*** Millennium Auto รูดบัตรเงินจองรถเกินไป ผ่านไปหนึ่งเดือน ยังไม่ได้รับเงินคืน ***

เมื่อวันที่ 22 มีนา ผมได้จองรถ BMW ที่ศูนย์ Millennium Auto สาขาสยามพารากอน โดยใช้บัตรเครดิต
โดยทำสัญญาว่า จอง 100,000 บาท ปรากฏว่าทางเซลส์รูดบัตรไปสองครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท
เท่ากับว่า ผมโดนชาร์จที่บัตรเครดิต 200,000 บาท โดยผมจะขอลำดับเหตุการณ์ตามวันที่เกิด
เหตุการณ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าใจเหตุการณ์ได้ง่ายขึ้นนะครับ

22 มี.ค. นัดจองรถกับเซลส์ที่สยามพารากอน จองโดยใช้บัตรเครดิต โดยตอนแรกเซลส์นำบัตรไปรูดที่เครื่องรูดบัตร
ได้รับชี้แจงจากเซลส์ภายหลังว่า วันนั้น กระดาษหมด เซลส์เลยไม่ทราบว่า รายการได้ทำสำเร็จแล้ว (แล้วทำไมไม่ดู
ก่อนรูดว่าเครื่องมีกระดาษหรือเปล่า?!) โดยในขณะที่เซลส์นำบัตรไปรูด ผมไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในขณะนั้น เนื่องจาก
นั่งอยู่ที่โต๊ะและอ่านเอกสารอื่นๆอยู่ จากนั้น เซลส์เดินมาหาผมที่โต๊ะแล้วแจ้งว่า เครื่องรูดเสีย ขอเป็นรูดโดยใช้
เครื่องซิปแซป (คงจะนึกภาพออกนะครับ ที่เอาบัตรเราวางไว้แล้วใช้สลิปคาร์บอนวางทาบข้างบน แล้วค่อยโทรไป
ขอรหัสอนุมัติจากแบงก์อีกที) ผมก็โอเค พอเซลส์คุยกับแบงก์ได้รหัสอนุมัติเสร็จ ผมก็เซ็นชื่อในสลิป

1 เม.ย. ผมเข้าไปตรวจสอบรายการใช้จ่ายบัตรเครดิตทาง internet banking และตกใจที่พบว่า มีรายการรูดใช้จองรถ
ไปถึงสองรายการ รายการละหนึ่งแสนบาท เลยรีบโทรไปตรวจสอบกับทางแบงก์อีกทีว่า มันมีสองรายการแน่ๆใช่หรือไม่
แบงก์ก็ยืนยันว่ามีสองรายการจริงๆ โดยรายการแรก มียอดเรียกเก็บเข้ามาวันที่ 26 มี.ค. ส่วนรายการที่สองเป็นการเรียก
เก็บมาวันที่ 27 มี.ค.  ผมเลยรีบโทรติดต่อแจ้งเซลส์ให้ช่วยตรวจสอบให้

2 เม.ย. ได้รับแจ้งจากเซลส์ว่า ตรวจสอบกับฝ่ายบัญชีแล้ว พบรายการมีเงินเข้าแค่รายการเดียว ถ้าจะให้ตรวจสอบมากกว่านี้
ต้องเอาเอกสารเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตมาแสดงให้ดู
ผมเลยต้องเข้าไปใน internet banking แล้วแค็ปหน้าจอส่งไปให้ดู

4 เม.ย. เซลส์โทรมาแจ้งว่า พบรายการที่รูดเกินไปแล้ว เนื่องจากรายการแรกเงินเข้า ธ.กรุงศรี แต่รายการที่สอง เงินเข้า
ธ.กรุงเทพ ตอนแรกฝ่ายบัญชีดูแค่บัญชีของ ธ.กรุงเทพ ที่เดียว ก็เลยไม่เจอ ผมเลยบอกเซลส์ให้แจ้งฝ่ายบัญชีให้ทำการ
ยกเลิกรายการที่เกินไปออกจากบัญชีบัตรเครดิต เนื่องจากผมจะเดินทางไปต่างประเทศและจำเป็นต้องนำบัตรไปใช้
แต่เซลส์แจ้งกลับมาว่า รายการทั้งสอง ทำสำเร็จแล้ว ทางมิลเลนเนียมได้รับเงินจากแบงก์มา 2 แสนบาทแล้ว จะต้องคืนเงิน
โดยการทำคืนเป็นเช็คเท่านั้น และไม่สามารถบอกได้ว่า จะได้เมื่อไร

5 เม.ย. ผมเดินทางไปต่างประเทศ เลยไม่ได้ตามเรื่องต่อ

17 เม.ย. ได้ติดตามทวงถามไปเซลส์อีกครั้งว่า เมื่อไรจะได้เช็คคืนเงิน เพราะบัตรเครดิตสรุปยอดแล้ว ถ้าจะให้ผมควักเงินสด
ผมจ่ายให้บัตรเครดิตก่อน ผมไม่ยอมแน่ แต่คำตอบที่ได้รับคือ กำลังรอผู้บริหารอีกหนึ่งท่านลงนามอนุมัติการคืนเงิน
แล้วถึงจะส่งเรื่องให้ฝ่ายบัญชีทำเช็คคืนให้

19 เม.ย. ผมรอไม่ไหว โทรไปหาหัวหน้าของเซลส์อีกครั้ง แต่เธอไม่รับสาย ให้เซลส์โทรกลับมาแทน
ผมเลยสวดไปยกใหญ่ว่า ถ้าผมเป็นคุณ ผมไม่มานั่งรอผู้บริหารเซ็นชื่อแบบนี้หรอก
ผมไปนั่งเฝ้าหน้าห้องทำงานแล้วเอาเอกสารไปให้ลงนามเองแล้ว และบอกเซลส์ว่า ถ้าหัวหน้าประชุมเสร็จ
ให้บอกหัวหน้าโทรกลับมาคุยกับผมด้วย แต่ผลคือ ไม่มีเสียงโทรศัพท์จากห้วหน้าเซลส์ครับ

23 เม.ย. เนื่องจากไม่มีการติดต่อใดๆจากทาง Millennium Auto ผมเลยโทรไปร้องเรียนที่ call center ของทาง
BMW Thailand และได้รับคำตอบว่า แจ้งทางมิลเลนเนียมแล้ว ได้ความว่าไงจะแจ้งกลับโดยเร็วที่สุด

ทุกท่านจะเห็นว่า ไม่มีความกระตือรือร้นใดๆจากทาง Millennium Auto เลย ในการที่จะทำเรื่องคืนเงินให้ผม
การติดต่อทุกครั้ง ก็เป็นผมต้องเป็นคนโทรไปตามงานเองทุกครั้ง

ผมเริ่มเบื่อและชักไม่อยากได้รถคันนี้แล้วครับ ซื้อรถราคาตั้งเกือบ 4 ล้าน ทำไมมันยุ่งยากและต้องง้อเซลส์มาก
ขนาดนี้ครับ!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่