Paramore & One Republic





เพิ่งหมดตังค์ไปกับ CD 2 ชุด นี้



Paramore  อัลบั้มชุด Paramore สามารถเปิดตัวที่อันดับ 1 แซง Justin Timberlake อัลบั้ม The 20/20 Experience ด้วยยอดขายต่างกันแค่ 2 แผ่นเท่านั้น เลยนำมาดูรีวิวกัน

1. Fast in my car เพลงแรกของอัลบั้มนี้ เปิดมานี่บีทตื๊ดชวนขยับแข้งมากครับ ลืม Paramore แบบเก่าๆไปได้เลย กีต้าร์เพลงนี้เน้นไปทางสร้างซาวนด์ใหม่ๆซะมากกว่า
2. Now single แรกของอัลบั้มนี้ (ที่นำมาเล่นสดที่บ้านเราเป็นที่แรก กระผมมีโอกาสได้ไปดูมาด้วย) ริธึ่มเด้งๆ กับซาวนด์ดิบๆ กับเนื้อร้องวนไปวนมา เหมือนจะบอกตัวตนของวงที่เป็นอยู่ในตอนนี้
3. Grow up ติดอินดี้นิดๆ ฟังก์หน่อยๆ ท่อนฮุคติดหู กีต้าร์กับเบส เล่นคู่กันไปทั้งเพลงฟังหนึบๆดีครับ
4. Daydreaming ใครอยากฟังSoundเก่าๆมาที่เพลงนี้เลยครับ เพลงนี้ให้โทนเนิบๆ ก่อนจะค่อยไล่น้ำหนักมาถึงท่อนฮุก Daydreamingๆๆ ฟังแล้วรู้สึกให้อารมณ์แบบหนัง Feel good นิดๆ
5. Interlude: Moving on เพลงสั้นๆกับแนวอินดี้ คันทรี่ มีแต่เสียง Ukulele กับ Hayley
6. Aint it fun เพลงลักษณะนี้ในอัลบั้มนี้มีเยอะจริงๆครับ ริธึ่มติดฟังก์มาเลย Jeremy เดินเบสเพลินเลย ฟังง่ายๆ สนุกๆ
7. Part II ตายละอินโทรขึ้น นึกว่าฟังวงอินดี้อยู่ ที่ไหนได้พอถึงฮุกก็ปล่อยออกมาเต็มแบนด์เลยครับ แต่แปลกนะผมฟังเพลงนี้แล้วนึกถึง let the flame begins ขึ้นมาเสียอย่างงั้น อาจเพราะอารมณ์เพลงคล้ายๆกัน
8. Last hope เพลงช้าๆ นิ่มๆ คลอไปกับเสียงเปียโน ตีคอร์ดกีต้าร์เบาๆ ที่ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยนักในงานของพวกเขา ติดอินดี้ป๊อปไปเลยครับเพลงนี้
9. Still into you singleที่สอง เพลงจังหวะสนุกๆ ที่เฮลลีย์ร้องเล่นคำเล่นเสียงได้ดูน่าหยิกดี กีต้าร์เบสกลอง ตอดเล็กตอดน้อยดีครับ เหมาะกับการเป็นซิงเกิล
10. Anklebiters เพลงนี้ซาวนด์ป๊อปพังก์มาเลยครับ ฟังดูสดใสติดหูดี แต่ซาวนด์กีต้าร์ยังมีแอบดิบเล็กๆ
11. Interlude : Holiday อีกหนึ่งอินเทอร์ลูดที่อารมณ์ไม่ต่างจากอันก่อนหน้าเท่าไร
12. Proof อีกแทร็คที่ชวนโดด พาร์ทกลองตีได้ละเอียดดีครับ เอ้าโดดๆกัน (555)
13. Hate to see your heart break เพลงเนื้อหาหวานๆ กับซาวนด์นิ่มๆ คลอด้วยเครื่องสาย (อาจจะชวนหลับ) ถ้าพวกเขาจะเอาดีกับซาวนด์แบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวครับ ฟังเพลินๆดี
14. (One of those) Crazy girls โอ้โฮเฮะ ถึงกับงงครับเพลงนี้ นึกว่าจะมาแนวละตินอะไรเทือกนั้นเสียอีก (กีต้าร์ช่วงแรกให้อารมณ์แบบนั้นมาเลย) แต่ก็กลับเข้าแนวถนัดของวงแบบเนียนๆกันไป
15. Interlude: Im not angry anymore อินเทอร์ลูดอีกแล้วครับ ยังคงซาวนด์แบบเดียวกับสองอินเทอร์ลูด
16. Be Alone เร่งจังหวะขึ้นมาอีกนิด เพลงจังหวะสนุกๆ ติดแนวเก่าๆของวงบ้างนิดหน่อย ฟังโจ๊ะๆ ติดหูดีครับ
17. Future กีต้าร์คลอไปเบาๆกับเสียงร้อง อ้อยอิ่งเนิบนาบไปเรื่อยๆ ก่อนที่พาร์ทกลองจะค่อยๆเข้ามาเพิ่มน้ำหนักให้กับเพลง เล่นกับซาวนด์ดิบๆ โฉ่งฉ่าง ไปเรื่อยจนจบเพลง
เห็นได้ชัดนะครับกับการจากไปของสองพี่น้อง Farro ก็คงต้องบอกลากับ Paramore แบบเก่าๆได้เลย เหตุเพราะอัลบั้มเก่าๆ เพลงก็ถูกคิดขึ้นมาจากสองพี่น้องนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะคนพี่) ส่วนซาวนด์แบบใหม่ๆนั้นก็คงต้องให้เวลาพวกเขาอีกนิดนึงครับ มีแววดูดีอยู่หลายเพลงเหมือนกัน ส่วนมือกลองที่อัดให้ก็คือ Ilan Rubin (ex. Lostprophets) ผมเชียร์ให้แกอยู่กับวงยาวๆเลยครับ ดูมีส่วนร่วมพอควรเลย

One Republic   อัลบั้มที่ดีอัลบั้มหนึ่งสำหรับวง One Republic 5 หนุ่มเจ้าของซิงเกิ้ลสุดฮิตที่ทุกคนรู้จัก Apologize กลับมาพร้อมกับผลงานอัลบั้มล่าสุด สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 3 Native  ที่พวกเขาได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และสรรหาแนวดนตรีแปลกใหม่มาผลิตเป็นผลงานคุณภาพชุดนี้ เป็นป็อบร็อคที่มีความสดใหม่ ผสมกับดนตรีอิเล็คโทรนิค กอสเปล บลูส์ โฟล์ค และเสียงกีต้าร์อะคูสติค เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ล Feel Again ที่นำซาวน์ดนตรีกอสเปลผสมกับเสียงหัวใจของเด็กๆประเทศกัวเตมาลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญสุดสร้างสรรค์ Save The Children

1.    Counting Stars
แทร็คเปิดอัลบั้มค่อนข้างดี เปิดด้วยจังหวะเพลงช้าๆ แต่ไม่ถึงกับช้ามาก พอได้จังหวะเปลี่ยนเป็น Alternative Rock ปุ๊บ ก็ทำออกมาได้อย่างลงตัว แต่เสียงของ Tedder บางช่วงก็ออกมาไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเปิดตัวอัลบั้มได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
2.    If I Lose Myself
เพลงแนว Pop Rock ผสมกับ Dance Pop ในจังหวะ Slow Dance ได้อย่างน่าทึ่ง เป็นแทร็คที่ผมปลื้มมาก ท่อนกลางติดหู ฟังโดยรวมแล้วมันลื่นหูมาก จังหวะก็มันส์ดี แต่มันส์แบบ Pop นะ ตัวเพลงมีจุดสนใจ ถึงลูกเล่นจะไม่มาก แต่มันก็ไม่น่าเบื่อ และสามารถโยกไปกับจังหวะได้ เป็นเพลง Rock เพลงหนึ่งที่ถือว่าน่าประทับใจอย่างยิ่ง
3.    Feel Again
เพลง Pop Rock ที่เน้นเสียงร้องเป็นหลัก ที่ทำออกมาได้ลื่นหู แต่ท่อน Pre-Chorus นั้น ทำออกมายังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร แต่ถ้ามองภาพรวม เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่มีจุดสนใจหลายอย่าง ทั้งการร้องและการประสานเสียงรวมไปถึงทำนอง เพลงออกแนวชิวๆเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นอีกซิงเกิลหนึ่งที่ต้องขอบอกว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ
4.    What You Wanted
ทำนองออกมาในยุค 80 จริงๆ แต่ถ้ามองตัวเพลงจริงๆ เพลงนี้ก็มีดีเหมือนกัน มีลูกเล่นน่าสนใจดี เอาเพลง Rock มาผสมกับเสียง Electronic เล็กๆน้อยๆ เพลงมันก็ออกมาเข้าท่าดี ชอบนะ จังหวะโอเค และดูไม่เยอะจนเกินไป
5.    I Lived
ทำนองขึ้นมาเป็นทำนองแนว Country Rock ที่ผสมความเป็น Rock ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว และผมก็แอบชอบเสียงประสานในเพลงๆนี้มากๆ เพราะสุดๆ แนะนำให้ลองหามาฟังดูนะครับ
6.    Light It Up
จะอะไรก็ช่างนะ! ตัวเพลงออกแนวรำคาญนิดๆ เพลง Rock ผสมกับเสียงที่ตกแต่งโดยเครื่องสังเคราะห์อะไรก็แล้วแต่ แต่เพลงนี้มัน เอิ่ม... ไม่ไหวอ่ะ แทบไม่ได้ยินคนร้องเลย ร้องว่าอะไรอ่ะ ตกแต่งซะเละเลยนะจ๊ะ
7.    Can’t Stop
มาต่อกันด้วยเพลงที่เน้นเสียงกลองและมีเสียงเปียโนคลออยู่ข้างหลัง เพลงแนวชิวๆ ตัวเพลงดนตรีดีไซน์ได้สวยนะ ชอบมาก แต่มันยังไม่สุดอ่ะ ชอบทำนองนะ แต่เสียงร้องของเค้าก็... ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น เพราะถ้ามองโดยรวมแล้วเพลงนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีอยู่น้า
8.    Au Revior
ตอนแรกมองแค่ชื่อเพลงก็นึกว่าสงสัยคงออกมาเละจริงๆ แต่พระเจ้า! เพลงนี้มองภายนอกไม่ได้จริงๆ ต้องมองให้ลึกถึงภายในตัวเพลงเลยล่ะ มันเพราะมาก เพลงออกแนว Ballad ผสมกับเสียงดนตรีเครื่อง String ที่ทำออกมาได้เพราะจับใจจริงๆ เพลงมันลื่นหูมาก ชอบอ่ะ ติดใจจริงๆ
9.    Burning Bridges
เพลง Pop Rock ผสมกับเพลง Dance Pop ได้อย่างลงตัว เป็นแทร็คที่โปรด มันลื่นหู แล้วได้บรรยากาศที่ดีมาก ทำให้นึกถึงสายลมที่กำลังโบกพัดปลิวไปปลิวมา ชอบอ่ะ แต่เพลงนี้ก็ยังคงไม่ทิ้งกลิ่นอายที่มีความเป็น Rock อยู่ในตัว ชอบมากจ้า ^_^
10.    Something I Need
จะบอกว่าท่อนเปิดตัวไม่ค่อยเจ๋งเท่าไหร่ แต่พอท่อนกลางปั๊บ ว้าว! โอเคเกร๋กู๊ดเลยจ้า ชอบนะ เพลง Pop Rock ที่ทำออกมาได้ลื่นหูมากๆ ดีไซน์เพลงได้สวย ฟังได้เพลินๆ
11.    Preacher
เพลง Ballad ผสมกับเครื่องดนตรี String ที่แอบมีกลิ่นอายของความเป็น Pop Rock อยู่ น่าอัศจรรย์มากเพลงๆนี้ เนื้อเพลงสุดแสนจะดี ทำนองก็ลงตัวเป๊ะๆ ต้องปรบมือให้กับเพลงๆนี้จริงๆ เป็นเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้มแล้ว เริศมาก!
12.    Don’t Look Down
...เอิ่ม... ก็เข้าใจอ่ะนะ เป็นเพลงปิดตัว Standard ถึงแม้ว่าเพลงมันจะดูง่อยก็ตาม [/color]แต่ก็เหมาะแล้วที่จะเป็นเพลงปิดตัวอัลบั้ม เสียงร้องประสานทำออกมาได้ดีจริงๆ

Deluxe Edition Bonus Track
13.    Something’s Gotta Give
เพลงเน้นเสียงกลอง เปิดเพลงได้น่าสนใจดี พอเสียงร้องขึ้นเท่านั้นแล้วหล่ะ โอ้ย! จิตตกอ่ะ เอิ่ม มันก็ไม่ได้อะไรมากมาย แต่เพลงมันหลอนหูมากๆอ่ะ แล้วเพลงมันก็เนือยๆ แล้วก็เรื่อยเปื่อยมากๆ ไม่ไหวอ่ะ จุดสนใจไม่ค่อยมีอะไรมากมาย ออกแนวน่าเบื่อมากกว่า
14.    Life in Color
ปิดอัลบั้มได้ดี เพลงแนว Alternative Rock ผสมกับ Pop Rock ฟังแล้วมันกลมกลืนกันมาก และบางท่อนอาจทำให้เราเคลิ้มไปเสียงของพวกเขา ชอบนะ เจ๋งดี ปิดอัลบั้มได้สวยครับ
15.    If I Lose Myself (Acoustic)
เหมือนกับเพลงที่ 2 อ่ะนะ ต่างกันแค่ตรงที่ว่า Version นี้เป็น Version Acoustic ซึ่งผมก็ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้กับฉบับ Original เลยจริงๆ
16.    What You Wanted (Acoustic)
Version Acoustic เพลงนี้ ดีกว่าฉบับ Original นะ มันฟังแล้วลื่นหูกว่า แล้วก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีจริงๆ มีลูกเล่นอะไรต่างๆนาๆ ทำดนตรีออกมาผสมกับเสียงปรบมือได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
17.    Burning Bridges (Acoustic)
ดีทั้ง 2 Version เลยล่ะ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย ฟังแล้วอารมณ์ดีสุดๆ แนะนำๆสำหรับเพลงนี้ ^


ลองหาฟังกันดูน่าจ้า อมยิ้ม36

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่