คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ถ้าคุณกลับไปจดทะเบียนกับสามี
1. ทรัพย์สินที่เป็นของคุณก่อนกลับไปจดทะเบียน ถือเป็นสินส่วนตัวของคุณ
เมื่อคุณเสียชีวิต จะตกเป็นของบุตรและสามีคุณ ตามส่วนเท่าๆกัน เช่น คุณมีลูก 2 คน
ทรัพย์สินจะถูกหารเป็น 3 ส่วน สามีได้ 1 ส่วน ลูก 2 คน ได้คนละส่วน
ถ้าพ่อแม่คุณยังมีชีวิตอยู่ ทรัพย์สินจะถูกหารเป็นของพ่อแม่คุณ สามีคุณ และลูก 2 คน ของคุณเท่าๆกัน = หาร 5 ส่วน
2. ถ้าคุณเสียชีวิต สามีคุณมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของคุณ เนื่องจากเขาเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของคุณ
ถ้าลูกคุณยังเด็ก แน่นอน สามีคุณได้เป็นผู้จัดการมรดกแน่ๆ ถ้าเขาไปร้องขอต่อศาล
ถ้าพ่อแม่คุณยังมีชีวิตอยู่...พ่อแมุ่คุณก็มีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดกเช่นกัน ดังนั้น มีสิทธิไปร้องคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีคุณได้
แต่
ก. คุณต้องมั่นใจว่าพ่อแม่คุณจะมีพลกำลังมากพอไปสู้กับสามีคุณ
ข. ถ้าพ่อแม่คุณเสียชีวิตไปแล้ว (ขอโทษนะคะ จำเป็นต้องสมมุติเพื่อให้เข้าใจ) สามีคุณก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกชัวร์ๆ
ค. ถึงพ่อแม่คุณจะมีพลกำลังมากพอไปคัดค้านการเป็นผู้จัดการมรดกของสามีคุณ แต่ศาลมักจะแต่งตั้งให้พ่อแม่กับสามีเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันมากกว่าที่จะให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้จัดการมรดกคนเดียว เพื่อรักษาประโยชน์ร่วมกัน
ถ้าสามีคุณได้เป็นผู้จัดการมรดกของคุณ...และลูกคุณยังเด็ก
แน่นอน สามีคุณก็สามารถโอน ขาย จำหน่ายทรัพย์มรดกของคุณจนเกลี้ยงได้ แม้แต่ส่วนที่เป็นของลูกคุณและแม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องสัดส่วนการแบ่งมรดกตามกฎหมายก็ตาม เพราะ
1. เขาเป็นผู้จัดการมรดก และ
2.ลูกคุณก็ไม่มีกำลังจะไปร้องคัดค้านต่อศาลว่าพ่อจัดการมรดกไม่ถูกต้อง เพราะยังเด็ก หรือ
3. ถึงพ่อแม่คุณจะไปคัดค้านการจัดการมรดกของสามีคุณ แต่เรื่องก็จะยุ่งยากมาก ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และต้องไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลภายนอก เพราะทรัพย์สินที่ขายให้บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ต้องไปฟ้องร้องบุคคลภายนอกด้วยเพื่อเรียกเอาทรัพย์สินกลับคืนมา กว่าคดีจะจบ 3 ศาล ไหนจะเสียค่าทนาย เหนือยค่ะ
ดังนั้น ความเห็นเราเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
อย่าไปจดเลยค่ะ
1. ทรัพย์สินที่เป็นของคุณก่อนกลับไปจดทะเบียน ถือเป็นสินส่วนตัวของคุณ
เมื่อคุณเสียชีวิต จะตกเป็นของบุตรและสามีคุณ ตามส่วนเท่าๆกัน เช่น คุณมีลูก 2 คน
ทรัพย์สินจะถูกหารเป็น 3 ส่วน สามีได้ 1 ส่วน ลูก 2 คน ได้คนละส่วน
ถ้าพ่อแม่คุณยังมีชีวิตอยู่ ทรัพย์สินจะถูกหารเป็นของพ่อแม่คุณ สามีคุณ และลูก 2 คน ของคุณเท่าๆกัน = หาร 5 ส่วน
2. ถ้าคุณเสียชีวิต สามีคุณมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของคุณ เนื่องจากเขาเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของคุณ
ถ้าลูกคุณยังเด็ก แน่นอน สามีคุณได้เป็นผู้จัดการมรดกแน่ๆ ถ้าเขาไปร้องขอต่อศาล
ถ้าพ่อแม่คุณยังมีชีวิตอยู่...พ่อแมุ่คุณก็มีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดกเช่นกัน ดังนั้น มีสิทธิไปร้องคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีคุณได้
แต่
ก. คุณต้องมั่นใจว่าพ่อแม่คุณจะมีพลกำลังมากพอไปสู้กับสามีคุณ
ข. ถ้าพ่อแม่คุณเสียชีวิตไปแล้ว (ขอโทษนะคะ จำเป็นต้องสมมุติเพื่อให้เข้าใจ) สามีคุณก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกชัวร์ๆ
ค. ถึงพ่อแม่คุณจะมีพลกำลังมากพอไปคัดค้านการเป็นผู้จัดการมรดกของสามีคุณ แต่ศาลมักจะแต่งตั้งให้พ่อแม่กับสามีเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันมากกว่าที่จะให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้จัดการมรดกคนเดียว เพื่อรักษาประโยชน์ร่วมกัน
ถ้าสามีคุณได้เป็นผู้จัดการมรดกของคุณ...และลูกคุณยังเด็ก
แน่นอน สามีคุณก็สามารถโอน ขาย จำหน่ายทรัพย์มรดกของคุณจนเกลี้ยงได้ แม้แต่ส่วนที่เป็นของลูกคุณและแม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องสัดส่วนการแบ่งมรดกตามกฎหมายก็ตาม เพราะ
1. เขาเป็นผู้จัดการมรดก และ
2.ลูกคุณก็ไม่มีกำลังจะไปร้องคัดค้านต่อศาลว่าพ่อจัดการมรดกไม่ถูกต้อง เพราะยังเด็ก หรือ
3. ถึงพ่อแม่คุณจะไปคัดค้านการจัดการมรดกของสามีคุณ แต่เรื่องก็จะยุ่งยากมาก ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และต้องไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลภายนอก เพราะทรัพย์สินที่ขายให้บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ต้องไปฟ้องร้องบุคคลภายนอกด้วยเพื่อเรียกเอาทรัพย์สินกลับคืนมา กว่าคดีจะจบ 3 ศาล ไหนจะเสียค่าทนาย เหนือยค่ะ
ดังนั้น ความเห็นเราเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
อย่าไปจดเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
-:-ช่วยหน่อยค่ะ สามีขี้ขโมย-:- จดทะเบียน-พอเราเสียชีวิต " ทรัพสินจะตกไปที่ลูก หรือสามี เป็นมือแรกค่ะ "
ดิฉัน หย่ากับสามีนานมาแล้วเพราะ เจ้าชู้ขี้ขโมย ที่นี้ ดิฉันเป็นมะเร็ง เลยอยากได้สิทธิเบิกราชการของเขาอยากถามว่า
ถ้าเรากลับไปจดทะเบียน สามีเก่า อีกนิทรัพย์สินที่เป็นของเราตอนนี้ ถ้าเราเสียแล้วจะตกไปอยู่ที่สามีไหมค่ะ หรือว่าเป็นสินส่วนตัวสามีไม่สามารถยุ่งได้ จะตกไปอยู่ที่ลูกเราแทน
คือเรามีบ้าน มีรถ กลัวว่าพอเราเสียแล้วทรัพย์สินจะถูกหาร หรือ ถูกแบ่งไปอยู่กับเขาค่ะ ดิฉันไม่อยากให้เขาต้องทำร้ายลูกไปมากกว่านี้
ขอบคุณค่ะ