เราไปอ่านวิธีนี่ในนิตยสารซีเคร็ทนะค่ะ แต่จำฉบับไม่ได้แล้ว จำได้แต่เป็นการตอบปัญหาอมตะในครอบครัว ที่มีปัญหาระหว่างแม่สามี VS ลูกสะใภ้ เลยคิดว่าเอามาแบ่งปันให้ลองอ่านดู เผื่ออาจเอาไปใช้แก้ปัญหาในครอบครัวได้
...ในคอลัมน์ พระท่านเขียนว่า ปัญหาเรื่องนี้เกิดจากผู้หญิงสองคนที่กลัวว่าจะถูกแย่งชิงความรักไป ดังนั้นคนกลางอย่างลูกชาย(และเป็นสามีด้วย)ต้องเป็นคนกลางเข้าไปไกล่เกลี่ย ไม่ใช่ทำเงียบ ทำลอยตัว ทำไปคิดว่าเดี๋ยวปัญหาก็คลายเอง...ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย รังแต่จะทำให้เกิดสงครามเงียบขึ้นในครอบครัวจนรอวันระเบิดทำลายทุกฝ่ายขึ้นมา...พระท่านจึงเล่านิทานเรื่องหนึ่งว่า
...ในสมัยอยุธยา มีชายคนหนึ่งไปออกรบแล้วได้ภรรยาจากการไปรบที่ต่างเมืองมาคนหนึ่ง เขาพาภรรยากลับบ้านตนเองเพื่อมากราบไหว้แม่ของเขา แต่แม่แก่ของเขากลับไม่ชอบหน้าลูกสะใภ้สุดๆ หาเรื่องด่าทอต่อว่าลูกสะใภ้ต่างๆนาๆ ฝ่ายลูกสะใภ้เองก็ใช้จะยอมให้ด่าฝ่ายเดียว เธอเองก็บู๊ดราม่ากับแม่สามีไม่แพ้กัน จนเป็นที่รู้กันไปทั่วหมู่บ้านของแม่สามีกับลูกสะใภ้คู่นี้ไม่ถูกกัน...ฝ่ายชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะนี่ก็แม่ที่เลี้ยงดูมา นี่ก็เมียที่ผ่านความลำบากในสงครามมาด้วยกัน
...จนกระทั่งแม่แอบพูดกับลูกชายลับหลังว่า ถ้าไม่กำจัดลูกสะใภ้ตัวแสบออกไปจากบ้าน นางจะเป็นคนออกจากบ้านไปเอง!
...แล้วที่น่าแปลกคือ ฝ่ายภรรยาก็มาพูดกับสามีลับหลังอีกเช่นกันว่า ถ้าเขาไม่ฆ่าแม่แก่ๆที่อยู่รกโลก(และคงรกหน้าเธอ)ทิ้งไปซะ เธอก็จะออกจากบ้านไป
...สามีรู้ว่าภรรยาและแม่ของเขาพูดไปด้วยอารมณ์โกรธและน้อยใจ...ในคืนต่อมา เขาจึงหยิบมีดพร้าเล่มหนึ่ง เดินเข้าไปในห้องของแม่ ก้มลงกราบ แล้วบอกแม่ว่า "แม่ขอรับ ข้ารักแม่มากและคงไม่รักผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว ดังนั้นข้าจะทำตามที่แม่ขอที่จะให้ฆ่าเมียไป...แต่หากข้ารีบฆ่าเมียตอนนี้ เกรงว่าชาวบ้านจะเข้าใจว่าแม่เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ จะทำให้แม่เสื่อมเสียชื่อเสียงได้...ข้าจึงอยากขอร้องให้แม่ช่วยทำดีกับเมียข้าไปก่อนสักเดือนนึงเพื่อให้ชาวบ้านตายใจ เมื่อข้าลับมีดพร้าเล่มนี่จนคมพอแล้ว ข้าจะฆ่านางตามที่แม่ขอ"
แม่แก่ดีใจที่ลูกชายจะทำตามที่ขอ และรับปากว่าจะทำดีกับลูกสะใภ้ตามอุบายของลูกชาย
ชายหนุ่มเดินออกจากห้องของแม่ ปิดประตูห้องแม่สนิท แล้วเดินข้ามไปยังห้องของภรรยา จากนั้นก็กอดภรรยาแล้วพูดว่า "พี่ไม่มีวันรักใครได้มากกว่าเมียพี่ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา พี่เห็นด้วยว่าแม่พี่แก่แล้ว อยู่ไปก็รังแต่สร้างปัญหา พี่จะฆ่าแม่ตามที่น้องขอ...แต่ถ้าพี่รีบฆ่าแม่ตอนนี้ ชาวบ้านอาจจะสงสัยน้องได้ พี่ไม่อยากให้น้องเสื่อมเสียชื่อเสีย...ดังนั้นพี่จึงขอร้องให้น้องช่วยทำดีกับแม่พี่ให้ตายใจเสียเดือนนึง เมื่อพี่ลับมีดพร้าเล่มนี่จนคมพอแล้ว พี่จะฆ่าแม่ตามที่น้องขอ"
ฝ่ายภรรยาดีใจและรับปากจะทำตามอุบายที่สามี
ดังนั้นในเช้าวันต่อมา ทั้งแม่สามีและลูกสะใภ้ต่างก็ทำดีต่ออีกฝ่ายตามอุบายของสามี ภรรยาก็กุลีกุจอทำกับข้าวและดูแลแม่สามีเป็นอย่างดี ฝ่ายแม่สามีก็มักชักชวนลูกสะใภ้ออกไปจับจ่ายตลาดนอกเรือน เจอชาวบ้านคนใดก็คุยสรรเสริญเยินยอความดีของลูกสะใภ้
ตกดึก ชายหนุ่มจะเอามีดขัดหินมาลับตรงกลางลานหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ในสายตาของแม่สามีและภรรยาตลอดเวลา ทั้งคู่ต่างแน่ใจว่าชายหนุ่มจะฆ่าอีกฝ่ายตามที่สัญญาไว้
การกระทำของหญิงต่างวัยสองฝ่ายยังดำเนินต่อไป ทั้งคู่ต่างทำดีต่อกัน...แต่ก็ทำให้ลูกสะใภ้มองเห็นว่า แม่สามีไม่ได้ใจร้ายอย่างที่คิด...และฝ่ายหญิงชราก็มองลูกสะใภ้อีกว่า นางก็ดูแลหญิงชรามาเป็นอย่างดี ไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่ตนเองคาด
พอครบกำหนดหนึ่งเดือนตามที่นัดหมาย ชายหนุ่มเดินเข้าห้องแม่ของเขาพร้อมมีดพร้าคมกริบที่ลับมาทั้งเดือน คุกเข่าแล้วบอกแม่ว่า "แม่ขอรับ ครบกำหนดหนึ่งเดือนตามที่สัญญาแล้ว ข้าจะไปฆ่าเมียข้าตามที่แม่ขอ"
หญิงชรารีบโวยวายในทันใดว่า "เฮ้ย! เอ็งจะบ้าหรือไง! เมียเอ็งดีกับข้าจะตาย ผู้หญิงอย่างนี้หายาก เอ็งจะฆ่าเมียเอ็งทำไม หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ต่อไปนี่เอ็งห้ามทำร้ายหรือฆ่าเมียเอ็งเด็ดขาด เข้าใจไหม?"
ชายหนุ่มยิ้มรับคำเป็นอย่างดี เขาเดินออกจากห้องแม่ ปิดประตูจนสนิท แล้วเดินข้ามเรือนไปยังห้องของภรรยาพร้อมมีดพร้าเล่มเดิม แล้วพูดกับเมียว่า "น้องจ๊ะ ครบตามกำหนดหนึ่งเดือนที่พี่สัญญาแล้ว พี่จะไปฆ่าแม่พี่ตามที่น้องขอ"
ภรรยารีบโวยวายใส่สามีว่า "พี่จะบ้าหรือไง แม่พี่ดีกับน้องขนาดนี่ พี่จะเป็นลูกอกตัญญูฆ่าแม่พี่ได้ลงคอเชียวรึ! อย่านะ ห้ามพี่ทำอะไรแม่นะ ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยพี่เอาไว้แน่!"
...ชายหนุ่มนำมีดพร้าไปเก็บเอาไว้ใต้ถุนบ้าน...และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ยิ้มได้เต็มที่ เพราะทั้งแม่และภรรยาต่างปรองดองคืนดีกัน ไม่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในครอบครัวอีกต่อไป
...จบ...
...ใครสนใจอยากลองไปใช้วิธีนี่ดูก็ได้นะค่ะ
วิธีขจัดปัญหาดราม่า แม่สามี VS ลูกสะใภ้ โดยคนกลางอย่างลูกชาย/สามี!?
...ในคอลัมน์ พระท่านเขียนว่า ปัญหาเรื่องนี้เกิดจากผู้หญิงสองคนที่กลัวว่าจะถูกแย่งชิงความรักไป ดังนั้นคนกลางอย่างลูกชาย(และเป็นสามีด้วย)ต้องเป็นคนกลางเข้าไปไกล่เกลี่ย ไม่ใช่ทำเงียบ ทำลอยตัว ทำไปคิดว่าเดี๋ยวปัญหาก็คลายเอง...ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย รังแต่จะทำให้เกิดสงครามเงียบขึ้นในครอบครัวจนรอวันระเบิดทำลายทุกฝ่ายขึ้นมา...พระท่านจึงเล่านิทานเรื่องหนึ่งว่า
...ในสมัยอยุธยา มีชายคนหนึ่งไปออกรบแล้วได้ภรรยาจากการไปรบที่ต่างเมืองมาคนหนึ่ง เขาพาภรรยากลับบ้านตนเองเพื่อมากราบไหว้แม่ของเขา แต่แม่แก่ของเขากลับไม่ชอบหน้าลูกสะใภ้สุดๆ หาเรื่องด่าทอต่อว่าลูกสะใภ้ต่างๆนาๆ ฝ่ายลูกสะใภ้เองก็ใช้จะยอมให้ด่าฝ่ายเดียว เธอเองก็บู๊ดราม่ากับแม่สามีไม่แพ้กัน จนเป็นที่รู้กันไปทั่วหมู่บ้านของแม่สามีกับลูกสะใภ้คู่นี้ไม่ถูกกัน...ฝ่ายชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะนี่ก็แม่ที่เลี้ยงดูมา นี่ก็เมียที่ผ่านความลำบากในสงครามมาด้วยกัน
...จนกระทั่งแม่แอบพูดกับลูกชายลับหลังว่า ถ้าไม่กำจัดลูกสะใภ้ตัวแสบออกไปจากบ้าน นางจะเป็นคนออกจากบ้านไปเอง!
...แล้วที่น่าแปลกคือ ฝ่ายภรรยาก็มาพูดกับสามีลับหลังอีกเช่นกันว่า ถ้าเขาไม่ฆ่าแม่แก่ๆที่อยู่รกโลก(และคงรกหน้าเธอ)ทิ้งไปซะ เธอก็จะออกจากบ้านไป
...สามีรู้ว่าภรรยาและแม่ของเขาพูดไปด้วยอารมณ์โกรธและน้อยใจ...ในคืนต่อมา เขาจึงหยิบมีดพร้าเล่มหนึ่ง เดินเข้าไปในห้องของแม่ ก้มลงกราบ แล้วบอกแม่ว่า "แม่ขอรับ ข้ารักแม่มากและคงไม่รักผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว ดังนั้นข้าจะทำตามที่แม่ขอที่จะให้ฆ่าเมียไป...แต่หากข้ารีบฆ่าเมียตอนนี้ เกรงว่าชาวบ้านจะเข้าใจว่าแม่เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ จะทำให้แม่เสื่อมเสียชื่อเสียงได้...ข้าจึงอยากขอร้องให้แม่ช่วยทำดีกับเมียข้าไปก่อนสักเดือนนึงเพื่อให้ชาวบ้านตายใจ เมื่อข้าลับมีดพร้าเล่มนี่จนคมพอแล้ว ข้าจะฆ่านางตามที่แม่ขอ"
แม่แก่ดีใจที่ลูกชายจะทำตามที่ขอ และรับปากว่าจะทำดีกับลูกสะใภ้ตามอุบายของลูกชาย
ชายหนุ่มเดินออกจากห้องของแม่ ปิดประตูห้องแม่สนิท แล้วเดินข้ามไปยังห้องของภรรยา จากนั้นก็กอดภรรยาแล้วพูดว่า "พี่ไม่มีวันรักใครได้มากกว่าเมียพี่ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา พี่เห็นด้วยว่าแม่พี่แก่แล้ว อยู่ไปก็รังแต่สร้างปัญหา พี่จะฆ่าแม่ตามที่น้องขอ...แต่ถ้าพี่รีบฆ่าแม่ตอนนี้ ชาวบ้านอาจจะสงสัยน้องได้ พี่ไม่อยากให้น้องเสื่อมเสียชื่อเสีย...ดังนั้นพี่จึงขอร้องให้น้องช่วยทำดีกับแม่พี่ให้ตายใจเสียเดือนนึง เมื่อพี่ลับมีดพร้าเล่มนี่จนคมพอแล้ว พี่จะฆ่าแม่ตามที่น้องขอ"
ฝ่ายภรรยาดีใจและรับปากจะทำตามอุบายที่สามี
ดังนั้นในเช้าวันต่อมา ทั้งแม่สามีและลูกสะใภ้ต่างก็ทำดีต่ออีกฝ่ายตามอุบายของสามี ภรรยาก็กุลีกุจอทำกับข้าวและดูแลแม่สามีเป็นอย่างดี ฝ่ายแม่สามีก็มักชักชวนลูกสะใภ้ออกไปจับจ่ายตลาดนอกเรือน เจอชาวบ้านคนใดก็คุยสรรเสริญเยินยอความดีของลูกสะใภ้
ตกดึก ชายหนุ่มจะเอามีดขัดหินมาลับตรงกลางลานหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ในสายตาของแม่สามีและภรรยาตลอดเวลา ทั้งคู่ต่างแน่ใจว่าชายหนุ่มจะฆ่าอีกฝ่ายตามที่สัญญาไว้
การกระทำของหญิงต่างวัยสองฝ่ายยังดำเนินต่อไป ทั้งคู่ต่างทำดีต่อกัน...แต่ก็ทำให้ลูกสะใภ้มองเห็นว่า แม่สามีไม่ได้ใจร้ายอย่างที่คิด...และฝ่ายหญิงชราก็มองลูกสะใภ้อีกว่า นางก็ดูแลหญิงชรามาเป็นอย่างดี ไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่ตนเองคาด
พอครบกำหนดหนึ่งเดือนตามที่นัดหมาย ชายหนุ่มเดินเข้าห้องแม่ของเขาพร้อมมีดพร้าคมกริบที่ลับมาทั้งเดือน คุกเข่าแล้วบอกแม่ว่า "แม่ขอรับ ครบกำหนดหนึ่งเดือนตามที่สัญญาแล้ว ข้าจะไปฆ่าเมียข้าตามที่แม่ขอ"
หญิงชรารีบโวยวายในทันใดว่า "เฮ้ย! เอ็งจะบ้าหรือไง! เมียเอ็งดีกับข้าจะตาย ผู้หญิงอย่างนี้หายาก เอ็งจะฆ่าเมียเอ็งทำไม หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ต่อไปนี่เอ็งห้ามทำร้ายหรือฆ่าเมียเอ็งเด็ดขาด เข้าใจไหม?"
ชายหนุ่มยิ้มรับคำเป็นอย่างดี เขาเดินออกจากห้องแม่ ปิดประตูจนสนิท แล้วเดินข้ามเรือนไปยังห้องของภรรยาพร้อมมีดพร้าเล่มเดิม แล้วพูดกับเมียว่า "น้องจ๊ะ ครบตามกำหนดหนึ่งเดือนที่พี่สัญญาแล้ว พี่จะไปฆ่าแม่พี่ตามที่น้องขอ"
ภรรยารีบโวยวายใส่สามีว่า "พี่จะบ้าหรือไง แม่พี่ดีกับน้องขนาดนี่ พี่จะเป็นลูกอกตัญญูฆ่าแม่พี่ได้ลงคอเชียวรึ! อย่านะ ห้ามพี่ทำอะไรแม่นะ ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยพี่เอาไว้แน่!"
...ชายหนุ่มนำมีดพร้าไปเก็บเอาไว้ใต้ถุนบ้าน...และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ยิ้มได้เต็มที่ เพราะทั้งแม่และภรรยาต่างปรองดองคืนดีกัน ไม่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในครอบครัวอีกต่อไป
...จบ...
...ใครสนใจอยากลองไปใช้วิธีนี่ดูก็ได้นะค่ะ