับคนพิการเช่นเธอได้ตลอดไปหรือ
ซักวันเขาจะคิดได้ และทอดทิ้งเธอไป

ไม่นานนัก

เค้าลางที่กังวลระแวง ก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง

เมื่อวันหนึ่ง สามีเธอสารภาพออกมาว่า รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก
กับการที่ทุกเช้าต้องไปส่งเธอที่ห้องสมุดแล้วขับรถอ้อมเมืองย้อนกลับมา
เพื่อมุ่งหน้าสู่ที่ทำงานของตัวเอง

ขอให้เธอลองพยายามขึ้นรถเมล์ไปทำงานเอง
โดยที่เขาไม่ต้องไปรับไปส่งได้ใหม


นาทีนั้น


เหมือนฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อม
เธอโดนปล่อยเกาะ รู้สึกโดดเดี่ยวและน้อยใจสามีเป็นอย่างมาก
แต่เธอหยิ่งพอที่จะไม่ร้องขอ
เธอพยายามขึ้นรถเมล์เอง พยายามไปทำงานด้วยตัวเอง

หลังจากนั้นเขาไม่เคยไปส่งเธอที่ห้องสมุดอีกเลย ปล่อยเธอทุลักทุเล หกล้มหกลุก ไปทำงานเองโดยไม่ใส่ใจไยดี

3 เดือนแห่งความลำบากผ่านไป จะเรียกว่าพรสวรรค์หรือความพยายาม ในที่สุดเธอก็สามารถทำได้
ขึ้นรถไปกลับเองโดยไม่หลงทาง ไม่เดินสะดุดหัวคะมำทุก 10 ก้าวเหมือน 2 เดือนแรก
ตอนนี้เธอจำหินได้ทุกก้อน กระเบื้องได้ทุกแผ่น บนถนนของเธอ


ความชำนาญในเส้นทางนั้นดี แต่ไม่ได้ช่วยให้ลืมเรื่องนึงไปได้


....เค้าไม่ได้รักเธอแล้ว...


วันหนึ่งก่อนที่เธอจะลงรถไปทำงานตามปกติ
คนขับรถเมล์ก็เข้ามาจับแขนเธอและพูดกับเธอว่า

ผมช่างอิจฉาคุณผู้หญิงจริงๆครับ
เธอก็เลยถามว่า อิจฉาเธอเรื่องอะไร
คนขับรถเมล์ก็เลยบอกว่า

3เดือนที่ผ่านมา
ผมจะเห็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเขาจะขึ้นรถเมล์ตอนเช้า
มานั่งตรงเบาะหลังคุณ เฝ้ามองดูคุณด้วยความห่วงใย
และตามคุณลงรถไป เฝ้าดูคุณเดินเข้าไปที่ทำงานอย่างห่วงใย

ตอนเย็น ทุกๆเย็นเขาก็จะมาเฝ้ารอดูคุณขึ้นรถ
และคอยดูคุณจนคุณลงรถ

พอเธอได้ยินดังนั้น เธอก็นำตาไหลด้วยความตื้นตัน
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน
เขายังอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด
เขาเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องคอยมารับมาส่งเธอซะอีก

เธอกลับถึงบ้านด้วยใจอิ่มเอิบ อยากจะขอบคุณและขอโทษสามี
ที่เธอเคยสงสัยในความรักของเขา

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอกลับพบว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
บนเก้าอี้โยกที่นั่งรอเธอหน้าบ้านเหมือนทุกวัน

เพื่อนของสามีเธอ ได้เล่าให้ฟังในภายหลังว่า

เขารู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งจากกัมมันตรังสีเมื่อ 3 เดือนก่อน
และรู้ว่าชีวิตตัวเองต้องจบลงภายใน 3 เดือนโดยไม่มีทางเลี่ยง

เขาไม่เคยห่วงหรือพูดถึงความตายของตัวเอง
เขาพูดถึงแต่เธออันเป็นที่รักของเขา เขาต้องทำอย่างไร ต้องวางเรื่องใดไว้บ้าง
เพื่อให้เธอจะมีชีวิตต่อไปได้ โดยปราศจาคการมีเขาคอยดูแล

เธอหวนนึกถึงคำพูดเขาที่บ่นลอยๆออกมาบ่อยๆว่า
ชีวิตคนมันไม่แน่นอน อาจจจะตายวันนี้ พรุ่งนี้ ได้ทุกเมื่อเลยนะ...

ดูอย่างคุณสิ เมื่อวานคุณมองเห็น
แต่วันนี้ คุณมองไม่เห็นแล้ว...

เธอคิดน้อยใจเขามาตลอด3เดือน
ที่คิดว่าเขาเบื่อรำคาญการเป็นคนตาบอดอย่างเธอ...


ณ วันนี้ เธอรู้แล้ว ว่าความรักที่เขามีให้เธอนั้นยิ่งใหญ่กว่าความตายมากมายนัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่