“ตัดสินใจชั่วพริบตาเดียว… เปลี่ยนชะตาทั้งชีวิต” เป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมกับเรื่องราวของหนัง เพราะผลงานของผู้กำกับ
ดีเร็ค เซียนฟรานซ์เรื่องนี้ นำเสนอเรื่องราวชีวิตจาก 3 มุมมอง ที่ทำให้คำว่า
“ความดี” และ
“ความชั่ว” อยู่ใกล้กันเพียงแค่คืบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะแยกแยะคำนิยามของมันได้อย่างชัดเจน คนที่เห็นว่าดี แค่มองเพียงชั่วครู่ อาจไม่ใช่คนดีอย่างที่คิดไว้ ในทางตรงกันข้าม คนที่เห็นชั่วจับใจ ก็ไม่ได้หมายความว่า ความชั่วจะเป็นส่วนประกอบในชีวิตเพียงอย่างเดียว…
ผู้กำกับ
ดีเร็ค เซียนฟรานซ์ กับผลงานกำกับเรื่องที่เท่าไรก็ไม่รู้ แต่
The Place Beyond the Pines เป็นผลงานเรื่องแรกที่ผมได้สัมผัสฝีมือของเขา เรื่องก่อนหน้านี้อย่าง
Blue Valentine ที่เป็นที่เลื่องลือในกลุ่มหนังอินดี้ ผมก็ยังไม่ได้ดู จะว่าไป หนังดีๆทั้งหลายผมไม่ค่อยได้ดูกับเขาหรอก กว่าจะได้ดูก็ถูกเก็บเข้ากรุไปแล้วหลายเรื่อง สำหรับผลงานเรื่องใหม่นี้ ผมรู้สึกนับถือในฝีมือของเซียนฟรานซ์มากทีเดียว เพราะเนื้อหามีการแบ่งเล่าเป็น 3 มุมมอง เสมือนกับว่าดูหนัง 3 เรื่องที่ใช้ตัวละครร่วมกัน กว่าจะรวบรวมเรื่องราวและกลั่นกรองออกมาเป็นหนังเรื่องเดียว คงต้องใช้เวลานานพอดู แถมทำออกมาแล้วยังมีความเข้มข้นต่อเนื่อง ถือว่าเก่งทีเดียวล่ะ แม้ว่าหนังมันจะยาวนาน จนก้นบานๆแทบจะแทงรากลึกทะลุเก้าอี้ไปแล้ว
The Place Beyond the Pines เริ่มต้นเรื่องราวด้วยการเล่าชีวิตตัวละคร ลูค (
ไรอัน กอสลิ่ง) นักขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผน ที่วันหนึ่งมารู้ว่าตัวเองไปมีลูกกับหญิงสาวโรมิน่า (
อีวา เมนเดส) ที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อครั้งอดีต และการได้รับรู้ว่าตัวเองมีลูก ก็ทำให้ลูคตัดสินใจหยุดชีวิตพเนจรของตนเอง และตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาเงินเพื่อลูกและเมีย เริ่มด้วยการไปรับจ๊อบในอู่ซ่อมรถ จนกระทั่งลงเอยด้วยการไปปล้นธนาคาร
การปล้นธนาคารของลูคก็เพียงเพื่อความสุขสบายของลูกและเมีย ทำแค่ครั้งครั้งเดียวก็คงจะไม่เป็นไร แต่ด้วยความที่มีปัญหารุมเร้า และความไม่รู้จักพอที่ก่อตัวขึ้น ก็ทำให้ลูคหลงคิดไปว่าการหาเงินวิธีนี้ดูจะเป็นของที่ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งทำให้หนังเปิดตัวละครตำรวจหนุ่มไฟแรง เอเวอรี่ ครอส (
แบรดลีย์ คูเปอร์) เข้ามาตอนกลางของเรื่อง ซึ่งเมื่อเปิดเผยตัวละครใหม่ขึ้นมาแล้ว ตัวละครหลักก็ถ่ายโอนมาให้เอเวอรี่อย่างเต็มที่ และตัวละครลูคก็กลายเป็นอดีตไป ในส่วนนี้มีเซอร์ไพรซ์เล็กๆ ลองไปหาคำตอบดู
ตอนที่หนังเล่ามุมมองชีวิตของลูค เราก็จะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ซึ่งก็คือลูคกับเจสันในวัยทารก สิ่งที่อยู่นอกเหนือความรัก ความห่วงใย คือการสืบทอดความคิดหรืออุดมการณ์จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง แต่เมื่อเปลี่ยนไปเล่ามุมมองชีวิตของเอเวอรี่ เนื้อหาก็จะมีส่วนผสมของอาชญากรรม การฉ้อโกง หักหลัง และความชั่วที่กระทำโดยบุคคลที่สังคมมองว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ก่อนที่หนังจะเข้าสู่มุมมองสุดท้าย ซึ่งเป็นมุมมองชีวิตของคนในอีกรุ่นหนึ่ง เล่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครรุ่นลูกของลูคกับเอเวอรี่ ที่เติบโตขึ้นมา และพยายามทำความเข้าใจกับทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า
ทั้งสามมุมมองชีวิตนี้ หนังนำเสนอในรูปแบบที่เข้มข้น ด้วยความสามารถของนักแสดงมากฝีมือ
ไรอัน กอสลิ่ง นำเสนอตัวละครที่ดูเสเพล แต่ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบการเลี้ยงดูลูกและเมีย ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันหนึ่ง จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองไป,
อีวา เมนเดส ทิ้งความเซ็กซี่ไว้เบื้องหลัง เรื่องนี้มาพร้อมลุคส์ใหม่ ที่ทำให้คนดูเห็นว่า นี่แหละคือความเป็นแม่,
แบรดลีย์ คูเปอร์ ในบทตำรวจหนุ่มผู้ทะเยอทะยาน แต่ก็ซื่อตรงต่อวิชาชีพ ถึงแม้ว่าเพื่อนร่วมงานหลายคน จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความสกปรกโสมม แต่เขาก็พยายามเอาตัวออกห่างมาโดยตลอด แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ดูจะต่างออกไปจากที่คิดไว้
ตัวละครทุกตัวนำเสนอความจริงในสังคมที่เราหลีกเลี่ยงที่จะรับรู้ไม่ได้ คนดีอย่างลูค หนุ่มที่รักลูกรักเมีย แต่ก็หลงผิดจากความคิดเพียงชั่วครู คนดีอีกคนอย่างเอเวอรี่ ดูจะเป็นชีวิตที่กล้ำกลืนฝืนทน ความดีก็มี ความชั่วก็มี ซึ่งก็ขึ้นกับการเลือกจะยืนอยู่บนพื้นฐานความดี หรือจะใช้ความชั่วเป็นสิ่งนำทาง และคนดีคนสุดท้าย เจสัน ลูกของลูค ที่เติบใหญ่พอจะรู้ผิดชอบชั่วดี แต่ด้วยความรักที่ได้รับจากพ่อในวัยเด็ก ดูจะน้อยนิดเหลือเกิน เจสันจึงเลือกที่จะเดินตามรอยเท้าพ่อ เลือกทางเดินในแบบที่พ่อปูทางไว้ แม้ส่วนหนึ่งในนั้นจะมีความชั่วเจือปนอยู่ด้วย
The Place Beyond the Pines ทำให้คนดูอย่างเราๆได้คิด และพิจารณาตัวตน ว่าเราจะดำเนินชีวิตไปในรูปแบบไหน เราเลือกที่จะให้อนาคตออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งทุกสิ่งก็เป็นผลมาจากอดีต มาจากปัจจุบันของเรา ไม่ว่าจะเลือกเดินไปทางใด ก็จงระลึกไว้เสมอว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเราไปตลอดกาล ดังคำจำกัดความที่กล่าวไว้ในตอนต้น
“ตัดสินใจชั่วพริบตาเดียว… เปลี่ยนชะตาทั้งชีวิต”
7.7/10
Movie Review === The Place Beyond the Pines === ตัดสินใจชั่วพริบตาเดียว เปลี่ยนชะตาทั้งชีวิต
ผู้กำกับดีเร็ค เซียนฟรานซ์ กับผลงานกำกับเรื่องที่เท่าไรก็ไม่รู้ แต่ The Place Beyond the Pines เป็นผลงานเรื่องแรกที่ผมได้สัมผัสฝีมือของเขา เรื่องก่อนหน้านี้อย่าง Blue Valentine ที่เป็นที่เลื่องลือในกลุ่มหนังอินดี้ ผมก็ยังไม่ได้ดู จะว่าไป หนังดีๆทั้งหลายผมไม่ค่อยได้ดูกับเขาหรอก กว่าจะได้ดูก็ถูกเก็บเข้ากรุไปแล้วหลายเรื่อง สำหรับผลงานเรื่องใหม่นี้ ผมรู้สึกนับถือในฝีมือของเซียนฟรานซ์มากทีเดียว เพราะเนื้อหามีการแบ่งเล่าเป็น 3 มุมมอง เสมือนกับว่าดูหนัง 3 เรื่องที่ใช้ตัวละครร่วมกัน กว่าจะรวบรวมเรื่องราวและกลั่นกรองออกมาเป็นหนังเรื่องเดียว คงต้องใช้เวลานานพอดู แถมทำออกมาแล้วยังมีความเข้มข้นต่อเนื่อง ถือว่าเก่งทีเดียวล่ะ แม้ว่าหนังมันจะยาวนาน จนก้นบานๆแทบจะแทงรากลึกทะลุเก้าอี้ไปแล้ว
The Place Beyond the Pines เริ่มต้นเรื่องราวด้วยการเล่าชีวิตตัวละคร ลูค (ไรอัน กอสลิ่ง) นักขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผน ที่วันหนึ่งมารู้ว่าตัวเองไปมีลูกกับหญิงสาวโรมิน่า (อีวา เมนเดส) ที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อครั้งอดีต และการได้รับรู้ว่าตัวเองมีลูก ก็ทำให้ลูคตัดสินใจหยุดชีวิตพเนจรของตนเอง และตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาเงินเพื่อลูกและเมีย เริ่มด้วยการไปรับจ๊อบในอู่ซ่อมรถ จนกระทั่งลงเอยด้วยการไปปล้นธนาคาร
การปล้นธนาคารของลูคก็เพียงเพื่อความสุขสบายของลูกและเมีย ทำแค่ครั้งครั้งเดียวก็คงจะไม่เป็นไร แต่ด้วยความที่มีปัญหารุมเร้า และความไม่รู้จักพอที่ก่อตัวขึ้น ก็ทำให้ลูคหลงคิดไปว่าการหาเงินวิธีนี้ดูจะเป็นของที่ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งทำให้หนังเปิดตัวละครตำรวจหนุ่มไฟแรง เอเวอรี่ ครอส (แบรดลีย์ คูเปอร์) เข้ามาตอนกลางของเรื่อง ซึ่งเมื่อเปิดเผยตัวละครใหม่ขึ้นมาแล้ว ตัวละครหลักก็ถ่ายโอนมาให้เอเวอรี่อย่างเต็มที่ และตัวละครลูคก็กลายเป็นอดีตไป ในส่วนนี้มีเซอร์ไพรซ์เล็กๆ ลองไปหาคำตอบดู
ตอนที่หนังเล่ามุมมองชีวิตของลูค เราก็จะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ซึ่งก็คือลูคกับเจสันในวัยทารก สิ่งที่อยู่นอกเหนือความรัก ความห่วงใย คือการสืบทอดความคิดหรืออุดมการณ์จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง แต่เมื่อเปลี่ยนไปเล่ามุมมองชีวิตของเอเวอรี่ เนื้อหาก็จะมีส่วนผสมของอาชญากรรม การฉ้อโกง หักหลัง และความชั่วที่กระทำโดยบุคคลที่สังคมมองว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ก่อนที่หนังจะเข้าสู่มุมมองสุดท้าย ซึ่งเป็นมุมมองชีวิตของคนในอีกรุ่นหนึ่ง เล่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครรุ่นลูกของลูคกับเอเวอรี่ ที่เติบโตขึ้นมา และพยายามทำความเข้าใจกับทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า
ทั้งสามมุมมองชีวิตนี้ หนังนำเสนอในรูปแบบที่เข้มข้น ด้วยความสามารถของนักแสดงมากฝีมือ ไรอัน กอสลิ่ง นำเสนอตัวละครที่ดูเสเพล แต่ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบการเลี้ยงดูลูกและเมีย ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันหนึ่ง จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองไป, อีวา เมนเดส ทิ้งความเซ็กซี่ไว้เบื้องหลัง เรื่องนี้มาพร้อมลุคส์ใหม่ ที่ทำให้คนดูเห็นว่า นี่แหละคือความเป็นแม่, แบรดลีย์ คูเปอร์ ในบทตำรวจหนุ่มผู้ทะเยอทะยาน แต่ก็ซื่อตรงต่อวิชาชีพ ถึงแม้ว่าเพื่อนร่วมงานหลายคน จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความสกปรกโสมม แต่เขาก็พยายามเอาตัวออกห่างมาโดยตลอด แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ดูจะต่างออกไปจากที่คิดไว้
ตัวละครทุกตัวนำเสนอความจริงในสังคมที่เราหลีกเลี่ยงที่จะรับรู้ไม่ได้ คนดีอย่างลูค หนุ่มที่รักลูกรักเมีย แต่ก็หลงผิดจากความคิดเพียงชั่วครู คนดีอีกคนอย่างเอเวอรี่ ดูจะเป็นชีวิตที่กล้ำกลืนฝืนทน ความดีก็มี ความชั่วก็มี ซึ่งก็ขึ้นกับการเลือกจะยืนอยู่บนพื้นฐานความดี หรือจะใช้ความชั่วเป็นสิ่งนำทาง และคนดีคนสุดท้าย เจสัน ลูกของลูค ที่เติบใหญ่พอจะรู้ผิดชอบชั่วดี แต่ด้วยความรักที่ได้รับจากพ่อในวัยเด็ก ดูจะน้อยนิดเหลือเกิน เจสันจึงเลือกที่จะเดินตามรอยเท้าพ่อ เลือกทางเดินในแบบที่พ่อปูทางไว้ แม้ส่วนหนึ่งในนั้นจะมีความชั่วเจือปนอยู่ด้วย
The Place Beyond the Pines ทำให้คนดูอย่างเราๆได้คิด และพิจารณาตัวตน ว่าเราจะดำเนินชีวิตไปในรูปแบบไหน เราเลือกที่จะให้อนาคตออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งทุกสิ่งก็เป็นผลมาจากอดีต มาจากปัจจุบันของเรา ไม่ว่าจะเลือกเดินไปทางใด ก็จงระลึกไว้เสมอว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเราไปตลอดกาล ดังคำจำกัดความที่กล่าวไว้ในตอนต้น “ตัดสินใจชั่วพริบตาเดียว… เปลี่ยนชะตาทั้งชีวิต”
7.7/10