ฝากถึงสถานศึกษา และน้อง ๆ นักศึกษา ที่กำลังทำรายงานส่งอาจารย์ เรื่องการทำเว็บไซค์ E-commerce ครับ
ผมประกอบอาชีพ จำหน่ายสินค้าทาง internet ครับ โดยเมื่อกลางปี 2555 ได้มีน้องนักศึกษาท่านหนึ่ง โทรมาแจ้งความประสงค์เพื่อขอภาพสินค้า เพื่อจะนำไปทำรายงานส่งอาจารย์ ในเรื่องการจัดทำเว็บไซค์ e-commerce ซึ่งผมก็ไม่ขัดข้อง พร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงภาพถ่ายสินค้าของผมด้วย
เรื่องยุ่ง ๆ มันก็มาเกิดเมื่อต้นเดือน เมษายน ที่ผ่านมานี่เอง โดยผมได้รับแจ้งข่าวจาก เพื่อนร่วมอาชีพท่านหนึ่ง แจ้งมาว่า มีคนนำภาพสินค้าของผม และสินค้าของเค้า มาลงประกาศขายใน website แห่งหนึ่ง และผมก็ได้เข้าไปดูใน website ดังกล่าว ปรากฏว่า เป็นความจริงทุกประการ ไม่เพียงเท่านั้นครับ สิ่งที่ร้ายแรงที่สุด และสร้างความเดือดร้อนต่อผู้อื่นอย่างมากคือ เว็บไซค์ดังกล่าว มีความสมจริงมาก มีรายการสินค้ามากมาย มีรายละเอียด การสั่งซื้อ การชำระเงิน มีรายละเอียดที่ตั้งร้าน และที่ตั้งโรงงาน และที่สำคัญที่สุด ราคาสินค้าที่ปรากฏใน website ต่ำกว่าราคาที่ผมขาย อย่างมาก มากอย่างน่าใจหาย เกือบ 50% จากราคาที่ผมจำหน่ายอยู่
( สินค้าดังกล่าว เป็นสินค้าที่ผมผลิตเอง และมั่นใจเป็นอย่างมากกว่า ลูกค้าตัวแทนจำหน่ายที่รับไปจากผม ก็ไม่สามารถจำหน่ายราคานี้ได้อย่างแน่นอน )
คราวนี้งานเข้าเลยครับ หลังจากผมทราบไม่นาน ก็มีลูกค้าโทรมาตำหนิ ตัดพ้อว่าสินค้าของผมราคาแพงกว่า Website นี้ ซึ่งในขณะนั้น ผมยังสืบทราบข้อเท็จจริงได้ไม่มาก ก็เลยต้องขอโทษลูกค้าท่านนั้นไป โดยจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบอีกครั้ง ... นี่เป็นกรณีหนึ่งที่ลูกค้าเก่าได้เข้ามาต่อว่า ซึ่งผมถือว่าผมโชคดี แต่สิ่งที่โชคร้ายกว่านี้คือ ถ้าลูกค้าไม่มาต่อว่าล่ะ ? ลูกค้าก็จะจดจำไปตลอดเลยว่า ผมขายสินค้าแพง และอีกผลกระทบที่สำคัญอีกข้อคือ สำหรับกับลูกค้าใหม่ ที่กำลังตัดสินใจซื้อ หากบังเอิญไปเจอ website นี้เข้า ก็คงจะ บ๊ายบาย ผมไปเลย ผมเสียโอกาสการขายไปซะแล้ว
หลังจากที่เที่ยวสงกรานต์กลับมา พร้อมทั้งยอดขายที่ตกวูบ อาจจะเกี่ยวเนื่องจากฤดูกาลที่ไม่เอื้อต่อยอดขายแล้ว เหตุการณ์นี้ก็ไม่สามารถลบเลื่อนไปได้จากยอดขายที่ลดลง
ผมได้เริ่มเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรติดต่อ , สืบหาหน้าร้าน และข้อมูลโรงงาน เพื่อจะติดต่อให้ website แห่งนั้นหยุดดดำเนินการ
และอาจจำเป็นต้องดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้น ผมโทรไปตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ 1 เบอร์ ยังไม่เปิดใช้บริการ อีก 1 เบอร์ เป็นของใครก็ไม่รู้ ซึ่งจำหน่ายต้นไม้อยู่ และบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซค์นี้
ผมติดต่อไปที่โรงงานที่อ้างไว้อยู่ในเว็บไซค์ ปรากฏว่า มีโรงงานนี้อยู่จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซค์นี้ ....
"นั่นไง โรงงานนี้ก็โดนแอบอ้างอีก "
เรื่องมันก็มาจบที่ว่า เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน แจ้งมาว่า ได้สืบทราบชื่อ และนามสกุล รวมถึงหมายเลขบัตรประชนชนได้แล้ว และได้ทราบว่า Website แห่งนี้ สร้างมาจากนักศึกษา ที่ทำงานส่งอาจารย์ หลังจากนั้นประมาณ 2 วัน Website แห่งนั้นก็ปิดลง
ก็เลยมาขอความเห็นใจ จากสถาบันการศึกษา และน้อง ๆ นักศึกษา ด้วยครับ ว่า หากจะสร้าง Website e-commerce เพื่อเป็นการบ้านส่งอาจารย์ ขอให้ทำในระบบปิด หรือหากปิดไม่ได้ ก็ให้แสดงให้ชัดเจนว่าทำเพื่อการทดสอบเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด อย่างในกรณีของผม และ/หรือ อาจจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการซื้อของทาง internet สำหรับลูกค้าทั่วไปด้วย
ขอบคุณครับ
ฝากแจ้งถึงสถานศึกษา และน้อง ๆ ที่กำลังทำงานส่งอาจารย์ เรื่องการทำเว็บไซค์ E-commerce
ผมประกอบอาชีพ จำหน่ายสินค้าทาง internet ครับ โดยเมื่อกลางปี 2555 ได้มีน้องนักศึกษาท่านหนึ่ง โทรมาแจ้งความประสงค์เพื่อขอภาพสินค้า เพื่อจะนำไปทำรายงานส่งอาจารย์ ในเรื่องการจัดทำเว็บไซค์ e-commerce ซึ่งผมก็ไม่ขัดข้อง พร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงภาพถ่ายสินค้าของผมด้วย
เรื่องยุ่ง ๆ มันก็มาเกิดเมื่อต้นเดือน เมษายน ที่ผ่านมานี่เอง โดยผมได้รับแจ้งข่าวจาก เพื่อนร่วมอาชีพท่านหนึ่ง แจ้งมาว่า มีคนนำภาพสินค้าของผม และสินค้าของเค้า มาลงประกาศขายใน website แห่งหนึ่ง และผมก็ได้เข้าไปดูใน website ดังกล่าว ปรากฏว่า เป็นความจริงทุกประการ ไม่เพียงเท่านั้นครับ สิ่งที่ร้ายแรงที่สุด และสร้างความเดือดร้อนต่อผู้อื่นอย่างมากคือ เว็บไซค์ดังกล่าว มีความสมจริงมาก มีรายการสินค้ามากมาย มีรายละเอียด การสั่งซื้อ การชำระเงิน มีรายละเอียดที่ตั้งร้าน และที่ตั้งโรงงาน และที่สำคัญที่สุด ราคาสินค้าที่ปรากฏใน website ต่ำกว่าราคาที่ผมขาย อย่างมาก มากอย่างน่าใจหาย เกือบ 50% จากราคาที่ผมจำหน่ายอยู่
( สินค้าดังกล่าว เป็นสินค้าที่ผมผลิตเอง และมั่นใจเป็นอย่างมากกว่า ลูกค้าตัวแทนจำหน่ายที่รับไปจากผม ก็ไม่สามารถจำหน่ายราคานี้ได้อย่างแน่นอน )
คราวนี้งานเข้าเลยครับ หลังจากผมทราบไม่นาน ก็มีลูกค้าโทรมาตำหนิ ตัดพ้อว่าสินค้าของผมราคาแพงกว่า Website นี้ ซึ่งในขณะนั้น ผมยังสืบทราบข้อเท็จจริงได้ไม่มาก ก็เลยต้องขอโทษลูกค้าท่านนั้นไป โดยจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบอีกครั้ง ... นี่เป็นกรณีหนึ่งที่ลูกค้าเก่าได้เข้ามาต่อว่า ซึ่งผมถือว่าผมโชคดี แต่สิ่งที่โชคร้ายกว่านี้คือ ถ้าลูกค้าไม่มาต่อว่าล่ะ ? ลูกค้าก็จะจดจำไปตลอดเลยว่า ผมขายสินค้าแพง และอีกผลกระทบที่สำคัญอีกข้อคือ สำหรับกับลูกค้าใหม่ ที่กำลังตัดสินใจซื้อ หากบังเอิญไปเจอ website นี้เข้า ก็คงจะ บ๊ายบาย ผมไปเลย ผมเสียโอกาสการขายไปซะแล้ว
หลังจากที่เที่ยวสงกรานต์กลับมา พร้อมทั้งยอดขายที่ตกวูบ อาจจะเกี่ยวเนื่องจากฤดูกาลที่ไม่เอื้อต่อยอดขายแล้ว เหตุการณ์นี้ก็ไม่สามารถลบเลื่อนไปได้จากยอดขายที่ลดลง
ผมได้เริ่มเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรติดต่อ , สืบหาหน้าร้าน และข้อมูลโรงงาน เพื่อจะติดต่อให้ website แห่งนั้นหยุดดดำเนินการ
และอาจจำเป็นต้องดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้น ผมโทรไปตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ 1 เบอร์ ยังไม่เปิดใช้บริการ อีก 1 เบอร์ เป็นของใครก็ไม่รู้ ซึ่งจำหน่ายต้นไม้อยู่ และบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซค์นี้
ผมติดต่อไปที่โรงงานที่อ้างไว้อยู่ในเว็บไซค์ ปรากฏว่า มีโรงงานนี้อยู่จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซค์นี้ ....
"นั่นไง โรงงานนี้ก็โดนแอบอ้างอีก "
เรื่องมันก็มาจบที่ว่า เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน แจ้งมาว่า ได้สืบทราบชื่อ และนามสกุล รวมถึงหมายเลขบัตรประชนชนได้แล้ว และได้ทราบว่า Website แห่งนี้ สร้างมาจากนักศึกษา ที่ทำงานส่งอาจารย์ หลังจากนั้นประมาณ 2 วัน Website แห่งนั้นก็ปิดลง
ก็เลยมาขอความเห็นใจ จากสถาบันการศึกษา และน้อง ๆ นักศึกษา ด้วยครับ ว่า หากจะสร้าง Website e-commerce เพื่อเป็นการบ้านส่งอาจารย์ ขอให้ทำในระบบปิด หรือหากปิดไม่ได้ ก็ให้แสดงให้ชัดเจนว่าทำเพื่อการทดสอบเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด อย่างในกรณีของผม และ/หรือ อาจจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการซื้อของทาง internet สำหรับลูกค้าทั่วไปด้วย
ขอบคุณครับ