(บ่นเฉยๆ) อึดอัดใจ...เห็น ตร.จร. บางท่านปฏิบัติหน้าที่แบบ "เลือกที่รักมักที่ชัง"

ผมเดินทางจากที่พักย่านรามคำแหงเพื่อมาทำงานบริเวณถนนราชดำเนินกลางมากว่า 1 ปีแล้ว
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยเห็นด่านหน้า สน.พญาไทมาก่อน
แต่เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา...นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเจอด่านหน้า สน.พญาไทแห่งนี้...และพอเจอครั้งแรกก็โดนจับเลย
ด้วยข้อหา "วิ่งขึ้นสะพานลอยข้ามแยกพญาไท"

ข้อหานี้ ผมเคยโดนจับแค่ครั้งเดียวจริงๆ (อีก3ครั้งที่เหลือ คือ ข้อหาวิ่งขวาทั้งหมด ซึ่งผมไม่เถียง...เพราะผิดจริง) เมื่อคราวขี่รถบนเส้นลอยฟ้าหน้ารามคำแหง ช่วงม.รามคำแหงรับปริญญาที่ผ่านมา
เป็นข้อหาที่งงๆ แม้จะมีป้ายห้ามหน้ารามสแควร์ก็ตาม เพราะตลอด 2 ปีที่ผมขี่รถผ่านเส้นนี้ ผมก็วิ่งขึ้นเส้นนี้มาจนชิน จนเป็นกิจวัตร
แต่ครั้งนั้นไม่โดนจับ รู้เลยว่าเพราะบัตรประจำตัวราชการช่วยไว้
หลังจากโดนจับครั้งนั้น ผมเลือกที่จะไม่วิ่งเส้นลอยฟ้าหน้ารามคำแหงอีกเลย...ยอมวิ่งอ้อมไปศรีนครินทร์ --- พระราม 9 --- จตุรทิศ แทน

ความเข้าใจของผม คือ ถ้าสะพานลอยไหนมีป้ายห้าม...ผมก็จะไม่ขึ้น...และสะพานไหนไม่มีป้ายห้ามก็แปลว่าขึ้นได้
กรณีนี้สอดคล้องกับสิ่งที่ สน.บางเขนได้ตอบไว้ในเว็บไซต์ของ บก.จร. ในลิงค์นี้
http://www.trafficpolice.go.th/qa_answer.php?id=17185

..."ส่วนปัจจุบันรถจักรยานยนต์สามารถขึ้นสะพานใดได้บ้างนั้น ให้สังเกตุทางด้านซ้ายมือบริเวณบาทวิถีหรือก่อนถึงทางขึ้นสะพานข้ามแยกนั้นว่ามีป้ายห้ามขึ้นหรือไม่  ถ้าไม่มีป้ายห้าม ก็สามารถขับขี่จักรยานยนต์ขึ้นได้/สน.บางเขน..."

----------------------------------------



ตอนโดนจับช่วงสงกรานต์...ผมว่าจะเฉยๆแล้วนะ...ถือว่าเราพลาดเองที่ไม่สู้ด้วยเหตุผลจนสุด
และอีกอย่าง...ท่านเองก็จับ "ยาบ้าชนด่าน" ช่วงสงกรานต์ได้ก็เพราะด่านนี้...ผมถือว่านี่แหละ คือ ประโยชน์ของด่าน
แต่มาระยะหลังๆ เห็นพฤติกรรมของตำรวจจราจรหลายๆท่าน...ชักจะไปกันใหญ่...จนผมเริ่มไม่สบายใจ
น้อยเนื้อต่ำใจ...อยากมีรถเก๋งขับ เพราะคิดว่าถ้าขับรถเก๋ง...คงจะไม่โดนข้อหางี่เง่าๆแบบนี้

ตอนมาทำงานใหม่ ผมพยายามมองป้ายห้าม...ก็ไม่เห็นเลย...จริงๆ
บริเวณหน้าทางขึ้นสะพานข้ามแยกพญาไท ผมเห็นแต่ "ป้ายห้ามรถบรรทุก และรถที่มีความสูงกว่า 3.1 เมตร ขึ้นสะพาน”
ห้ามขึ้น...เพราะรถที่สูงเกินกว่า 3.1 เมตร จะไปตีคานคอนกรีตของ BTS จนเสียหาย...
และไม่ได้ห้ามมอเตอร์ไซค์...เพราะบริเวณนั้นไม่มีป้ายรูปรถมอเตอร์ไซค์อยู่ในวงกลมสีแดงขีดฆ่าเลย...

แสดงว่า การตั้งด่านตั้งกรวยกันอย่างขมักเขม้นหน้า สน.พญาไทที่ผมเจอมาเมื่อตอนสงกรานต์...คงจะมีวาระซ่อนเร้น
เมื่อคราวสงกรานต์ขณะที่ผมจอดหาใบขับขี่เพื่อยื่นให้ตำรวจจราจร รหัส 6625/6626 (ไม่แน่ใจ) อยู่นั้น
มีรถ Kawasaki - ER6n ขับลงสะพานผ่านแนวกรวยไปแบบจะๆ...ผมว่าไม่รอดแน่...มีเพื่อนแล้ว
แต่ตำรวจในด่านกลับไม่สนใจ ผมเห็นเลยว่าพวกเขาทั้งหมดจงใจหันหลังทำเป็นไม่เห็น
แต่กับรถครอบครัวขนาด 125 ซีซีนี่จับกันจัง...เสี่ยงตายอย่างกับโจวเหวินฟะ...วิ่งไปโบกเค้ากลางถนน

ตอนนั้น ผมอธิบายไปว่าถนนเส้นนี้ผมขี่ไปทำงานทุกวัน ตลอด 1 ปีไม่เคยโดนจับเลย...ไม่มีป้ายห้ามด้วย
พออธิบายไปเขาก็ไม่ฟัง พอรู้ตัวว่าโดนแน่ ผมยอมจ่ายแบบมีใบเสร็จ เพราะไม่ต้องการให้พวกเขาได้ค่าปรับผมไปง่ายๆ
ตอนที่ผมให้ ตร.จร. เขียนข้อหาให้ตรง...พวกเขาก็เลี่ยงบาลีเขียนข้อหาไม่พกสำเนาให้ โดยให้เหตุผลว่า "เออ...ช่วยกัน"
...เปลี่ยนข้อหาให้เป็น "ไม่พกสำเนา" แล้วมาปรับผม 100 บาท...ทั้งๆที่ตัวผมยังมีสำเนาอยู่...
และประการสำคัญ คือ ข้อหาเปรียบเทียบปรับในสารบบนั้น ขั้นต่ำสุดอยู่ที่ 200 บาท
ผมชักข้องใจกับการปรับครั้งนี้

จับด้วยข้อหาแบบนี้ ผมว่าพวกพี่เค้า "ไม่แฟร์"...

นั่นเป็นเรื่องของเมื่อสงกรานต์...

มาวันนี้...ผมลาครึ่งวัน...ขับลงมาจากเส้นจตุรทิศ....เห็นพี่วินขี่ย้อนศรลงมาจากสะพาน...รู้เลย...เอาอีกแล้ว ตั้งด่านอีกแล้ว...
ผมอยากรู้ว่าถ้าวิ่งเส้นล่างมันจะเป็นอย่างไร (หน้า รพ.เดชา/ติดปั้มเชลล์) ซึ่งมันก็ติดเป็นคอขวด ตั้งแต่ทางลงสะพานแล้ว
แน่นอนล่ะว่าต้องไปทนติดไฟแดงที่แยกพญาไท...และแยกนี้เน้นปล่อยรถสายเข้า-ออกอนุสาวรีย์มากกว่า
ผมต้องติดตรงนั้นนานกว่า 3-5 นาทีแน่นอน....เอาเว้ย ทนๆๆๆๆๆๆ มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเพียบ
ติด ร้อน เสียเวลา คือ ข้อเสียที่ผมเห็นชัดๆจากการไม่ขึ้นสะพานครั้งนี้

แต่เมื่อย้อนกลับไปดูข้อความนี้แล้ว....
..."ส่วนปัจจุบันรถจักรยานยนต์สามารถขึ้นสะพานใดได้บ้างนั้น ให้สังเกตุทางด้านซ้ายมือบริเวณบาทวิถีหรือก่อนถึงทางขึ้นสะพานข้ามแยกนั้นว่ามีป้ายห้ามขึ้นหรือไม่  ถ้าไม่มีป้ายห้าม ก็สามารถขับขี่จักรยานยนต์ขึ้นได้/สน.บางเขน..."

คืออะไรครับ???

สะพานพญาไทไม่มีป้ายห้ามจักรยานยนต์ไม่ใช่หรือครับ???

พวกท่านเป็น บช.น. เหมือนกัน...ทำไมมาตรฐานการทำงานต่างกันล่ะครับ?
พวกท่านถือกฎหมายในมือแล้วปฏิบัติงหน้าที่เช่นนี้ ท่านจะให้เรารู้สึกกับท่านอย่างไร
พวกท่านใช้วาจาบางส่วนใช้วาจาที่ไม่สุภาพกับ taxpayer อย่างพวกเราด้วย
ผมเคยเจอสน.มักกะสันตวาดใส่....เพียงเพราะหาใบขับขี่ช้า...
กว่าจะควักกระเป๋าสตางค์ที่ติดต้นขาใหญ่ๆ หยิบใบขับขี่ไม่ถนัดเพราะใส่ถุงมือ...กลับโดนตวาด..."พวกยิ้ม...เร็วๆหน่อยยยยย"
แม่มเอ๊ย...กุไปฆ่าพ่อฆ่าแม่มันตายหรือไง...ใบขับขี่นะไม่ใช่ป้ายวงกลม...จะให้ติดหน้ารถหรือไง (คิดในใจตอนนั้น)

อึดอัดเวลาเจอตร.จร.พวกนี้....ถ้าผิดจริงล่ะไม่ว่า...ยอมจอดยอมรับโดยดีเลย
เคยคิดจะแหกด่าน เคยทำอยู่ครั้งเดียวตอนนั้นไม่มีบัตรขับขี่/ใส่ขาสั้น/รองเท้าแตะ
ครั้งนั้นเสียวไปถึงไส้...ตะคริวจะกินช่องท้อง...ขาชา...ทรมานแบบนั้น บอกกับตัวเองว่าจะไม่แหกด่านอีก จะพูดด้วยเหตุผล

ผมยืนยันครับ...ผมสนับสนุนด่านแอลกอฮอร์กับด่านตรวจอาชญากรรม…
เพราะมันเป็นด่านที่มีประโยชน์สำหรับชาวบ้านอย่างเราๆ รวมทั้ง ด่านตรวจควันดำของจร.กลางด้วย...นี่คือข้อดีของด่าน
แต่กับด่านตะกวดขันจราจรที่บาง สน. ทำอยู่นั้น...ผมว่ามันไม่ใช่ครับ...
มาตีมึน ซึนเดอเร๊ะ ยัดข้อหาศรีธนญชัยแล้วไม่ฟังคำอธิบายใดๆ ผมว่ามันไม่ใช่วิสัยของตำรวจที่ดี

ครั้งหนึ่งเคยจับจอดรถบนทางเท้าตอนไปทานข้าวเย็น เยื้องๆแยกราชเทวมาทางอุรุพงศ์
ไม่มีที่จอดรถเลย...ถามเจ้าของร้านว่าจอดตรงไหนได้บ้าง เจ๊บอกว่าบนทางเท้าจอดได้ และมีรถจอดก่อนหน้าผมเป็น 10 คัน
แต่ทว่าตอนออกมา ผมพบตำรวจท่านหนึ่งกำลังเขียนใบสั่ง ส่วนของผม โดนล็อคล้อเรียบร้อย  
และถ้าเขียนหมดตรงนั้น ดาบ/จ่าท่านนั้นจะได้ใบสั่งไม่น้อยกว่า 10 คัน

แต่ท่านเลือกจับ...ผมรู้...เพราะท่านไม่เขียนใบสั่งให้ดูคาติ มอนสเตอร์ สีแดง....
ผมปากดีถามทำไมคันนี้ไม่เขียนให้ ล้อก็ไม่ล็อคด้วย
ท่านตอบมาอย่างหน้าไม่อายว่า เจ้าของรถขออนุญาตท่านแล้ว

ผมถาม...ตื้อๆตรงๆ...ทำไมของผมถึงโดนจับ? ในเมื่อเจ้าของร้านบอกว่าจอดได้
ดาบ/จ่าท่านนั้นก็ตอบว่า "ผมบอกให้เด็กในร้านแจ้งให้ลูกค้ามาเลื่อนแล้ว พวกคุณก็มีความสุขกันจัง ไม่ออกมาเลื่อนรถ"
เช็ดเคร่ ผมนั่งกินอยู่ปากทางร้านเลยนะนั่น...นั่งกินอยู่สองนาน ไม่เห็นมีใครมาประกาศอะไรสักคำ

ผมชี้ต่อ แล้วทำไมรถตำรวจคันนั้นจอดได้...ไทเกอร์ 200 ซีซี...รถตำรวจ
ผมได้รับคำตอบแบบตะคอกว่า "เค้าปฏิบัติงานอยู่"...ปฏิบัติงานในร้านอาหารเนี่ยนะ!!!"

อึดอัดใจกับความสองมาตรฐานของ ตร.จร.

ถ้าท่านจับ...ท่านต้องจับรถเก๋งที่ไม่ติดทะเบียนหลังด้วย...
ถ้าท่านจับ...ท่านต้องจับรถที่พ่นทะเบียนขาว/ลักลอบแปลงเลขทะเบียนด้วย
ถ้าท่านจับ...ท่านต้องจับบิ๊กไบค์ที่วิ่งขวาตลอดด้วย ตราบใดที่พวกท่านยังคงอ้างพรบ.ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 อยู่
มัวแต่มาจับรถครอบครัว 125 ซีซีด้วยข้อหาแบบนี้...
แปลว่า พวกท่านทำงานแบบ “สองมาตรฐาน”

อึดอัดใจ...ได้ระบายแล้ว...
ขอบคุณที่รับฟังครับ

ปล. ขอความกรุณาอย่ามาเปิด "ศึกสองล้อ vs สี่ล้อ" ที่นี่เลยนะครับ....
ขอให้เป็นเรื่องของการทำงานของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเดียวเถิดครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่