"ซีทีเอช" เดินหน้าลงทุนโครงข่ายเพิ่ม "หมื่นล้าน" ขยายบริการไฟเบอร์ทูเดอะโฮม เผย 6 ชาติรุมจีนร่วมถือหุ้น 20% "รูเพิร์ต เมอร์ด็อค"สนร่วมทุน
ภายใต้แผนลงทุนธุรกิจเคเบิลทีวีดิจิทัลระดับชาติ ของ บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ซีทีเอช โดยมีผู้ถือหุ้นหลัก "วิชัย ทองแตง" และผู้บริหารไทยรัฐ ได้ประกาศแผนลงทุนปีนี้รวม 2 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคและการลงทุนคอนเทนท์ช่องรายการที่จะให้บริการในธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย. นี้ พร้อมแพ็คเกจการรับชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ 2013/14 ภายใต้การบริหารของซีทีเอช ต่อเนื่อง 3 ฤดูกาล
นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ซีทีเอช เปิดเผยว่า ตามแผนลงทุนโครงข่ายไฟเบอร์ออปติค มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ของซีทีเอชในปีนี้ พบว่าต้องลงทุนเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายบริการ FTTH (Fiber to the Home) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ความเร็วสูงภายในบ้าน ผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสง ซึ่งจะทำให้การอัพโหลดมีประสิทธิภาพในการรับ-ส่งข้อมูลรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพื่อให้บริการ quad play ในครัวเรือนไทยทั่วประเทศ คือ การให้บริการดาต้า, วีดิโอ, วอยซ์ และ โมบิลิตี้ โดยวางเป้าหมายครอบคลุมครัวเรือนไทยปีแรก 12-13 ล้านครัวเรือน
"เม็ดเงินที่ต้องลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าวเพื่อขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคด้านบริการ FTTH ไปยังครัวเรือนไทยทั่วประเทศให้มากที่สุด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายกับทีโอที และซิมโฟนี และในพื้นที่ต่างจังหวัด โดย ซีทีเอช วางเป้าหมายจะเป็นดาต้า เซ็นเตอร์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย" นายวิชัย กล่าว
จากแผนการวางโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคของซีทีเอช ให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 1-2 ปีจากนี้ ถือเป็นการส่งเสริมโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติของกระทรวงไอซีทีให้เกิดได้เร็วขึ้น อีกทั้งการให้บริการ FTTH ดังกล่าวเพื่อรองรับการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2013-2016 ที่ซีทีเอช จะมีบริการหลากหลายแพ็คเกจให้สมาชิกได้เลือกรับชม รวมทั้งบริการเสริมด้านอินเตอร์แอคทีฟอื่นๆ
"รูเพิร์ต เมอร์ด็อค" สนถือหุ้น
นายวิชัย กล่าวอีกว่าสำหรับหุ้นซีทีเอช อีก 20% ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาหาผู้ร่วมหุ้น ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วย ทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ โดยในกลุ่มต่างชาติมีผู้สนใจ 6 ราย ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ ในกลุ่มธุรกิจสื่อ และสถาบันการเงิน จาก มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน เกาหลี และเจ้าพ่อสื่อ "รูเพิร์ต เมอร์ด็อค" เจ้าของธุรกิจสื่อระดับโลก อาทิ กลุ่มสกาย, ฟ็อกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่แสดงความสนใจว่าจะร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของ ซีทีเอช
โดยเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารซีทีเอช ได้เดินทางไปเซ็นสัญญาจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ที่ประเทศอังกฤษ ในงานดังกล่าว รูเพิร์ต เมอร์ด็อค ได้ส่งกรรมการผู้จัดการ มาร่วมงานและให้ความสนใจในธุรกิจเคเบิลทีวีของซีทีเอช ที่วางแผนขยายการลงทุนโครงข่ายเพื่อเข้าถึงครัวเรือนไทยทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามซีทีเอชอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกพันธมิตรจากหลายกลุ่ม ที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 20% ที่เหลือ
"มีนักลงทุนต่างชาติสนใจจำนวนมาก แต่ละรายหากเอ่ยชื่อแล้วต้องรู้จัก เป็นบิ๊กเนม ทั้งที่อยู่ใกล้บ้านและไกลบ้าน แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร เพราะจะดูเรื่องการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ หรือการใช้ประโยชน์ร่วมกัน (Synergy) เป็นหลักมากกว่าเรื่องเงินทุน เพราะเรื่องเงินเรามีความพร้อมอยู่แล้ว เท่าที่ดูมีนักลงทุนที่มี Synergy อยู่ 4 ราย ทั้งเรื่องเทคโนโลยี เครือข่าย และคอนเทนท์" นายวิชัย กล่าว
ทั้งนี้ การที่มีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ทั้งๆ ที่บริษัทยังไม่เรียบร้อย แสดงว่านักลงทุนให้ความมั่นใจในธุรกิจและมองอนาคตของซีทีเอชในทิศทางที่ดี การพิจารณาร่วมทุนกับรายใดที่จะเป็นประโยชน์กับบริษัทมากสุด คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปประมาณปลายปีนี้ หรือก่อนที่บริษัทจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
ปัจจุบันโครงสร้างบริษัทซีทีเอช ถือหุ้นโดย นายวิชัย ทองแตง 25%, นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล ผู้บริหารไทยรัฐ 25% และ กลุ่มเคเบิลท้องถิ่น 30%
ซื้อคอนเทนท์ "ฟ็อกซ์" 2พันล้าน
นายวิชัย กล่าวอีกว่า นอกจากการลงทุนโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคเพิ่มเติมแล้ว ซีทีเอชได้ลงทุนซื้อคอนเทนท์จากต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท สัญญา 5 ปี โดยจะเปิดตัวในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ถือเป็นการลงทุนคอนเทนท์เพิ่มเติมจากเดิมที่ได้ลงทุน 1 หมื่นล้านบาทในการประมูลบริหารลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล
แหล่งข่าวจากซีทีเอช กล่าวว่า พันธมิตรคอนเทนท์ต่างประเทศล่าสุดที่บรรลุข้อตกลง และเตรียมเปิดตัวในเดือนมิ.ย. นี้ คือกลุ่มฟ็อกซ์ โดยจะมีช่องรายการมาออกอากาศทางแพลตฟอร์มซีทีเอชรวม 24 ช่อง โดยช่องรายการของกลุ่มฟ็อกซ์ เป็นการซื้อลิขสิทธิ์แบบไม่เอ็กซ์คลูซีฟ และมีบางช่องรายการอยู่บนแพลตฟอร์มทรูวิชั่นส์ ซึ่งจะมาออกอากาศทางซีทีเอชเช่นกัน
นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเดือนพ.ค.-มิ.ย. นี้ จะเริ่มเปิดตัวแพ็คเกจต่างๆ ของ ซีทีเอช โดยแพ็คเกจเบสิก จะรับชมได้ 120 ช่อง เริ่มต้น 399 บาทต่อเดือน ส่วนแพ็คเกจพรีเมียร์ลีกจะมีให้เลือกหลายแพ็คเกจโดยสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน สำหรับการรับชม 380 แมทช์ต่อฤดูกาล วางเป้าหมายสมาชิกแพ็คเกจพรีเมียร์ลีก 1 ล้านรายในฤดูกาลแรก ขณะที่รายได้จากสปอนเซอร์ ที่จะเข้ามาสนับสนุนพรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาล วางเป้าหมายรายได้ที่ 50% ของมูลค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก หรือราว 5 พันล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานของซีทีเอชในปีนี้ คาดจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ จากปีก่อนที่มีขาดทุนสะสมอยู่ประมาณ 300 ล้านบาท โดยหากประเมินในเชิงระมัดระวัง หรือคอนเซอร์เวทีฟน่าจะมีกำไรเล็กน้อย แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็น่าจะมีกำไรในระดับร้อยล้านบาท
จาก
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/media/20130427/502651/%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99.html
ข่าว CTH ล่าสุด
ภายใต้แผนลงทุนธุรกิจเคเบิลทีวีดิจิทัลระดับชาติ ของ บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ซีทีเอช โดยมีผู้ถือหุ้นหลัก "วิชัย ทองแตง" และผู้บริหารไทยรัฐ ได้ประกาศแผนลงทุนปีนี้รวม 2 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคและการลงทุนคอนเทนท์ช่องรายการที่จะให้บริการในธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย. นี้ พร้อมแพ็คเกจการรับชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ 2013/14 ภายใต้การบริหารของซีทีเอช ต่อเนื่อง 3 ฤดูกาล
นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ซีทีเอช เปิดเผยว่า ตามแผนลงทุนโครงข่ายไฟเบอร์ออปติค มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ของซีทีเอชในปีนี้ พบว่าต้องลงทุนเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายบริการ FTTH (Fiber to the Home) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ความเร็วสูงภายในบ้าน ผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสง ซึ่งจะทำให้การอัพโหลดมีประสิทธิภาพในการรับ-ส่งข้อมูลรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพื่อให้บริการ quad play ในครัวเรือนไทยทั่วประเทศ คือ การให้บริการดาต้า, วีดิโอ, วอยซ์ และ โมบิลิตี้ โดยวางเป้าหมายครอบคลุมครัวเรือนไทยปีแรก 12-13 ล้านครัวเรือน
"เม็ดเงินที่ต้องลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าวเพื่อขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคด้านบริการ FTTH ไปยังครัวเรือนไทยทั่วประเทศให้มากที่สุด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายกับทีโอที และซิมโฟนี และในพื้นที่ต่างจังหวัด โดย ซีทีเอช วางเป้าหมายจะเป็นดาต้า เซ็นเตอร์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย" นายวิชัย กล่าว
จากแผนการวางโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคของซีทีเอช ให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 1-2 ปีจากนี้ ถือเป็นการส่งเสริมโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติของกระทรวงไอซีทีให้เกิดได้เร็วขึ้น อีกทั้งการให้บริการ FTTH ดังกล่าวเพื่อรองรับการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2013-2016 ที่ซีทีเอช จะมีบริการหลากหลายแพ็คเกจให้สมาชิกได้เลือกรับชม รวมทั้งบริการเสริมด้านอินเตอร์แอคทีฟอื่นๆ
"รูเพิร์ต เมอร์ด็อค" สนถือหุ้น
นายวิชัย กล่าวอีกว่าสำหรับหุ้นซีทีเอช อีก 20% ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาหาผู้ร่วมหุ้น ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วย ทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ โดยในกลุ่มต่างชาติมีผู้สนใจ 6 ราย ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ ในกลุ่มธุรกิจสื่อ และสถาบันการเงิน จาก มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน เกาหลี และเจ้าพ่อสื่อ "รูเพิร์ต เมอร์ด็อค" เจ้าของธุรกิจสื่อระดับโลก อาทิ กลุ่มสกาย, ฟ็อกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่แสดงความสนใจว่าจะร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของ ซีทีเอช
โดยเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารซีทีเอช ได้เดินทางไปเซ็นสัญญาจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ที่ประเทศอังกฤษ ในงานดังกล่าว รูเพิร์ต เมอร์ด็อค ได้ส่งกรรมการผู้จัดการ มาร่วมงานและให้ความสนใจในธุรกิจเคเบิลทีวีของซีทีเอช ที่วางแผนขยายการลงทุนโครงข่ายเพื่อเข้าถึงครัวเรือนไทยทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามซีทีเอชอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกพันธมิตรจากหลายกลุ่ม ที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 20% ที่เหลือ
"มีนักลงทุนต่างชาติสนใจจำนวนมาก แต่ละรายหากเอ่ยชื่อแล้วต้องรู้จัก เป็นบิ๊กเนม ทั้งที่อยู่ใกล้บ้านและไกลบ้าน แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร เพราะจะดูเรื่องการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ หรือการใช้ประโยชน์ร่วมกัน (Synergy) เป็นหลักมากกว่าเรื่องเงินทุน เพราะเรื่องเงินเรามีความพร้อมอยู่แล้ว เท่าที่ดูมีนักลงทุนที่มี Synergy อยู่ 4 ราย ทั้งเรื่องเทคโนโลยี เครือข่าย และคอนเทนท์" นายวิชัย กล่าว
ทั้งนี้ การที่มีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ทั้งๆ ที่บริษัทยังไม่เรียบร้อย แสดงว่านักลงทุนให้ความมั่นใจในธุรกิจและมองอนาคตของซีทีเอชในทิศทางที่ดี การพิจารณาร่วมทุนกับรายใดที่จะเป็นประโยชน์กับบริษัทมากสุด คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปประมาณปลายปีนี้ หรือก่อนที่บริษัทจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
ปัจจุบันโครงสร้างบริษัทซีทีเอช ถือหุ้นโดย นายวิชัย ทองแตง 25%, นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล ผู้บริหารไทยรัฐ 25% และ กลุ่มเคเบิลท้องถิ่น 30%
ซื้อคอนเทนท์ "ฟ็อกซ์" 2พันล้าน
นายวิชัย กล่าวอีกว่า นอกจากการลงทุนโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคเพิ่มเติมแล้ว ซีทีเอชได้ลงทุนซื้อคอนเทนท์จากต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท สัญญา 5 ปี โดยจะเปิดตัวในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ถือเป็นการลงทุนคอนเทนท์เพิ่มเติมจากเดิมที่ได้ลงทุน 1 หมื่นล้านบาทในการประมูลบริหารลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล
แหล่งข่าวจากซีทีเอช กล่าวว่า พันธมิตรคอนเทนท์ต่างประเทศล่าสุดที่บรรลุข้อตกลง และเตรียมเปิดตัวในเดือนมิ.ย. นี้ คือกลุ่มฟ็อกซ์ โดยจะมีช่องรายการมาออกอากาศทางแพลตฟอร์มซีทีเอชรวม 24 ช่อง โดยช่องรายการของกลุ่มฟ็อกซ์ เป็นการซื้อลิขสิทธิ์แบบไม่เอ็กซ์คลูซีฟ และมีบางช่องรายการอยู่บนแพลตฟอร์มทรูวิชั่นส์ ซึ่งจะมาออกอากาศทางซีทีเอชเช่นกัน
นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเดือนพ.ค.-มิ.ย. นี้ จะเริ่มเปิดตัวแพ็คเกจต่างๆ ของ ซีทีเอช โดยแพ็คเกจเบสิก จะรับชมได้ 120 ช่อง เริ่มต้น 399 บาทต่อเดือน ส่วนแพ็คเกจพรีเมียร์ลีกจะมีให้เลือกหลายแพ็คเกจโดยสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน สำหรับการรับชม 380 แมทช์ต่อฤดูกาล วางเป้าหมายสมาชิกแพ็คเกจพรีเมียร์ลีก 1 ล้านรายในฤดูกาลแรก ขณะที่รายได้จากสปอนเซอร์ ที่จะเข้ามาสนับสนุนพรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาล วางเป้าหมายรายได้ที่ 50% ของมูลค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก หรือราว 5 พันล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานของซีทีเอชในปีนี้ คาดจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ จากปีก่อนที่มีขาดทุนสะสมอยู่ประมาณ 300 ล้านบาท โดยหากประเมินในเชิงระมัดระวัง หรือคอนเซอร์เวทีฟน่าจะมีกำไรเล็กน้อย แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็น่าจะมีกำไรในระดับร้อยล้านบาท
จาก http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/media/20130427/502651/%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99.html