เรากะสามีอยู่ด้วยกันมาเกือบ 10 ปี (ก่อนหน้าคบกันเป็นแฟนกันมา 10 ปี) พื้นฐานครอบครัวต่างกัน ด้วยความที่พ่อแม่เราเป็นคนจีน มีกิจการเป็นคนตนเองใหญ่โตเค้าก็คงอยากให้เราได้สามีดีๆมีฐานะเหมาะสมหน่อย..แต่อย่างว่า ด้วยความที่เราคบกับสามีเรามาเกือบ 10 ปีแล้ว ผุ้ใหญ่ก็คงต้องปล่อยตามใจให้เราได้แต่งงานกันในที่สุด ... แต่ด้วยพื้นฐานฐานะต่างกัน ก็มีลิ้นกับฟันเป็นช่วงๆ มาหนักสุดก็ตอนมีลูก เพราะภาระหนักอยู่ที่เรา ไม่ว่าจะเป็นเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆเพราะเราได้โอกาสในการทำงานและได้รับเงินเดือนที่สูงกว่าสามี 4 เท่า (โดยประมาณ) เลยทำให้ที่บ้านเราค่อนข้างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ถึงกะทะเลาะกันมากมาย มีเหน็บแนมบ้าง เพราะสามีเราเป็นคนสังคม กลับดึกมันตลอด ลูกเต้าไม่เคยสนใจ..
เรียกว่าเราอยู่ท่ามกลางความกดดันของสามีและที่บ้านมาโดยตลอด.. สามีก็ว่าพ่อแม่เราว่าไม่ดี คิดแต่อยากได้คนรวย..พ่อแม่เราก็ว่าสามีว่าไม่เห็นเลี้ยงลูกต้องปล่อยให้เราเหนื่อยคนเดียว... กว่า 10 ปีที่แต่งกันมา เรามีลูก 2 คน เรารับแรงกดดันและเก็บกดพอสมควร จนวันนึง เรารู้สึกเหนื่อยและหมดแรง กลายเป็นคนเฉยชา ไม่พูด นิ่ง.. ซึมเศร้า.. บวกกับเจองานที่หนักมาก ทำให้ยิ่งเฉยชากะสามี โดยเฉพาะเรื่อง sex
กว่าเดือนที่เราไม่พูดกะสามี เพราะเบื่อและเหนื่อยจากหลายๆอย่าง.. สุดท้าย เลยเป็นโอกาสให้สามีไปหากินของหวานนอกบ้าน.. เรามาจับได้ในวันที่เราตัดสินใจพูดกะเค้าและอยากให้เราสองคนหันหน้าคุยกันอีกที.. แต่เราก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องหนักอึ้งกว่าเก่าด้วยการที่เค้าไปหลอกเด็กสาวมาเป็นเมียเพียงช่วงเวลาไม่ถึงเดือน
สรุปว่ากว่าปี ที่คุยกันมาให้เลิกกะเมียน้อย.. สามีเราไม่เลิก.. เค้าบอกว่าเมียน้อยเป็นคนให้ชีวิตใหม่กะเค้า.. เค้ามีความสุขมาก.. เค้ารักกันมาก
เราเลยตัดสินใจเด็ดขาดในการเลิกกะสามีและให้เค้าไปอยู่กะเมียน้อยเป็นเรื่องเป็นราว..แต่สามีเราก็อิดออดไม่อยากไป ไม่อยากเลิกกะเรา อ้างว่ายังรักเราและลูก..
จนวันนึงเราเด็ดขาดด้วยการโทรไปหาเมียน้อยที่บ้าน พ่อเธอรับสาย เราเลยแสดงตัวว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องและลูกสาวเค้ากำลังเป็นเมียน้อย.. คุยกันซักพัก สรุปเรื่องได้ว่า
1. ที่บ้านผู้หญิงเข้าใจว่าสามีเราโสด ไม่มีลูกเมีย มีกิจการ มีบ้านเป็นของตนเอง (เรียกได้ว่ามีฐานะดี เหมาะจะเลี้ยงดูลูกสาวเค้าได้))
2. สามีเราพาเมียน้อยเข้าบ้านแล้ว และก็ไปแสดงตัวอยากเป็นลูกเขยบ้านเมียน้อยแล้วเหมือนกัน
3. มีการซื้อแหวนหมั้นไว้ก่อน และแสดงตัวกะเพื่อนๆแล้วว่าจะแต่งงานกันเร็วๆนี้
แต่สุดท้าย พ่อผุ้หญิงคนนั้นก็โกรธที่เค้าโดนสามีเราหลอก เค้าบอกเราว่าจะให้ลูกสาวเค้าเลิกกะสามีเราให้ได้ และ สุดท้าย เรื่องมาถึงหูสามีเราและเมียน้อย เราเลยโดนเค้าสองคนรุมด่าว่าเราไประรานชีวิตเค้า ไปทำพ่อแม่เค้าเสียใจ ไปทำให้ความรักเค้าพัง ไปทำลายชีวิตใหม่เค้า...บราบราบรา......
แล้วเรากะสามีก็มีปากเสียงกันรุนแรง จนสุดท้ายสิ่งที่สามีเราบอกคือว่า เค้าทนอยู่กะคนอย่างเราไม่ได้แล้ว เค้าเก็บของออกจากบ้านไปทันที.. มาวันนี้ เรานึกทบทวนทุกวันว่า..." เราผิดเหรอ ที่แสดงตัว เราผิดเหรอที่เราอยากให้ทุกคนรู้ความจริง และยอมรับความจริงกันเสียที ..เราผิดใช่มั้ยที่พยายามพูดให้เค้าเข้าใจว่าสำหรับเราคำว่าครอบครัวสำคัญแค่ไหน.. เราไม่ได้เอาลูกมาอ้าง แต่นั่นคือ คำว่า ครอบครัวไม่ใช่เหรอ..."
..ทุกวันนี้ สามีเราก็กลับมาหาลูกเราบ้าง แต่ไม่คุย ไม่มองหน้าเรา .. เค้าคงโกรธเรามาก.. เราเองก็สบายใจขึ้นเหมือนกันที่เลิกกันได้เพราะเราก็ไม่อยากเป็นคนโง่โดนหลอกทุกวัน.. ที่สำคัญ คนที่จะอยู่ด้วยกัน เค้าต้องจริงใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน.. การที่เค้าเลือกไปอยู่เอง (แต่ได้ข่าวว่าแอบไปอยู่กะเมียน้อยเพราะไปซื้อคอนโดแถวบ้านเมียน้อย) นั่นคือเค้าเห็นแก่ตัวเอง โดยไม่คิดถึงลูกๆที่รักเลย.. ดีแล้วละ ..ที่จบกันได้..
เขียนมาตั้งยาว เพียงแค่อยากระบาย และอยากมีใครซักคนเข้าใจก็เท่านั้น...หรือถ้ามีใครจะว่าว่าเราเป็นพวกระรานจริงๆ เราก็อยากรับฟังนะคะ ..
ขอเล่ายาว...เพื่อระบายปัญหาสามี-ภรรยา-ภรรยาน้อย
เรียกว่าเราอยู่ท่ามกลางความกดดันของสามีและที่บ้านมาโดยตลอด.. สามีก็ว่าพ่อแม่เราว่าไม่ดี คิดแต่อยากได้คนรวย..พ่อแม่เราก็ว่าสามีว่าไม่เห็นเลี้ยงลูกต้องปล่อยให้เราเหนื่อยคนเดียว... กว่า 10 ปีที่แต่งกันมา เรามีลูก 2 คน เรารับแรงกดดันและเก็บกดพอสมควร จนวันนึง เรารู้สึกเหนื่อยและหมดแรง กลายเป็นคนเฉยชา ไม่พูด นิ่ง.. ซึมเศร้า.. บวกกับเจองานที่หนักมาก ทำให้ยิ่งเฉยชากะสามี โดยเฉพาะเรื่อง sex
กว่าเดือนที่เราไม่พูดกะสามี เพราะเบื่อและเหนื่อยจากหลายๆอย่าง.. สุดท้าย เลยเป็นโอกาสให้สามีไปหากินของหวานนอกบ้าน.. เรามาจับได้ในวันที่เราตัดสินใจพูดกะเค้าและอยากให้เราสองคนหันหน้าคุยกันอีกที.. แต่เราก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องหนักอึ้งกว่าเก่าด้วยการที่เค้าไปหลอกเด็กสาวมาเป็นเมียเพียงช่วงเวลาไม่ถึงเดือน
สรุปว่ากว่าปี ที่คุยกันมาให้เลิกกะเมียน้อย.. สามีเราไม่เลิก.. เค้าบอกว่าเมียน้อยเป็นคนให้ชีวิตใหม่กะเค้า.. เค้ามีความสุขมาก.. เค้ารักกันมาก
เราเลยตัดสินใจเด็ดขาดในการเลิกกะสามีและให้เค้าไปอยู่กะเมียน้อยเป็นเรื่องเป็นราว..แต่สามีเราก็อิดออดไม่อยากไป ไม่อยากเลิกกะเรา อ้างว่ายังรักเราและลูก..
จนวันนึงเราเด็ดขาดด้วยการโทรไปหาเมียน้อยที่บ้าน พ่อเธอรับสาย เราเลยแสดงตัวว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องและลูกสาวเค้ากำลังเป็นเมียน้อย.. คุยกันซักพัก สรุปเรื่องได้ว่า
1. ที่บ้านผู้หญิงเข้าใจว่าสามีเราโสด ไม่มีลูกเมีย มีกิจการ มีบ้านเป็นของตนเอง (เรียกได้ว่ามีฐานะดี เหมาะจะเลี้ยงดูลูกสาวเค้าได้))
2. สามีเราพาเมียน้อยเข้าบ้านแล้ว และก็ไปแสดงตัวอยากเป็นลูกเขยบ้านเมียน้อยแล้วเหมือนกัน
3. มีการซื้อแหวนหมั้นไว้ก่อน และแสดงตัวกะเพื่อนๆแล้วว่าจะแต่งงานกันเร็วๆนี้
แต่สุดท้าย พ่อผุ้หญิงคนนั้นก็โกรธที่เค้าโดนสามีเราหลอก เค้าบอกเราว่าจะให้ลูกสาวเค้าเลิกกะสามีเราให้ได้ และ สุดท้าย เรื่องมาถึงหูสามีเราและเมียน้อย เราเลยโดนเค้าสองคนรุมด่าว่าเราไประรานชีวิตเค้า ไปทำพ่อแม่เค้าเสียใจ ไปทำให้ความรักเค้าพัง ไปทำลายชีวิตใหม่เค้า...บราบราบรา......
แล้วเรากะสามีก็มีปากเสียงกันรุนแรง จนสุดท้ายสิ่งที่สามีเราบอกคือว่า เค้าทนอยู่กะคนอย่างเราไม่ได้แล้ว เค้าเก็บของออกจากบ้านไปทันที.. มาวันนี้ เรานึกทบทวนทุกวันว่า..." เราผิดเหรอ ที่แสดงตัว เราผิดเหรอที่เราอยากให้ทุกคนรู้ความจริง และยอมรับความจริงกันเสียที ..เราผิดใช่มั้ยที่พยายามพูดให้เค้าเข้าใจว่าสำหรับเราคำว่าครอบครัวสำคัญแค่ไหน.. เราไม่ได้เอาลูกมาอ้าง แต่นั่นคือ คำว่า ครอบครัวไม่ใช่เหรอ..."
..ทุกวันนี้ สามีเราก็กลับมาหาลูกเราบ้าง แต่ไม่คุย ไม่มองหน้าเรา .. เค้าคงโกรธเรามาก.. เราเองก็สบายใจขึ้นเหมือนกันที่เลิกกันได้เพราะเราก็ไม่อยากเป็นคนโง่โดนหลอกทุกวัน.. ที่สำคัญ คนที่จะอยู่ด้วยกัน เค้าต้องจริงใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน.. การที่เค้าเลือกไปอยู่เอง (แต่ได้ข่าวว่าแอบไปอยู่กะเมียน้อยเพราะไปซื้อคอนโดแถวบ้านเมียน้อย) นั่นคือเค้าเห็นแก่ตัวเอง โดยไม่คิดถึงลูกๆที่รักเลย.. ดีแล้วละ ..ที่จบกันได้..
เขียนมาตั้งยาว เพียงแค่อยากระบาย และอยากมีใครซักคนเข้าใจก็เท่านั้น...หรือถ้ามีใครจะว่าว่าเราเป็นพวกระรานจริงๆ เราก็อยากรับฟังนะคะ ..