[CR] Backpack 15 วันในยุโรปแบบรั่วๆครั้งแรก สวิส-ทะเลสาปโคโม-มิลาน-เวนิส-โดฮา ตอนที่ 3 (Lucern--Mt.Rigi—Lake Lucern)

ติดตามกระทู้ตอนที่ 1 ได้ที่นี่ -------->   http://ppantip.com/topic/30390142

ตอนที่ 2 -------->   http://ppantip.com/topic/30393930

ตอนที่ 4 มาแล้วครับ-------> http://ppantip.com/topic/30415384



โปรแกรมวันนี้คือ check out ออกจากโรงแรมที่ซูริก แล้วนั่งรถไฟไปลูเซิร์น วางกระเป๋าสัมภาระ แล้วออกล่องทะเลสาปลูเซิร์น ไปขึ้นยอดเขาริกิ จากนั้นกลับมาลูเซิร์น เดินเมืองเก่า และ nightlife ที่ลูเซิร์น เม่าดี๊ด๊า


เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยครับ...


เช้านี้คิดว่าพอจะปรับตัวได้ เราก็ชิลๆกัน กระเป๋าก็แพ็คเสร็จตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากเรียบร้อยกันแล้ว ก็ลงมาทานอาหารเช้ากันก่อน เสร็จสรรพก็แบกสมบัติ ลากกระเป๋าออกเดินทางไปขึ้นรถไฟ แต่ทีนี้ ด้วยความที่เราชิลกันมากไป ไปถึงสถานีรถไฟ รถไฟของเรากำลังจะออกพอดี แบบจวนเจียนมากๆ ขนาดที่ว่า เราจำต้องแบกสัมภาระทั้งหมดขึ้นตู้รถไฟก่อนเลย โดยไม่ดูชั้น 1 ชั้น 2 แล้ว เพราะถ้าจะให้เดินถึงตู้ชั้น 2 รถไฟออกก่อนแน่นอน


พอขึ้นมาได้ 10 วินาทีมั๊ง รถไฟก็ออก เป็นไงล่ะครับ ประสบการณ์สยอง เกือบตกรถไฟ บีบหัวใจมากๆ แต่เรื่องรั่วๆ ยังไม่จบแค่นี้ เพราะเรากระโดดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ดูว่ามันคือตู้ของชั้น 1 เพราะในวินาทีที่รถกำลังจะออก จะตู้ไหนก็ขอให้ได้ขึ้นไปก่อนล่ะน่า จริงมั๊ยครับ ผิดตู้ แต่ดีกว่าตกรถไฟแน่นอน แต่เมื่อขึ้นไปแล้ว ไม่เดินไปนยั่งให้ถูกตู้ แล้วนายตรวจมาตรวจพอดี รับรองโดนปรับอานแน่ๆ

พอขึ้นมาได้ เอาไงต่อล่ะ ไม่ต้องถาม เพราะรู้ๆกันอยู่

.....ผมก็ต้องหอบสัมภาระทั้งหลายทั้งปวง เดินข้ามตู้แล้วตู้เล่าให้ทรมานสังขารเล่น โดยให้พ่อกับแม่รอยืนรออยู่ที่ตู้ชั้น 1 ที่เราขึ้นมานั่นแหละครับ แล้วตู้รถไฟชั้น 1 ที่ผมขึ้นมานี้ ก็ช่างห่างไกลจากตู้ชั้น 2 ซะเหลือเกิน แถมพอผมเดินสำรวจไปจนถึงตู้ชั้น 2 ก็เต็ม เต็ม และเต็ม (ทำให้ได้ประสบการณ์ว่า พึงระวังการโดยสารรถไฟซูริกในช่วงเช้า เพราะคนจะเยอะมากๆๆๆ) ต้องเดินไปอีกหลายตู้เลย กว่าจะเจอที่ว่าง 3 ที่ จากนั้น ผมก็เดินกลับมาหาแม่ แล้วให้แม่เดินตามมา แบบกระเป๋าไม่ต้องแบกก่อน ถึงที่นั่ง ให้แม่นั่งจองที่ไว้ก่อน ผมเดินกลับไปยังตู้ชั้น 1 ที่ขึ้นมาครั้งแรกอีกครั้ง แบกกระเป๋า พะรุงพะรังเดินมาจนถึงที่ที่แม่นั่งจอง (พ่อยังยืนที่เดิมเฝ้ากระเป๋าที่เหลือไว้ก่อน) ผมเดินกลับไปอีก ทำอย่างนี้อีกหลายรอบ จนรอบสุดท้ายจึงหอบสัมภาระมาหมด รวมทั้งให้พ่อเดินตามมาด้วย

ไงล่ะครับ  บอกได้คำเดียวว่า “หลาบ” ได้ออกกำลังกายแต่เช้า นี่คือผลที่เกิดขึ้นจากการขึ้นตู้รถไฟไม่ตรงชั้นที่เราซื้อ ในตอนที่ต้องแบกสัมภาระเพื่อย้ายเมือง แค่เดินไปยังตู้ชั้น 2 ก็อนาถพอแล้ว นี่ต้องเดินกลับไปมา นับรวมๆกัน 6 รอบได้ แล้วแต่ละเที่ยวก็ต้องแบกสัมภาระพะรุงพะรังให้ฝรั่งมันมองให้น่าสังเวชใจอีก ใครจะไปสวิส แล้วย้ายเมือง บอกไว้ก่อนเลย คุณไปแต่หัวรุ่งเลยนะ และจงอย่าขึ้นผิดตู้เด็ดขาด งานนี้ พ่อแม่ผม เห็นจะสงสารผมที่สุด เพราะพอทุกอย่างเสร็จ ผมนั่งหมดสภาพเลย แต่จากเหตุการณ์ในวันนี้ เวลาผมบอกเรื่องเวลากับท่าน ท่านก็ไม่เคยงอแงเลยว่า จะรีบไปทำไม เพราะคงรู้แล้วว่า ถ้าเอื่อยๆเฉื่อยๆ ผมต้องตายก่อนจบทริปนี้แน่ๆ


เอาล่ะ บ่นมามากแล้ว เข้าเรื่องอีกทีดีกว่า.....


ผมนั่งยังไม่ทันหายเหนื่อยเลย รถไฟก็วิ่งถึงลูเซิร์น ออกจากสถานีรถไฟลูเซิร์น (ซึ่งไม่ได้ใหญ่เป็นเขาวงกตเหมือนซูริก) ผมเดินทั้งแบกทั้งลากกระเป๋าต่อ พอออกจากสถานีรถไฟ ภาพที่เห็นคือ สะพานไม้ชาเปลอยู่ไม่ไกล สารภาพแบบไม่กลัวเสียลุคเลยว่า ผมขนลุกเลยครับ  มันตื่นเต้น และดีใจมาก บอกกับตัวเองตอนนั้นว่า “ลูเซิร์น.....นี่เรามาถึงที่นี่จริงๆ แล้วใช่มั๊ย? เมืองที่เคยเห็นแต่ในภาพ สะพานไม้ชาเปลและหอคอยน้ำ 10 เหลี่ยมที่อยากเห็น มันอยู่ตรงหน้าแล้วใช่มั๊ย?” เดินไป จิตใจนี่อิ่มสุขอย่างที่สุด
หน้าสถานีรถไฟลูเซิร์นครับ



TIP: ในการขึ้นหรือลงรถไฟสวิส ไม่ว่าคุณจะขึ้นหรือลงจากรถไฟ เค้าจะมีปุ่มกลมๆ อยู่ด้านข้างประตู หากจะขึ้น หรือลงให้ "กด" ย้ำว่าต้องกดนะครับ ไม่งั้น มันไม่เปิด ผมก็ยืนเซ่ออยู่นาน ทำไมมันไม่เปิดสักที 5555+
ชื่อสินค้า:   สวิส อิตาลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่