เมื่อวานเราได้มีโอกาสไปงาน “กรุงเทพมหานครเมืองหนังสือโลก 2556” หรือ  World Book Capital   ที่ สยามพารากอนมาค่ะ ซึ่งงานนี้จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และก็ปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ ด้วยระยะเวลาการจัดงานรวมแล้วแค่สามวัน เราเชื่อว่าน่าจะมีหลายคนที่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวงานนี้ เนื่องจากระยะเวลาการจัดงานที่ค่อนข้างสั้น อย่างเรา ถึงแม้จะรู้ว่ามีงานจัดขึ้นที่พารากอน แต่เอาเข้าจริงเมื่อมาหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวจะไปงาน ก็พบว่า เมื่อวานเป็นวันจัดงานวันสุดท้าย ดังนั้น พอเลิกงานปุ๊ปเราก็รีบขึ้น BTS ตรงดึ่งไปสยามเลยค่ะ เพื่อไปดูว่าภายในงานระดับโลกที่บ้านเราได้รับเกียรติให้จัดขึ้นมีอะไรบ้าง

และอย่างที่บอกไปข้างต้น ว่างาน “กรุงเทพมหานครเมืองหนังสือโลก 2556” จัดขึ้นที่ สยาม พารากอน ดังนั้น เราจึงกดลิฟท์ตรงขึ้นไปยังชั้น 5 ซึ่งเป็น รอยัล พารากอน ฮอลล์ สถานที่จัดงานค่ะ ขนาดของฮอลล์ ก็กว้างขวางพอดี เดินสบาย แอร์เย็น

สำหรับคนที่มาร่วมงาน ส่วนมากที่เราเห็นก็จะมีทุกวัยนะ วัยรุ่นก็มี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครองพาเด็กๆ มามากกว่าค่ะ

และก่อนที่จะเข้างาน สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ มีบูธให้ฝากสัมภาระ ซึ่งเราว่ามันดีมากเลย เพราะว่าเข้าไปจะได้ตัวโล่งๆ หยิบจับอ่านหนังสือได้ถนัดขึ้น ไม่ต้องพะรุงพะรัง เป็นกังวล แลดูใส่ใจคนมางานดีนะ

ด้านหน้ามีต้นไม้หนังสือที่ทำจากกระดาษ รวมถึงป้ายแผนผังโซนกิจกรรมที่มาพร้อมกับตุ๊กตาช้างมาสคอต สีชมพูและฟ้าที่คอยต้อนรับ

สำหรับโซนกิจกรรมภายในงาน มีทั้งหมด 16 โซนค่ะ คร่าวๆ ก็มีทั้งเวทีกิจกรรม มุมอ่านหนังสือ ประวัติความเป็นมาของหนังสือไทย การออกบูธชมรมหนังสือของบริษัทเอกชนและสำนักพิมพ์ รวมถึง ร้านกาแฟไว้คอยให้บริการด้วย มีไปรษณีย์ไทยมาด้วยค่ะ ซึ่งสองอย่างหลัง เราว่ามันกลายเป็นเพื่อนสนิทของหนอนหนังสือไปแล้ว จริงมั้ย?

และก่อนที่เราจะเดินเข้าไปยังห้องที่อยู่ถัดไป บนเวทีกิจกรรม กำลังมีการสัมภาษณ์ คุณ อ้น ศรีพรรณ อยู่พอดี  ก็สนุกสนานตามสไตล์ โดยรวมจำนวนของคนที่มางานนี้ เราว่าเข้าข่ายน้อยเลยล่ะ อาจจะเป็นเพราะตอนที่เราไปเป็นช่วงเวลาบ่ายๆ เวลาทำงานด้วย แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าเป็นวันอาทิตย์ที่จัดงานวันแรกหรือตอนเย็นๆ คนจะเยอะกว่ามั้ย ถ้าใครไปมาวันไหน มาแชร์กันได้นะคะ

หลังจากผ่านพ้นในส่วนของเวทีกิจกรรมกันไปแล้ว เราเดินเข้ามาอีกห้องค่ะ ห้องนี้จะมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนๆ ซึ่งเท่าที่จำได้ก็มี โซนหนังสือเด็ก โซนหนังสือพระราชนิพนธ์ โซนวรรณกรรม  ประมาณนี้

เราแอบเห็น มีเจ้าหน้าที่ประจำบูธ อ่านหนังสือให้เด็กๆ ฟังด้วย

และแน่นอนว่าเป็นโซนหนังสือเด็ก ก็ต้องมีเรื่องราวของการ์ตูนเข้ามาเกี่ยว อย่างในรูปก็จะเห็น การบอกเล่าความเป็นมาของการ์ตูนไทยในอดีต มีการจัดแสดงหนังสือการ์ตูนที่หาดูยาก เชื่อว่าหลายคนในนี้ต้องไม่เคยเห็น

สองเล่มนี้ เป็นผลงานการ์ตูนของคุณชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนชื่อดังของเมืองไทย เจ้าของผลงาน ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน ซึ่งเราว่าไม่น่าจะมีใครไม่รู้จักเนอะ ราคาหน้าปกอยู่ที่ 15 บาท ส่วนหน้าปกนี่เป็นรูปของใครบ้าง ดูไม่ออกเลยค่ะ

หลังจากผ่านจากโซนหนังสือการ์ตูน มาต่อกันที่โซนที่เป็นน่าจะเป็นไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้นะคะ คือส่วนบริเวณ “สวนอักษรของสมเด็จพระเทพฯ” โซนนี้ มีการจำลองพื้นที่ให้มีลักษะสวนหย่อมเล็กๆ ค่ะ พร้อมการจัดแสดงหนังสือพระราชนิพนธ์และภาพฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนฯ หลายเล่มมากเลย

ส่วนโซนสุดท้ายของงาน จะเป็นโซนงานวรรณกรรมค่ะ ซึ่งมีการจัดแสดงประวัติของนักเขียนชั้นครูในอดีต หลายคนพร้อมกับหนังสือผลงานที่สามารถทดลองอ่านได้

ปิดท้าย งาน “กรุงเทพมหานครเมืองหนังสือโลก 2556” กันด้วย มุมแนะนำหนังสือน่าอ่าน ซึ่งนอกจากมีจะมีการแนะนำหนังสือวิทยาศาสตร์ 88 เล่มที่ควรอ่านแล้ว ยังมีการแนะนำ 29 เล่มหนังสือความรู้ทั่วไป หรือ 30 สารคดีที่ควรอ่านด้วยนะคะ ซึ่งถ้าใครอยากได้รายชื่อหนังสือไว้อ่าน หลังไมค์มาได้จ้า

โดยรวมแล้วเราว่า งานนี้จัดดีนะคะ ได้ความรู้ดีด้วย ได้เห็นอดีตของหนังสือ ตัวอักษรของไทย แต่น่าเสียดายที่ระยะเวลาจัดงานน้อยไปหน่อย ส่วนหนึ่งก็คงน่าจะเป็นเพราะเรื่องของค่าเช่าสถานที่่ จึงทำให้ไม่สามารถจัดงานได้นานขึ้น ซึ่งถ้ามีจัดขึ้นอีกครั้งก็เชียร์ให้ไปกันนะ