ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 27 เมษายน ว่า ที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 424 อ. สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีการจัดเข้าค่ายบำบัดผู้ติดยาเสพติด ซึ่งนายสมพงษ์ มากมณี นายอำเภอพรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นำเด็กและเยาวชนที่ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาจำนวน 32 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดเป็นเด็กผู้ชายมีอายุแค่ 9 ขวบ เรียนชั้น ป.2 กำลังจะขึ้นชั้น ป.3 ในช่วงเปิดเทอมที่จะถึงนี้
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบ พ.ต.ท.วิษณุ ชนะอักษร ผบ.ตชด.ที่ 424 พร้อมครูฝึกกำลังนำเด็กและเยาวชนผู้ติดยาเสพติดทั้ง 32 คนวิ่งออกกำลังกายอยู่พอดี โดยมีนายสมพงษ์ เดินทางมาคอยควบคุมและให้กำลังใจเด็กและเยาวชนทุกคนอย่างใกล้ชิด
นายสมพงษ์ เปิดเผยว่า การเข้าค่ายบำบัดผู้เสพยาเสพติดในรุ่นนี้เป็นการเข้าค่ายบำบัดแบบสมัคร จำนวน 32 คน กำหนดการเข้าค่ายบำบัดระหว่างวันที่ 22-30 เมษายน 2556 รวมระยะเวลาอบรม 9 วัน 8 คืน สำหรับเด็กนักเรียนอายุ 9 ขวบชื่อ ด.ช.ปีโป้ (นามสมมุติ) บ้านอยู่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช กำลังจะขึ้นชั้น ป.3 ในเทอมที่กำลังจะเปิดเรียนวันที่ 15 พ.ค. 2556 นี้ ครอบครัวของน้องปีโป้ มีพี่น้องรวม 4 คนเป็นผู้ชายทั้งหมด โดยน้องปีโป้เป็นคนที่ 3 พ่อกับแม่แยกทางกันเมื่อ 2 ปีก่อน โดยพ่อไปได้ภรรยาใหม่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้เป็นแม่จึงหอบลูก ๆ ทั้ง 4 คนมาอาศัยอยู่กับคุณตาวัย 64 ปี โดยคุณตารับจ้างทำงานก่อสร้างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงหลาน ส่วนแม่ของน้องปีโป้ไม่ได้ทำงานอะไร เพราะต้องเลี้ยงลูกคนสุดท้องประมาณ 2 ขวบเศษ
“ปัจจุบันพ่อของน้องปีโป้ส่งเงินมาให้เดือนละ 500 -1,000 บาท ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายปล่อยให้ลูก ๆ ได้รับความเดือดร้อนและไม่มีใครคอยอบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิด พี่คนโตและคนที่สองต้องออกจากการเรียนกลางคันในขณะที่เรียนอยู่ชั้น ม.2 และ ม. 1 ซึ่งจะมอบหมายให้ทางผู้ใหญ่บ้านเข้าไปดูแลเพื่อให้พี่ของน้องปีโป้ทั้งสองคนกลับมาเรียนให้จบการศึกษาภาคบังคับในระดับ ม. 3 ต่อไป "
นายสมพงษ์กล่าว น้องปีโป้เสพและติดน้ำต้มพืชกระท่อม รวมทั้งการสูบบุหรี่เพราะได้รับการชักชวนจากเพื่อน ๆ รุ่นพี่ 3-4 คนอายุระหว่าง 15-16 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งทั้งน้องปีโป้และเพื่อนรุ่นพี่ในกลุ่มเดียวกันเข้ารับการบำบัดรักษาในรุ่นนี้ทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าหลังการเข้าค่ายบำบัดรักษาน้องปีโป้และรุ่นพี่ ๆ อีก 3-4 คนคงจะเลิกเสพน้ำต้มพืชกระท่อม และเลิกสูบบุหรี่ได้ เพราะทั้งหมดเพิ่งเสพมาได้ไม่นานไม่ถึงขั้นติดงอมแงม
ด้าน น้องปีโป้ เปิดเผยว่า ช่วงปิดเทอมเพื่อนรุ่นพี่ 3-5 คน มาชักชวนตนไปเที่ยว พาไปดื่มน้ำต้มใบพืชกระท่อมและสอนให้ตนสูบบุหรี่ด้วย โดยตนจะอ้างกับแม่ว่าไปเที่ยวบ้านใกล้ ๆ บ้าน แม่ก็ยอมให้ไป ประกอบกับแม่มีภาระในการเลี้ยงน้องคนสุดท้อง โดยเริ่มเสพน้ำต้มใบพืชกระท่อมและสูบบุหรี่มากว่า 2 เดือนแล้ว จนกระทั่งทั่งถูกจับกุมยกแก๊งและนำเข้าสู่การเข้าค่ายบำบัดรักษาดังกล่าว
"ผมมั่นใจว่าหลังจากการเข้ารับการบำบัดรักษา 9 วัน 8 คืนผมจะเลิกเสพน้ำต้มพืชกระท่อมและเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างแน่นอน และการเข้าค่ายบำบัดรักษาในครั้งนี้ทำให้ผมได้เข้าใจและรับรู้ว่ายาเสพติด โดยเฉพาะน้ำต้มพืชกระท่อมและบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งเลวร้ายผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก และอยากให้พ่อกลับมาเยี่ยมผมและพี่ ๆ บ้าง และที่สำคัญส่งเงินมาให้ใช้จ่ายให้มากกว่านี้” ด.ช.ปีโป้ กล่าว
************************************************
ปัญหาเดิมๆๆ บอกแล้วว่าให้ระวังยาเสพติด ขยายวงกว้าง ไปหาอ่านเอานะว่าเก่ง ชุมแสง เคยพูดปัญหายาเสพติด
ที่ระบาด ในเด็กประถม แถวนครสวรรค์ แต่เสื้อแดงในราชดำเนินบอกว่า ไม่มี ยาเสพติดยุคปูไม่มี ไม่ระบาด
สุดท้าย ปิดไม่มิด ความจริงย่อมเป็นความจริง
ตะลึง! เด็ก ป.2 เมืองคอน อายุแค่ 9 ขวบ เข้าค่ายบำบัดยาเสพติด ติดน้ำกระท่อม-สูบบุหรี่ เฮ้อ ว่าแล้ว ปัญหาญาเสพติดขยายวง
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบ พ.ต.ท.วิษณุ ชนะอักษร ผบ.ตชด.ที่ 424 พร้อมครูฝึกกำลังนำเด็กและเยาวชนผู้ติดยาเสพติดทั้ง 32 คนวิ่งออกกำลังกายอยู่พอดี โดยมีนายสมพงษ์ เดินทางมาคอยควบคุมและให้กำลังใจเด็กและเยาวชนทุกคนอย่างใกล้ชิด
นายสมพงษ์ เปิดเผยว่า การเข้าค่ายบำบัดผู้เสพยาเสพติดในรุ่นนี้เป็นการเข้าค่ายบำบัดแบบสมัคร จำนวน 32 คน กำหนดการเข้าค่ายบำบัดระหว่างวันที่ 22-30 เมษายน 2556 รวมระยะเวลาอบรม 9 วัน 8 คืน สำหรับเด็กนักเรียนอายุ 9 ขวบชื่อ ด.ช.ปีโป้ (นามสมมุติ) บ้านอยู่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช กำลังจะขึ้นชั้น ป.3 ในเทอมที่กำลังจะเปิดเรียนวันที่ 15 พ.ค. 2556 นี้ ครอบครัวของน้องปีโป้ มีพี่น้องรวม 4 คนเป็นผู้ชายทั้งหมด โดยน้องปีโป้เป็นคนที่ 3 พ่อกับแม่แยกทางกันเมื่อ 2 ปีก่อน โดยพ่อไปได้ภรรยาใหม่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้เป็นแม่จึงหอบลูก ๆ ทั้ง 4 คนมาอาศัยอยู่กับคุณตาวัย 64 ปี โดยคุณตารับจ้างทำงานก่อสร้างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงหลาน ส่วนแม่ของน้องปีโป้ไม่ได้ทำงานอะไร เพราะต้องเลี้ยงลูกคนสุดท้องประมาณ 2 ขวบเศษ
“ปัจจุบันพ่อของน้องปีโป้ส่งเงินมาให้เดือนละ 500 -1,000 บาท ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายปล่อยให้ลูก ๆ ได้รับความเดือดร้อนและไม่มีใครคอยอบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิด พี่คนโตและคนที่สองต้องออกจากการเรียนกลางคันในขณะที่เรียนอยู่ชั้น ม.2 และ ม. 1 ซึ่งจะมอบหมายให้ทางผู้ใหญ่บ้านเข้าไปดูแลเพื่อให้พี่ของน้องปีโป้ทั้งสองคนกลับมาเรียนให้จบการศึกษาภาคบังคับในระดับ ม. 3 ต่อไป "
นายสมพงษ์กล่าว น้องปีโป้เสพและติดน้ำต้มพืชกระท่อม รวมทั้งการสูบบุหรี่เพราะได้รับการชักชวนจากเพื่อน ๆ รุ่นพี่ 3-4 คนอายุระหว่าง 15-16 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งทั้งน้องปีโป้และเพื่อนรุ่นพี่ในกลุ่มเดียวกันเข้ารับการบำบัดรักษาในรุ่นนี้ทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าหลังการเข้าค่ายบำบัดรักษาน้องปีโป้และรุ่นพี่ ๆ อีก 3-4 คนคงจะเลิกเสพน้ำต้มพืชกระท่อม และเลิกสูบบุหรี่ได้ เพราะทั้งหมดเพิ่งเสพมาได้ไม่นานไม่ถึงขั้นติดงอมแงม
ด้าน น้องปีโป้ เปิดเผยว่า ช่วงปิดเทอมเพื่อนรุ่นพี่ 3-5 คน มาชักชวนตนไปเที่ยว พาไปดื่มน้ำต้มใบพืชกระท่อมและสอนให้ตนสูบบุหรี่ด้วย โดยตนจะอ้างกับแม่ว่าไปเที่ยวบ้านใกล้ ๆ บ้าน แม่ก็ยอมให้ไป ประกอบกับแม่มีภาระในการเลี้ยงน้องคนสุดท้อง โดยเริ่มเสพน้ำต้มใบพืชกระท่อมและสูบบุหรี่มากว่า 2 เดือนแล้ว จนกระทั่งทั่งถูกจับกุมยกแก๊งและนำเข้าสู่การเข้าค่ายบำบัดรักษาดังกล่าว
"ผมมั่นใจว่าหลังจากการเข้ารับการบำบัดรักษา 9 วัน 8 คืนผมจะเลิกเสพน้ำต้มพืชกระท่อมและเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างแน่นอน และการเข้าค่ายบำบัดรักษาในครั้งนี้ทำให้ผมได้เข้าใจและรับรู้ว่ายาเสพติด โดยเฉพาะน้ำต้มพืชกระท่อมและบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งเลวร้ายผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก และอยากให้พ่อกลับมาเยี่ยมผมและพี่ ๆ บ้าง และที่สำคัญส่งเงินมาให้ใช้จ่ายให้มากกว่านี้” ด.ช.ปีโป้ กล่าว
************************************************
ปัญหาเดิมๆๆ บอกแล้วว่าให้ระวังยาเสพติด ขยายวงกว้าง ไปหาอ่านเอานะว่าเก่ง ชุมแสง เคยพูดปัญหายาเสพติด
ที่ระบาด ในเด็กประถม แถวนครสวรรค์ แต่เสื้อแดงในราชดำเนินบอกว่า ไม่มี ยาเสพติดยุคปูไม่มี ไม่ระบาด
สุดท้าย ปิดไม่มิด ความจริงย่อมเป็นความจริง