อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับบรรดาพระคู่หมั้นของ ร.๖

อ่านจากหนังสือทราบมาว่าพระองค์ท่านทรงมีพระคู่หมั้นหลายคน แต่ก็ไม่ได้เป็นเป็นราชินี
เลยสงสัยว่าชีวิตหลังจากนั้นแล้ว พวกท่านเหล่านั้นมีบั้นปลายชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไรบ้าง
เพราะเป็นถึงอดีตพระคู่หมั้นกษัตริย์ จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปคงลำบากแน่ๆ

- พระองค์เจ้าวัลภาเทวี ทรงถอนหมั้นโดยสาเหตุเส้นประสาทไม่ปรกติ  ยังพระราชทาน
โซ่ทองไปเกาะไม่ให้ออกจากพระราชวัง (อันนี้ยิ่งสงสัยคืออะไร)

- พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ  

- พระสุจริตสุดา

- พระอินทรศักดิ์ศจี ท่านนี้ยิ่งหน้าเห็นใจท่าน ในพระราชพินัยกรรมของ ร.๖ สั่งห้าม
ไม่ให้นำพระอัฐของพระนางมาไว้คู่กับพระบรมอัฐของพระองค์

- พระนางเจ้าสุวัทนา  มีพระประสูติกาล สมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์


การจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไปก็คงจะลำบาก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
- พระองค์เจ้าวัลภาเทวี ทรงถอนหมั้นโดยสาเหตุเส้นประสาทไม่ปรกติ  ยังพระราชทาน
โซ่ทองไปเกาะไม่ให้ออกจากพระราชวัง (อันนี้ยิ่งสงสัยคืออะไร)

เรื่องพระราชทานโซ่ทองไปเกาะให้ออกจากพระราชวัง  เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน  เพราะเสด็จพระองค์วัลลภาเทวีมิได้ถุฏจำสนมเช่นเจ้านายที่ต้องรับพระราชอาญา  เพียงแต่เมื่อทรงเลิกการพระราชพิธีหมั้นแล้ว  โปรดให้เสนาบดีกระทรวงวังเชิญไปประทับที่พระตำหนักใหญ่องค์หนึ่งในพระบรมมหาราชวัง  และได้ประทับอยู่ในพระราชฐานชั้นในจนสิ้นรัชกาลที่ ๖  ต่อมารัชกาลที่ ๗ โปรดให้จัดตำหนักที่ประทับพระราชทานที่มุมถนนพิชัยตัดกับถนนสุโขทัยให้เป็นที่ประทับจนสิ้นพระชนม์  ตำหนักนี้ประทานชื่อว่า "พระกรุณานิวาสน์"  ปัจจุบันเป็นที่ตั้งสภาสตรีไทย

- พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ  
เมื่อทรงถอนหมั้นจากพระองค์วัลลภาเทวีแล้ว  ล้นเกล้าฯ ทรงหมั้นกับพระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ  เป็นการทรงหมั้นเงียบๆ ไม่มีประกาศเป็นทางราชการ  แต่เพียง ๖ เดือนก็ทรงเลิกรากัน  หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย  ดิศกุล ทรงเล่าว่า ที่ทรงหมั้นนั้นเป็นเพราะทรงประชดพระองค์วัลลภาเทวี  จึงทรงเลิกรากันไปในเร็ววัน  แต่ก๋ไม่มีการถอนหมั้น  จนทรงราชาภิเษกสมรสกับพระสุจริตสุดาแล้ว  จึงทรงถามว่า จะทรงเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารับพระราชทานเงินเลี้ยงชีพเดือนละ ๑,๐๐๐ บาท  หรือจะเป็นพระนางเธอ จะได้รับพระราชทานเงินปีในฐานะพระมเหสีๆ ปีละ ๒๐,๐๐๐ บาท  ทรงปรึกษากรมหมื่นนราธิพงศ์ประพันธ์พระเชษฐาต่างมารดาแล้ว  ทรงเลือกเป็นพระนางเธอ  แล้วโปรดให้เสด็จไปประทับที่พระราชวังดุสิต

- พระสุจริตสุดา
เป็นผู้ทรงราชาภิเษกสมรสด้วยเป็นคนแรก  และโปรดสถาปนาเป็นพระสนมเอก  แต่ทรงอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน  คุณพระใหญ่ (พระสุจริตสุดา) ก็ถวายน้องสาว คือคุณประไพ  สุจริตกุล เป็นบาทบริจาริกาอีกคน  

- พระอินทรศักดิ์ศจี ท่านนี้ยิ่งหน้าเห็นใจท่าน ในพระราชพินัยกรรมของ ร.๖ สั่งห้าม
เมื่อคุณพระใหญ่ถวายน้องสาว  และทรงราชาภิเษกด้วยคุณประไพ  สุจริตกุล แล้ว  โปรดสถาปนาเป็นพระอินทราณี  ในช่วงเวลานี้หม่อมเจ้าพูนพิศมัย  ดิศกุล ทรงกล่าวว่า เมื่อทรงราชาภิเษกกับพระอินทราณีแล้ว  เวลานั้นเวลาเสด็จออกงาน  ก็จะโปรดให้พระนางเธอลักษมีลาวัณประทับคู่  ส่วนพระสนมทั้งสองนั้นนั่งด้านหลัง  แต่เวลาประทับที่ฝ่ายใน  ล้นเกล้าฯ จะเสด็จไปประทับกับพระอินทราณีเพียงองค์เดียว  สุดท้ายเมื่อพระอินทราณีเริ่มมีครรภ์  จึงโปรดสถาปนาเป็นพระวรราชชายา พระนางเธอลักษมีลาวัฯจึงแยกไปประทับลำพังพระองค์  จากนั้นโปรดสถาปนาพระวรราชชายาขึ้นเป็นพระบรมราชินี  ด้วยทรงหวังว่าจะมีพระราชกุมาร  แต่พระราชินีก็ตกพระครรภ์ (แท้ง) เสียหลายครั้ง  การจึงมิได้เป็นไปตามพระราชประสงค์  แล้วต่อมามีเรื่องที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระราชินี  จึงทรงแยกกันอยู่กับพระราชินีมาแต่บัดนั้น  เมื่อสมเด็จฯ เสด็จกลับกรุงเทพฯ ก็คงประทับที่พระราชวังพญาไทมาจนปลายรัชกาลจึงโปรดให้เชิญเสด็จไปประทับที่พระที่นั่งวิมานเมฆ  เมื่อสวรรคตแล้วได้เสด็จกลับไปประทับที่ตำหนักเดิมที่ปากคลองภาษีเจริญ  

- พระนางเจ้าสุวัทนา  มีพระประสูติกาล สมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์
เรื่องของล้นเกล้าฯ กับพระนางเจ้าสุวัทนา  เริ่มมาจากทรงละครที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน  และเมื่อทรงแยกกับพระบรมราชินีแล้ว  ต่อมาจึงทรงราชาภิเษกสมรสกับคุณเครือแก้ว  อภัยวงศ์ ที่โปรดสถาปนาเป็นเจ้าจอมสุวัทนา พระสนมเอก  และเมื่อเจ้าจอมสุวัทนามีครรภ์แก่ก็โปรดสถาปนาเป็นพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เพื่อผดุงพระอิสริยยศพระราชกุมารที่จะมีพระปรสูติกาลในเวลาต่อมา  ซึ่งจะได้ประสูติเป็นเจ้าฟ้า  และก่อนจะเสด็จสวรรคตไม่นานก็โปรดให้ออกพระนามสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี เป็น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระวรราชชายา  และที่ทรงห้ามนำพระอัฐของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีมาไว้คู่กับพระบรมอัฐของพระองค์นั้น  ก็ด้วยมีพระบรมราชโองการสั่งให้เชิญพระอัฐิพระนางเจ้าสุวัทนามาตั้งแทน  คงจะเป็นเพราะมีพราชดำริว่าถ้าทรงมีพระราชกุมารก็คงจะโปรดสถาปนาพระนางเจ้าสุวัทนาเป็นพระบรมราชินีต่อไป

ส่วนคำถามที่ว่า "การจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไปก็คงจะลำบาก" นั้น  
เป็นธรรมเนียมในพระราชสำนักว่า หากสตรีใดถวายตัวเข้ารับราชการฝ่ายในแล้ว  ก็จะเป็น "คนของหลวง" ไปตลอดชีวิต  ยิ่งถ้าเป็นพระมเหสี พระสนมหรือเจ้าจอม  หรือพระคู่หมั้นก็จะต้องดำรงเกียรติยศนั้นไปจนตลอดชีวิต
แต่กรณีคุณพนักงานที่เป็นคนหลวง  หากจะสมรสกับชายใด  ชายนั้นต้องขอพระราชทานหญิงนั้นไปสมรส  เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วจึงจะสมรสด้วยได้  หากมิได้สมรสก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในพระบรมมหาราชวังไปตลอดชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่