มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ของเรากำลังถูกนักการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ผู้มีอิทธิพล และผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจรังแก จ้องจะงับและยุบรวมมหาวิทยาลัยของเราไปเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยแพร่ โดยไม่มีการมาพูดคุยตกลงกันแม้แต่น้อย
ก่อนอื่น ผมจะขอเล่าประวัติคร่าวๆของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ก่อนนะครับ เมื่อปี พ.ศ. 2538 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินการขยายพื้นที่การศึกษาของมหาวิทยาลัยไปยังภูมิภาค ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2538 โดยให้มหาวิทยาลัย/สถาบัน 10 แห่ง ขยายวิทยาเขตพื้นที่การสอนไปยังภูมิภาคในพื้นที่ 11 จังหวัด คือ จังหวัดหนองคาย พะเยา จันทบุรี แพร่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี สกลนคร กาญจนบุรี ราชบุรี และปราจีนบุรี ในครั้งนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เสนอโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ - แพร่ เพื่อรับผิดชอบภาระหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา โดยการกระจายโอกาสทางการศึกษาไปยังจังหวัดแพร่และจังหวัดใกล้เคียง
มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เป็นสถานศึกษาในสังกัดมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ทราย อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ในปีการศึกษา 2555 มีจำนวนนักศึกษาทั้งสิ้น 1,851 คน และในแต่ละปี มีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นปีละ 100-200 คนทุกปี และยังไม่เคยลดลง
ต่อมาได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ให้เป็น โครงการเฉลิมพระเกียรติ ” ตามหนังสือที่ นร (สส) 1201/65 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2538 จึงเรียกโครงการนี้ว่า โครงการจัดตั้ง “มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ”
เป็นส่วนราชการหนึ่งสังกัดมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในแรกเริ่มการพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้แต่งตั้งผู้บริหารทั้งภาครัฐ เอกชนและบุคคลที่มีชื่อเสียงในจังหวัดแพร่ เป็นคณะกรรมการบริการโครงการจัดตั้ง และระดมสมองในการดำเนินแผนงานแม่บทด้านวิชาการ และได้ว่าจ้างบริษัทเซาท์เทอร์นเอ็นจิเนียร์จำนวนเงิน 2.14 ล้านบาท ศึกษาและวางแผนแม่บททางกายภาพในปี พ.ศ. 2538 และเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจ ทำให้ต้องมีการปรับแผนแม่บทให้มีความสอดคล้องกับนโยบายภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และศักยภาพของมหาวิทยาลัยเองโดยให้มีการพัฒนาเป็นวิทยาเขตขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้เป็นเลิศทางวิชาการและเป็นศูนย์กลางของการแก้ปัญหาในท้องถิ่น เมื่อได้รับการเห็นชอบจากทบวงมหาวิทยาลัย จึงได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นในปี 2542 ในชื่อว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ (Maejo University Phrae Campus)
ปัจจุบันมีสาขาวิชาที่เปิดสอน
สาขาวิชาการบัญชี
สาขาวิชารัฐศาสตร์
สาขาวิชาเกษตรป่าไม้
สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
สาขาวิชาการจัดการชุมชน
สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ
สาขาวิชาพัฒนาการท่องเที่ยว
สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช
สาขาวิชาสัตวศาสตร์
สาขาวิชาการตลาด
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
ต่อไปเป็นมุมมองความคิดเห็นส่วนตัว ผนวกกับข้อเท็จจริงครับ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ (มจ.แพร่) ก่อตั้งมาพร้อมๆกับมหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาเขตพะเยา (มน.พะเยา) แตกต่างกันตรงที่เมื่อครั้งก่อตั้ง มน.พะเยา ได้รับงบประมาณการสนับสนุนจากทางจังหวัดและนักการเมืองท้องถิ่นจนพัฒนาไปได้แบบก้าวกระโดดอย่างมาก แตกต่างกับ มจ.แพร่ ที่ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากตัวจังหวัดหรือส่วนราชการของแพร่เองแม้แต่น้อย หรือแม้แต่นักการเมืองในพื้นที่ก็ไม่เคยมองสนใจ เพราะคิดว่า มจ.แพร่ คงอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็จำใจต้องรับ มจ.แพร่ไว้ในพื้นที่จังหวัดแพร่ แต่ก็เป็นแต่เพียงในนามเท่านั้น ไม่เคยสนใจมาดูดำดูดี
มจ.แพร่ จึงอาศัยงบประมาณจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้เชียงใหม่ ที่ต้องเจียดงบมาให้ปีละน้อยนิดเพื่อมาพัฒนามหาวิทยาลัย และการสนับสนุนของชาวร้องกวาง จนมาเป็นได้ดั่งทุกวันนี้เกือบ 15 ปี มีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง สร้างความเจริญแก่ประชาชนชาว อ.ร้องกวาง เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การคมนาคมอย่างมากมาย มีถนนใหญ่ตัดผ่าน เกิดการกระจายรายได้ กระจายงานแก่พื้นที่ จนปัจจุบัน คาดว่ามีเงินไหลเวียนในพื้นที่ อ.ร้องกวางปีละไม่ต่ำกว่าล้านบาท
เมื่อแม่โจ้แพร่เติบโตมาพร้อมกับภาคประชาชนชาว อ.ร้องกวาง จนเกิดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีความเจริญมากมายจนเป็นที่หมายตาของนักลงทุน ส่วนราชการจังหวัด นักการเมืองท้องถิ่น ที่มองเห็นโอกาสจะได้ตักตวงเอาผลประโยชน์จากที่แห่งนี้ และด้วยหัวเรี่ยวหัวแรงจากนักการเมืองระดับชาติที่ผลักดันจนเกิดเป็นนโยบายที่จะยุบรวมมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดแพร่ เพื่อจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยแพร่ โดยมีการริเริ่มมาได้สองสามปีแล้ว แต่ในช่วงสองสามปีนั้น ทางส่วนราชการแพร่ ไม่มีการเข้ามาพูดคุยกับทางพี่น้องชาวแม่โจ้แพร่ ประชาชนและผู้ประกอบการชาวร้องกวาง หรือไม่มีแม้แต่แผนแม่บท ร่างต่างๆสักฉบับก็ยังไม่เคยเห็น ไม่มีการตกลง หรือรับฟัง ทำประชาพิจารณ์ หรือทำการสำรวจใดๆทั้งสิ้น อยู่ๆก็จะมาบอกว่าจะยุบรวมเอามหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ไปรวมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ วิทยาเขตแพร่ และศูนย์ฝึกอบรมที่ 1 แพร่ (โรงเรียนป่าไม้แพร่เดิม) มารวมกันแล้วจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยแพร่ โดยอ้างเพียงเหตุผลแค่ว่าต้องการพัฒนาการศึกษาและเศรษฐกิจจังหวัดแพร่ โดยเมื่อ 15 ปีก่อน ตนเองไม่เคยสนใจจะดูดำดูดีต่อพี่น้องชาวแม่โจ้แพร่เลยสักนิด
พวกเราชาวแม่โจ้ ไม่ว่าจะอยู่สารทิศไหนก็คือลูกแม่เดียวกัน พวกเรารู้สึกเหมือนถูกรังแก เอารัดเอาเปรียบ และถูกเขามัดมือชกหน้าเอาดื้อๆ ทั้งที่เราต่อสู้ถากถางบุกป่าไพรพื้นที่รกร้างมาเพียงลำพัง แต่อีกฝ่าย กลับจะมาพรากบ้านอันเป็นที่รักของเราที่สร้างพัฒนามาอย่างยากลำบากไปอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่มีการมาพูดคุยกับเราแม้แต่น้อย พวกเราชาวแม่โจ้ ไม่ได้ขอเรียกร้องอะไรมากมาย แค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม และการจะจัดตั้งมหาวิทยาลัยแพร่ จำเป็นต้องมีการพูดคุย การจัดทำแผนแม่บททางด้านการบริหาร งานวิชาการ เพื่อนำมาพูดคุยรับฟังความคิดเห็นกันก่อน และเราต้องรับฟังพี่น้องผู้ประกอบการและประชาชนชาวร้องกวางด้วย ต้องหาแผนรองรับ เราเพียงต้องการแต่ให้เรื่องนี้มันเป็นไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะมาเอาไปดื้อๆ แม้แต่ มน.พะเยา เอง ก็ยังต้องมีการเตรียมการหลายปี อาศัยชื่อ มหาวิทยาลัยนเรศวรมาก่อนกว่าจะแยกตัวออกมาเป็นมหาวิทยาลัยพะเยาที่มีการเรียนการสอนหลายคณะ มีนักศึกษาเป็นหลักหมื่นคนอย่างทุกวันนี้ แต่กลับมหาวิทยาลัยแพร่แล้ว นักศึกษาที่จะเข้ามาเรียนจะมีกี่คน มีแผนการอย่างไร ชื่อเสียงที่สร้างมาจากไหน สร้างแล้วจะมีคนมาเรียนเท่าไหร่ ไม่เคยมีข้อมูลส่วนลึกในเรื่องนี้เลย
หวังเพียงว่าพี่น้องชาวพันธุ์ทิพย์และคนทั่วไป ที่ได้อ่านเรื่องราวนี้จะเข้าใจและเห็นใจเรา ช่วยเราในการร้องเรียนผ่านสายด่วนผู้อำนวยการ เพื่อเราจะนำเสียงของพวกท่าน ไปแสดงให้เขาดูว่า ไม่ได้มีแต่ชาวแม่โจ้เท่านั้น แต่มีคนในสังคมอีกมากมายที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ง่ายแบบนี้ และถ้าจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ช่วยกดโหวตให้กระทู้นี้ได้ขึ้นกระทู้แนะนำด้วยจะขอขอบพระคุณมากครับ สำหรับคนที่เห็นต่าง ผมยินดีรับฟังด้วยเหตุผลเสมอ เราไม่ขัดข้องหากจะมีมหาวิทยาลัยแพร่ แต่การจะยุบรวมเอามหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ทั้งที่มืชื่อว่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้และมีนักศึกษาที่เป็นลูกแม่โจ้ไปรวมด้วย โดยไม่มีการมาพูดคุยกันเลย เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ทำอย่างนี้เราว่ามันไม่แฟร์ ผมก็เป็นแค่ศิษย์เก่าคนหนึ่งที่รักสถาบันแห่งนี้ เพราะเป็นที่อบรมสั่งสอนให้ผมจบออกมามีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมอย่างทุกวันนี้แค่นั้นเองครับ
นานาทัศนะและเอกสารจากมหาวิทยาลัยที่ชี้แจงครับ
ปล.สุดท้ายนี้หากกระทู้นี้มีข้อผิดพลาดประการใด ผมขอรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ
คุณสามารถช่วยเราได้ผ่านการร้องเรียนไปยังสายตรงผู้อำนวยการตามนี้
http://www.phrae.mju.ac.th/system/db_hotline/hotline.asp
เพิ่มเติมข่าวจากเดลินิวส์วันนี้ครับ 25 เมษายน 2556
http://www.dailynews.co.th/education/199600
ลูกแม่โจ้ทุกคน เราคือลูกแม่เดียวกัน แต่ตอนนี้แม่โจ้ กำลังถูกรังแก ช่วยกันบอกต่อด้วย
ก่อนอื่น ผมจะขอเล่าประวัติคร่าวๆของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ก่อนนะครับ เมื่อปี พ.ศ. 2538 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินการขยายพื้นที่การศึกษาของมหาวิทยาลัยไปยังภูมิภาค ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2538 โดยให้มหาวิทยาลัย/สถาบัน 10 แห่ง ขยายวิทยาเขตพื้นที่การสอนไปยังภูมิภาคในพื้นที่ 11 จังหวัด คือ จังหวัดหนองคาย พะเยา จันทบุรี แพร่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี สกลนคร กาญจนบุรี ราชบุรี และปราจีนบุรี ในครั้งนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เสนอโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ - แพร่ เพื่อรับผิดชอบภาระหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา โดยการกระจายโอกาสทางการศึกษาไปยังจังหวัดแพร่และจังหวัดใกล้เคียง
มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เป็นสถานศึกษาในสังกัดมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ทราย อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ในปีการศึกษา 2555 มีจำนวนนักศึกษาทั้งสิ้น 1,851 คน และในแต่ละปี มีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นปีละ 100-200 คนทุกปี และยังไม่เคยลดลง
ต่อมาได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ให้เป็น โครงการเฉลิมพระเกียรติ ” ตามหนังสือที่ นร (สส) 1201/65 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2538 จึงเรียกโครงการนี้ว่า โครงการจัดตั้ง “มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ” เป็นส่วนราชการหนึ่งสังกัดมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในแรกเริ่มการพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้แต่งตั้งผู้บริหารทั้งภาครัฐ เอกชนและบุคคลที่มีชื่อเสียงในจังหวัดแพร่ เป็นคณะกรรมการบริการโครงการจัดตั้ง และระดมสมองในการดำเนินแผนงานแม่บทด้านวิชาการ และได้ว่าจ้างบริษัทเซาท์เทอร์นเอ็นจิเนียร์จำนวนเงิน 2.14 ล้านบาท ศึกษาและวางแผนแม่บททางกายภาพในปี พ.ศ. 2538 และเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจ ทำให้ต้องมีการปรับแผนแม่บทให้มีความสอดคล้องกับนโยบายภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และศักยภาพของมหาวิทยาลัยเองโดยให้มีการพัฒนาเป็นวิทยาเขตขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้เป็นเลิศทางวิชาการและเป็นศูนย์กลางของการแก้ปัญหาในท้องถิ่น เมื่อได้รับการเห็นชอบจากทบวงมหาวิทยาลัย จึงได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นในปี 2542 ในชื่อว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ (Maejo University Phrae Campus)
ปัจจุบันมีสาขาวิชาที่เปิดสอน
สาขาวิชาการบัญชี
สาขาวิชารัฐศาสตร์
สาขาวิชาเกษตรป่าไม้
สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
สาขาวิชาการจัดการชุมชน
สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ
สาขาวิชาพัฒนาการท่องเที่ยว
สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช
สาขาวิชาสัตวศาสตร์
สาขาวิชาการตลาด
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
ต่อไปเป็นมุมมองความคิดเห็นส่วนตัว ผนวกกับข้อเท็จจริงครับ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ (มจ.แพร่) ก่อตั้งมาพร้อมๆกับมหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาเขตพะเยา (มน.พะเยา) แตกต่างกันตรงที่เมื่อครั้งก่อตั้ง มน.พะเยา ได้รับงบประมาณการสนับสนุนจากทางจังหวัดและนักการเมืองท้องถิ่นจนพัฒนาไปได้แบบก้าวกระโดดอย่างมาก แตกต่างกับ มจ.แพร่ ที่ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากตัวจังหวัดหรือส่วนราชการของแพร่เองแม้แต่น้อย หรือแม้แต่นักการเมืองในพื้นที่ก็ไม่เคยมองสนใจ เพราะคิดว่า มจ.แพร่ คงอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็จำใจต้องรับ มจ.แพร่ไว้ในพื้นที่จังหวัดแพร่ แต่ก็เป็นแต่เพียงในนามเท่านั้น ไม่เคยสนใจมาดูดำดูดี
มจ.แพร่ จึงอาศัยงบประมาณจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้เชียงใหม่ ที่ต้องเจียดงบมาให้ปีละน้อยนิดเพื่อมาพัฒนามหาวิทยาลัย และการสนับสนุนของชาวร้องกวาง จนมาเป็นได้ดั่งทุกวันนี้เกือบ 15 ปี มีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง สร้างความเจริญแก่ประชาชนชาว อ.ร้องกวาง เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การคมนาคมอย่างมากมาย มีถนนใหญ่ตัดผ่าน เกิดการกระจายรายได้ กระจายงานแก่พื้นที่ จนปัจจุบัน คาดว่ามีเงินไหลเวียนในพื้นที่ อ.ร้องกวางปีละไม่ต่ำกว่าล้านบาท
เมื่อแม่โจ้แพร่เติบโตมาพร้อมกับภาคประชาชนชาว อ.ร้องกวาง จนเกิดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีความเจริญมากมายจนเป็นที่หมายตาของนักลงทุน ส่วนราชการจังหวัด นักการเมืองท้องถิ่น ที่มองเห็นโอกาสจะได้ตักตวงเอาผลประโยชน์จากที่แห่งนี้ และด้วยหัวเรี่ยวหัวแรงจากนักการเมืองระดับชาติที่ผลักดันจนเกิดเป็นนโยบายที่จะยุบรวมมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดแพร่ เพื่อจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยแพร่ โดยมีการริเริ่มมาได้สองสามปีแล้ว แต่ในช่วงสองสามปีนั้น ทางส่วนราชการแพร่ ไม่มีการเข้ามาพูดคุยกับทางพี่น้องชาวแม่โจ้แพร่ ประชาชนและผู้ประกอบการชาวร้องกวาง หรือไม่มีแม้แต่แผนแม่บท ร่างต่างๆสักฉบับก็ยังไม่เคยเห็น ไม่มีการตกลง หรือรับฟัง ทำประชาพิจารณ์ หรือทำการสำรวจใดๆทั้งสิ้น อยู่ๆก็จะมาบอกว่าจะยุบรวมเอามหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ไปรวมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ วิทยาเขตแพร่ และศูนย์ฝึกอบรมที่ 1 แพร่ (โรงเรียนป่าไม้แพร่เดิม) มารวมกันแล้วจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยแพร่ โดยอ้างเพียงเหตุผลแค่ว่าต้องการพัฒนาการศึกษาและเศรษฐกิจจังหวัดแพร่ โดยเมื่อ 15 ปีก่อน ตนเองไม่เคยสนใจจะดูดำดูดีต่อพี่น้องชาวแม่โจ้แพร่เลยสักนิด
พวกเราชาวแม่โจ้ ไม่ว่าจะอยู่สารทิศไหนก็คือลูกแม่เดียวกัน พวกเรารู้สึกเหมือนถูกรังแก เอารัดเอาเปรียบ และถูกเขามัดมือชกหน้าเอาดื้อๆ ทั้งที่เราต่อสู้ถากถางบุกป่าไพรพื้นที่รกร้างมาเพียงลำพัง แต่อีกฝ่าย กลับจะมาพรากบ้านอันเป็นที่รักของเราที่สร้างพัฒนามาอย่างยากลำบากไปอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่มีการมาพูดคุยกับเราแม้แต่น้อย พวกเราชาวแม่โจ้ ไม่ได้ขอเรียกร้องอะไรมากมาย แค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม และการจะจัดตั้งมหาวิทยาลัยแพร่ จำเป็นต้องมีการพูดคุย การจัดทำแผนแม่บททางด้านการบริหาร งานวิชาการ เพื่อนำมาพูดคุยรับฟังความคิดเห็นกันก่อน และเราต้องรับฟังพี่น้องผู้ประกอบการและประชาชนชาวร้องกวางด้วย ต้องหาแผนรองรับ เราเพียงต้องการแต่ให้เรื่องนี้มันเป็นไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะมาเอาไปดื้อๆ แม้แต่ มน.พะเยา เอง ก็ยังต้องมีการเตรียมการหลายปี อาศัยชื่อ มหาวิทยาลัยนเรศวรมาก่อนกว่าจะแยกตัวออกมาเป็นมหาวิทยาลัยพะเยาที่มีการเรียนการสอนหลายคณะ มีนักศึกษาเป็นหลักหมื่นคนอย่างทุกวันนี้ แต่กลับมหาวิทยาลัยแพร่แล้ว นักศึกษาที่จะเข้ามาเรียนจะมีกี่คน มีแผนการอย่างไร ชื่อเสียงที่สร้างมาจากไหน สร้างแล้วจะมีคนมาเรียนเท่าไหร่ ไม่เคยมีข้อมูลส่วนลึกในเรื่องนี้เลย
หวังเพียงว่าพี่น้องชาวพันธุ์ทิพย์และคนทั่วไป ที่ได้อ่านเรื่องราวนี้จะเข้าใจและเห็นใจเรา ช่วยเราในการร้องเรียนผ่านสายด่วนผู้อำนวยการ เพื่อเราจะนำเสียงของพวกท่าน ไปแสดงให้เขาดูว่า ไม่ได้มีแต่ชาวแม่โจ้เท่านั้น แต่มีคนในสังคมอีกมากมายที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ง่ายแบบนี้ และถ้าจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ช่วยกดโหวตให้กระทู้นี้ได้ขึ้นกระทู้แนะนำด้วยจะขอขอบพระคุณมากครับ สำหรับคนที่เห็นต่าง ผมยินดีรับฟังด้วยเหตุผลเสมอ เราไม่ขัดข้องหากจะมีมหาวิทยาลัยแพร่ แต่การจะยุบรวมเอามหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่ ทั้งที่มืชื่อว่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้และมีนักศึกษาที่เป็นลูกแม่โจ้ไปรวมด้วย โดยไม่มีการมาพูดคุยกันเลย เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ทำอย่างนี้เราว่ามันไม่แฟร์ ผมก็เป็นแค่ศิษย์เก่าคนหนึ่งที่รักสถาบันแห่งนี้ เพราะเป็นที่อบรมสั่งสอนให้ผมจบออกมามีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมอย่างทุกวันนี้แค่นั้นเองครับ
นานาทัศนะและเอกสารจากมหาวิทยาลัยที่ชี้แจงครับ
ปล.สุดท้ายนี้หากกระทู้นี้มีข้อผิดพลาดประการใด ผมขอรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ
คุณสามารถช่วยเราได้ผ่านการร้องเรียนไปยังสายตรงผู้อำนวยการตามนี้
http://www.phrae.mju.ac.th/system/db_hotline/hotline.asp
เพิ่มเติมข่าวจากเดลินิวส์วันนี้ครับ 25 เมษายน 2556
http://www.dailynews.co.th/education/199600