เราเริ่มซื้อและอ่านนิยายแปลเล่มแรกในชีวิตคือเรื่อง A time to kill งานเขียนของ John Grisham (สมัยนั้นเล่มใหญ่แต่ราคาถูก 180.-) แล้วก็อ่านงานเขียนของ Grisham มาเรื่อยๆ งานเขียนของ Grisham มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ดังๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ เท่าที่จำได้ก็
1. A Time To Kill - Matthew Mcconaughey แสดงนำ น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาเลยนะ ถ้าเราจำไม่ผิด
2. The Rainmaker - Matt Damon แสดงนำ
3. The Pelican Brief - Julia Roberts แสดงนำ
4. The Firm - Tom Cruise แสดงนำ
น่าจะมีอีกนะคะแต่เราจำไม่ได้แล้ว นิยายช่วงนั้นของ Grisham สนุกมากค่ะ มีการดำเนินเรื่องในศาล ลีลาสำนวนการว่าความต่อปากต่อคำกันในศาลสนุก กลยุทธ์นอกศาลก็ตื่นเต้นดีค่ะ นิยายจะออกแนวแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ทนายบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรจะเสียต่อกรกับบริษัททนายระดับบิ๊กๆ สนุกสะใจกับบทสรุปดีค่ะ
พออ่านหลายเล่มเริ่มเบื่อแนวของ Grisham เริ่มไม่ตื่นเต้นแล้ว 555 เล่มสุดท้ายที่ซื้อมาอ่านคือ The Broker (ถล่มแผนสังหาร) อ่านไม่จบค่ะทิ้งไว้ครื่งเล่ม เลยหยุดอ่านนิยายของ Grisham ไปติดใจ Harlan Coben , Nora Roberts (J.D.Robb) แทน
มาซื้ออ่านอีกทีก็งานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา สำนักพิมพ์นกฮูกจัดบ๊อกเซ็ทของกริชแซม 3 เล่ม ประมาณ 656 บาท (ไม่แน่ใจ) มีเรื่อง The Associate (หักเหลี่ยมทนาย) , The Litigators (ทนายตัวแสบ) และ The Confession (คำสารภาพ) แต่ตอนที่เราไปซื้อบ๊อกใส่หนังสือยังไม่มา คนขายบอกว่า 3 เล่ม 500 บาท เราเลยซื้อมา
เริ่มด้วยการอ่าน The Confession (คำสารภาพ) โอยยยยยยยยยย นิยายอะไรเนี่ย ทำไมมันกดดันอย่างนี้ เครียดมากกกกก ลุ้นมาก เหนื่อยกับการอ่านตะลุยไปกับตัวอักษรเต็มหน้ากระดาษพรึดไปหมด บทสนทนาน้อยมาก เน้นการบรรยายสถานการณ์เป็นหลัก แต่เป็นความเครียดความกดดันในการอ่านที่สนุกมากๆๆๆๆ อารมณ์เหมือนกำลังดูหนังสารคดีมากกว่าอ่านนิยาย
เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับโทษประหาร การเหยียดผิว ระบบขบวนการยุติธรรมต่างๆ การเพิกเฉยต่อคนบริสุทธิ์ที่ต้องรับโทษ การดิ้นรนของทีมทนายที่จะต้องยื่นเรื่องอุทธรณ์ยืดเวลาประหารออกไป การเพิกเฉยต่อหลักฐานที่นำเสนอใหม่ในนาทีสุดท้ายของผู้มีอำนาจสั่งการ โอย ถึงตอนท้าย Grisham ทำเราอึ้ง น้ำตาร่วงกับการคาดเดาเนื้อเรื่องที่ผิดคาดจากที่เราคิดไว้ตั้งแต่เริ่มอ่าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ทนายไม่สามารถช่วยคนบริสุทธิ์ไม่ให้ถูกประหารได้ ทั้งๆ ที่เรามั่นใจว่าบทสรุปเรื่องคือยังไงก็ต้องช่วยได้แน่ๆ แต่ลุ้นว่าช่วยด้วยวิธีไหน ตอนไหนเท่านั้นเอง) แถมต้องมาเหนื่อยกับพฤติกรรมของฆาตรกรกลับใจอีก (อ่านไปด่าไปเลยเรา) สุดท้ายก็สงสารอ่านแล้วเหนื่อยแทนบาทหลวงตัวละครที่ตกกระไดพลอยโจนไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย (แต่บทสรุปของตัวละครตัวนี้ที่เราคิดได้คือ สวรรค์ไม่ทอดทิ้งคนดี) สรุปจบท้ายคือความสะใจกับการไล่เช็คบิลของทีมทนายต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด (ล่มจมกันเป็นแถบๆ ตั้งแต่ระดับสูงไล่ลงมาเลย 5555 )
หลังจากอ่านรื่องนี้จบ เราก็หยิบงานของ Nora Roberts มาอ่านปรับอารมณ์ทันทีค่ะ 55555555
ตอนนี้กำลังเริ่มอ่าน The Litigators (ทนายตัวแสบ) ใกล้จบละ อยากจะบอกว่า เราต้องกลับมาเป็นขาประจำของ Grisham อีกครา
เริ่มจากการต้องไปจดรายชื่อเรื่องที่เราพลาดไปไม่ได้ซื้อ แล้วจะไปตามซื้อเก็บที่งานหนังสือเดือนตุลา พร้อมทั้งไปหยิบเเล่มที่อ่านค้างไว้มาเริ่มอ่านใหม่ให้จบ
เราถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกเป็นตัวอักษรไม่ค่อยเก่งค่ะ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เพื่อนคนไหนเป็นแฟนหนังสือของ John Grisham มาบอกเล่าและแนะนำกันบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ
กลับมาอ่านนิยายของ John Grisham อีกครั้ง
1. A Time To Kill - Matthew Mcconaughey แสดงนำ น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาเลยนะ ถ้าเราจำไม่ผิด
2. The Rainmaker - Matt Damon แสดงนำ
3. The Pelican Brief - Julia Roberts แสดงนำ
4. The Firm - Tom Cruise แสดงนำ
น่าจะมีอีกนะคะแต่เราจำไม่ได้แล้ว นิยายช่วงนั้นของ Grisham สนุกมากค่ะ มีการดำเนินเรื่องในศาล ลีลาสำนวนการว่าความต่อปากต่อคำกันในศาลสนุก กลยุทธ์นอกศาลก็ตื่นเต้นดีค่ะ นิยายจะออกแนวแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ทนายบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรจะเสียต่อกรกับบริษัททนายระดับบิ๊กๆ สนุกสะใจกับบทสรุปดีค่ะ
พออ่านหลายเล่มเริ่มเบื่อแนวของ Grisham เริ่มไม่ตื่นเต้นแล้ว 555 เล่มสุดท้ายที่ซื้อมาอ่านคือ The Broker (ถล่มแผนสังหาร) อ่านไม่จบค่ะทิ้งไว้ครื่งเล่ม เลยหยุดอ่านนิยายของ Grisham ไปติดใจ Harlan Coben , Nora Roberts (J.D.Robb) แทน
มาซื้ออ่านอีกทีก็งานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา สำนักพิมพ์นกฮูกจัดบ๊อกเซ็ทของกริชแซม 3 เล่ม ประมาณ 656 บาท (ไม่แน่ใจ) มีเรื่อง The Associate (หักเหลี่ยมทนาย) , The Litigators (ทนายตัวแสบ) และ The Confession (คำสารภาพ) แต่ตอนที่เราไปซื้อบ๊อกใส่หนังสือยังไม่มา คนขายบอกว่า 3 เล่ม 500 บาท เราเลยซื้อมา
เริ่มด้วยการอ่าน The Confession (คำสารภาพ) โอยยยยยยยยยย นิยายอะไรเนี่ย ทำไมมันกดดันอย่างนี้ เครียดมากกกกก ลุ้นมาก เหนื่อยกับการอ่านตะลุยไปกับตัวอักษรเต็มหน้ากระดาษพรึดไปหมด บทสนทนาน้อยมาก เน้นการบรรยายสถานการณ์เป็นหลัก แต่เป็นความเครียดความกดดันในการอ่านที่สนุกมากๆๆๆๆ อารมณ์เหมือนกำลังดูหนังสารคดีมากกว่าอ่านนิยาย
เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับโทษประหาร การเหยียดผิว ระบบขบวนการยุติธรรมต่างๆ การเพิกเฉยต่อคนบริสุทธิ์ที่ต้องรับโทษ การดิ้นรนของทีมทนายที่จะต้องยื่นเรื่องอุทธรณ์ยืดเวลาประหารออกไป การเพิกเฉยต่อหลักฐานที่นำเสนอใหม่ในนาทีสุดท้ายของผู้มีอำนาจสั่งการ โอย ถึงตอนท้าย Grisham ทำเราอึ้ง น้ำตาร่วงกับการคาดเดาเนื้อเรื่องที่ผิดคาดจากที่เราคิดไว้ตั้งแต่เริ่มอ่าน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แถมต้องมาเหนื่อยกับพฤติกรรมของฆาตรกรกลับใจอีก (อ่านไปด่าไปเลยเรา) สุดท้ายก็สงสารอ่านแล้วเหนื่อยแทนบาทหลวงตัวละครที่ตกกระไดพลอยโจนไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย (แต่บทสรุปของตัวละครตัวนี้ที่เราคิดได้คือ สวรรค์ไม่ทอดทิ้งคนดี) สรุปจบท้ายคือความสะใจกับการไล่เช็คบิลของทีมทนายต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด (ล่มจมกันเป็นแถบๆ ตั้งแต่ระดับสูงไล่ลงมาเลย 5555 )
หลังจากอ่านรื่องนี้จบ เราก็หยิบงานของ Nora Roberts มาอ่านปรับอารมณ์ทันทีค่ะ 55555555
ตอนนี้กำลังเริ่มอ่าน The Litigators (ทนายตัวแสบ) ใกล้จบละ อยากจะบอกว่า เราต้องกลับมาเป็นขาประจำของ Grisham อีกครา เริ่มจากการต้องไปจดรายชื่อเรื่องที่เราพลาดไปไม่ได้ซื้อ แล้วจะไปตามซื้อเก็บที่งานหนังสือเดือนตุลา พร้อมทั้งไปหยิบเเล่มที่อ่านค้างไว้มาเริ่มอ่านใหม่ให้จบ
เราถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกเป็นตัวอักษรไม่ค่อยเก่งค่ะ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เพื่อนคนไหนเป็นแฟนหนังสือของ John Grisham มาบอกเล่าและแนะนำกันบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ