[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับคนอื่นที่ปั่นขึ้นเป็นประจำ มันอาจจะหมูๆนะครับสำหรับภูเขาลูกนี้ นี่เป็นครั้งแรกของผม ก็ขอมาเล่าเรื่องให้ฟังหน่อยนะครับ เผื่อใครสนใจ อยากขึ้นไป
เป็นความฝันตั้งแต่ผมมีรถจักรยานคันแรกแล้วครับ ประมาณปีที่แล้ว ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าแรงถึงเมื่อไหร่ก็จะปั่นขึ้นไปให้ได้ แต่หลังจากที่พยายามลองมาหลายครั้ง แต่ก็ขึ้นไปได้แค่หน้าครูบาผมก็ไม่ไหวแล้วครับ รถมันหนักมาก เกือบ20โล คนก็ไม่ค่อยมีแรง ได้แค่ปั่นทางปกติ เป็นประจำ ทุกวัน ทุกวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คันนี้ครับ หมอบเหล็กทั้งคัน
หลังจากนั้น ก็ได้คันใหม่มา เป็น Bridgestone radac หลังจากประกอบเสร็จเรียบร้อย ความรู้สึกที่ได้ปั่น โหสุดยอดเลยครับ มันเบามากก ยกพาดใหล่ก็สบาย วันแรกที่รถประกอบเสร็จ ก็เอาไปลองขึ้นครูบาดูครับ มันแตกต่างกับครั้งที่เคยเอาเจ้าคันแดงขึ้นอย่างสิ้นเชิง
ไม่ต้องออกแรงมากก็สามารถขึ้นไปได้แล้ว
เมื่อวานก่อน อากาศที่เชียงใหม่ดีมาก ออกมาจากหอ มองเห็นดอยสุเทพอย่างชัดเจน ต่างจากวันอื่นๆที่ผ่านมา
บอกกับตัวเอง เอาวะ ลองดู ขึ้นไม่ไหวก็ไม่เป็นไร พกน้ำไปสองขวด ผมเริ่มปั่นตั้งแต่ 16.30 ก็ค่อยๆปั่นตามทางขึ้นไปเรื่อยๆ
แรกๆหมูมากเลยครับ ปั่นได้แบบสบายๆ
ปั่นไป ปั่นไป พอไปถึงน้ำตกวังบัวบาน โอ้โห โคตรจะเหนื่อยเลย ขานี่ตึงไปหมดครับ
นั่งพักยืดขาสั้กห้านาที ก็ไปปั่นต่อ คราวนี้รู้สึกว่ามันดีขึ้น เริ่มปั่นได้สบายมากขึ้น แถมยังเจอจักรยานคันอื่นๆด้วย
แปลกดีนะครับ เวลาขี่มอเตอร์ไซค์หรือว่าขับรถยนต์สวนกัน เราจะไม่ยิ้มให้กัน แต่จักรยาน เราจะเห็นรอยยิ้มเสมอ
ผมปั่นไปได้อีกประมาณสิบนาที คราวนี้ไม่ไหวแล้วครับ ในใจตอนนั้นคือ กลับเหอะ คราวหน้าค่อยมาใหม่ เพราะมันกดบันไดไม่ไปแล้ว ขาที่ยืนก็สั่นไปหมด
เลยมานั่งพักอีกทีนึง ผมมองไปตามถนน ก็เห็นทั้งเสือหมอบ เสือภูเขาไต่ขึ้นมากัน แล้วเราก็มองรถตัวเอง ทำไมมันจะขึ้นไปไม่ได้วะ
หลังจากนั้นก็พยายามเกาะกลุ่มปั่นกับเค้าครับ พอเกาะกลุ่มรู้สึกว่าปั่นได้สบายที่สุดเลย อาจจะเพราะว่าเราออกแรงพอดีๆตามเค้า ไม่มากเกินไปเหมือนตอนปั่นคนเดียว คราวนี้ปั่นได้นานขึ้น ยิ่งปั่นขึ้นยิ่งเห็นวิวเชียงใหม่ที่เล็กลงๆ และไกลออกไป ถ้าตอนนั้นลงไปก่อน
ก็คงไม่เจออะไรแบบนี้ แค่นี้ก็ประทับใจแล้วครับ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะปั่นไหว
สุดท้าย ยังไงก็ต้องไหวครับ ผมปั่นขึ้นมาได้ โคตรดีใจเลย ถึงรถจะไม่แรงเหมือนคนอื่น แต่มันก็พอดีกับผมครับ
การขึ้นดอยครั้งนี้ทำให้ผมคิดได้ว่า
เวลาที่เราเหนื่อยมากๆ ไม่ใช่แค่การปั่นจักรยานนะครับ เราอย่าเพิ่งไปยอมแพ้ ให้เราพักก่อน พักให้หายเหนื่อย แล้วพยายามอีกครั้ง มันต้องสำเร็จครับ
ขอบคุณครับ
ปั่นจักรยานขึ้นดอยสุเทพมาครับ
เป็นความฝันตั้งแต่ผมมีรถจักรยานคันแรกแล้วครับ ประมาณปีที่แล้ว ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าแรงถึงเมื่อไหร่ก็จะปั่นขึ้นไปให้ได้ แต่หลังจากที่พยายามลองมาหลายครั้ง แต่ก็ขึ้นไปได้แค่หน้าครูบาผมก็ไม่ไหวแล้วครับ รถมันหนักมาก เกือบ20โล คนก็ไม่ค่อยมีแรง ได้แค่ปั่นทางปกติ เป็นประจำ ทุกวัน ทุกวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้น ก็ได้คันใหม่มา เป็น Bridgestone radac หลังจากประกอบเสร็จเรียบร้อย ความรู้สึกที่ได้ปั่น โหสุดยอดเลยครับ มันเบามากก ยกพาดใหล่ก็สบาย วันแรกที่รถประกอบเสร็จ ก็เอาไปลองขึ้นครูบาดูครับ มันแตกต่างกับครั้งที่เคยเอาเจ้าคันแดงขึ้นอย่างสิ้นเชิง
ไม่ต้องออกแรงมากก็สามารถขึ้นไปได้แล้ว
เมื่อวานก่อน อากาศที่เชียงใหม่ดีมาก ออกมาจากหอ มองเห็นดอยสุเทพอย่างชัดเจน ต่างจากวันอื่นๆที่ผ่านมา
บอกกับตัวเอง เอาวะ ลองดู ขึ้นไม่ไหวก็ไม่เป็นไร พกน้ำไปสองขวด ผมเริ่มปั่นตั้งแต่ 16.30 ก็ค่อยๆปั่นตามทางขึ้นไปเรื่อยๆ
แรกๆหมูมากเลยครับ ปั่นได้แบบสบายๆ
ปั่นไป ปั่นไป พอไปถึงน้ำตกวังบัวบาน โอ้โห โคตรจะเหนื่อยเลย ขานี่ตึงไปหมดครับ
นั่งพักยืดขาสั้กห้านาที ก็ไปปั่นต่อ คราวนี้รู้สึกว่ามันดีขึ้น เริ่มปั่นได้สบายมากขึ้น แถมยังเจอจักรยานคันอื่นๆด้วย
แปลกดีนะครับ เวลาขี่มอเตอร์ไซค์หรือว่าขับรถยนต์สวนกัน เราจะไม่ยิ้มให้กัน แต่จักรยาน เราจะเห็นรอยยิ้มเสมอ
ผมปั่นไปได้อีกประมาณสิบนาที คราวนี้ไม่ไหวแล้วครับ ในใจตอนนั้นคือ กลับเหอะ คราวหน้าค่อยมาใหม่ เพราะมันกดบันไดไม่ไปแล้ว ขาที่ยืนก็สั่นไปหมด
เลยมานั่งพักอีกทีนึง ผมมองไปตามถนน ก็เห็นทั้งเสือหมอบ เสือภูเขาไต่ขึ้นมากัน แล้วเราก็มองรถตัวเอง ทำไมมันจะขึ้นไปไม่ได้วะ
หลังจากนั้นก็พยายามเกาะกลุ่มปั่นกับเค้าครับ พอเกาะกลุ่มรู้สึกว่าปั่นได้สบายที่สุดเลย อาจจะเพราะว่าเราออกแรงพอดีๆตามเค้า ไม่มากเกินไปเหมือนตอนปั่นคนเดียว คราวนี้ปั่นได้นานขึ้น ยิ่งปั่นขึ้นยิ่งเห็นวิวเชียงใหม่ที่เล็กลงๆ และไกลออกไป ถ้าตอนนั้นลงไปก่อน
ก็คงไม่เจออะไรแบบนี้ แค่นี้ก็ประทับใจแล้วครับ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะปั่นไหว
สุดท้าย ยังไงก็ต้องไหวครับ ผมปั่นขึ้นมาได้ โคตรดีใจเลย ถึงรถจะไม่แรงเหมือนคนอื่น แต่มันก็พอดีกับผมครับ
การขึ้นดอยครั้งนี้ทำให้ผมคิดได้ว่า
เวลาที่เราเหนื่อยมากๆ ไม่ใช่แค่การปั่นจักรยานนะครับ เราอย่าเพิ่งไปยอมแพ้ ให้เราพักก่อน พักให้หายเหนื่อย แล้วพยายามอีกครั้ง มันต้องสำเร็จครับ
ขอบคุณครับ