ผมขอบอกเลยว่าคณะอินเตอร์จุฬา เข้ายากไม่ต่างจากภาคไทยเลยครับ เพราะภาคอินเตอร์มันวัดเด็กเก่งจากคนละข้อสอบ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถ้าเด็กนานาชาติ หรือเด็กที่มีพื้นฐานภาษาดีมาก จะมีโอกาสสอบเข้าได้ง่ายกว่าเด็กไทยธรรมดา และไม่ใช่ว่าเด็กภาคไทยปกติจะสอบเข้าอินเตอร์ได้ ไม่ใช่เลย เพราะเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่สำหรับยื่นอินเตอร์ จุฬา ถือว่าค่อนข้างสูงครับ อย่างเช่น TOFEL(paper-based) ต้องไม่ต่ำกว่า 550 ขณะที่ต่อโทMBA จุฬา เค้าต้องการเพียงไม่ต่ำกว่า 500 เท่านั้น นอกจากนี้ก็จะมีให้ยื่นอย่างอื่นอีกขึ้นอยู่กับคณะ ถ้าสมมติคุณจะเข้าคณะเช่นวิศวะ อินเตอร์ จุฬา ต้องใช้ CU-ATS,CU-ATTและCU-TEP ซึ่งข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษและนอกจากจะคะแนนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้สูงแล้ว ยังต้องทำคะแนนให้ดีพอถึงจะติดและผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ไปครับ ขอบอกเลยว่าหลายคนถึงขนาดสอบเป็นหลายสิบครั้งๆเพื่อที่จะได้คะแนนที่ตนเองพอใจ ซึ่งใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าจะได้แบบนั้น และจากที่ผมเห็นมา มีเด็กติดภาคไทยสละสิทธ์ไปอินเตอร์ก็มีครับ เพราะถ้ามองถึงอนาคตภาษาเป็นสิ่งสำคัญ และถ้าได้ติดตามข่าวจะเห็นว่าตอนนี้ จุฬากำลังเริ่มทำหลักสูตรEnglish Programให้กับภาคไทยบางคณะแล้ว ซึ่งเป็นผลดีต่อตัวเด็กอีกทั้งยังไม่เพิ่มค่าใช้จ่ายจากเดิมถือว่ามีประโยชน์มาก ดังนั้นผมสรุปง่ายๆคือที่คุณเห็นว่าอัตรการแข่งขันมันน้อย อันนั้นมันน้อยกว่าจริงครับ เพราะถ้าเด็กไปสอบแล้วคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ค่อนข้างสูง ยื่นไปก็เสียเปล่าเค้าไม่พิจารณา ผมเห็นเพื่อนๆก็เคยสอบCU-TEPมาหลายครั้ง หลายคนไม่ไหว สอบยังไงก็ไม่ผ่านเกณฑ์ เพราะว่าภาษามันพัฒนายาก ไม่ใช่ว่าจำไม่กี่วันไม่กี่เดือนหรือเรียนพิเศษแล้วจะได้เลย เพราะมันวัดทั้งด้าน grammar vocab listening(หินมาก) reading แต่บางคนพื้นฐานภาษาดีมากเป็นทุนเดิมก็มี สอบไม่กี่ครั้งก็ผ่าน แต่นอกจากนั้นยังต้องไปสอบตัววิชาอื่นอีก ซึ่งถ้าไม่เก่ง ก็ไม่ผ่านอีกอยู่ดี
ผมขอสรุปในความคิดผมว่า ยากต่างกันครับ ไม่จริงเลยที่บอกว่าเข้าง่ายกว่ามาก อยากให้ลองมาสอบเอง แล้วจะรู้ว่ามันวัดต่างกันจริงๆครับ คนที่สอบภาคไทยได้คะแนนสูงโด่ง ไม่ติดอินเตอร์เยอะแยะครับ และก็ไม่แปลกหรอก เพราะพื้นฐานภาษาแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆครับ