ปล. งดพูดถึงคู่กรรม เพราะรู้ๆกันอยู่
ทั้งนี้ จขกท ติดตามดูมานานละ เรียกว่าแนวทางของหนัง มันใช้ดาราดัง หรือที่กำลังเป็นกระแส มาเป็นตัวเรียกคนดูแทบไม่ได้เลย
มาริโอ - เล่นหลายเรื่อง แต่ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จได้มีไม่กี่เรื่อง เท่าที่เห็นพอมีแค่สิ่งเล็กๆ กะพี่มากนี่แหละ (อย่างรักแห่งสยาม ก็ได้แค่กล่อง แต่รายได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง)
ติ๊ก - มี i miss you ที่รายได้ค่อนข้างโอเค แต่บอกว่าถล่มทลายมั้ยก็ไม่ใช่
ชมพู่ - คุณนายโฮ รายได้พอไปได้ (คุณภาพหนังก็อย่างที่เห็นกัน) แต่เชื่อว่าเหตุผลที่คนเลือกดูเรื่องนี้ไม่ใช่ชมพู่
ถ้ายกตัวอย่าง 10 อันดับหนังทำเงินก่อนหน้าพี่มากมาทำลายสถิติ รู้สึกว่ามีแค่ รถไฟฟ้า (เคน) / ต้มยำกุ้ง (จา) / หลวงพี่เท่ง (เท่ง) เท่านั้นที่เข้า
แต่พอมาวิเคราะห์ดูอีกครั้ง
รถไฟฟ้า - แน่นอนว่าเคนเป็นจุดขาย แต่จขกท ให้น้ำหนักที่ trailer ตัวอย่างหนังตัดมาน่าดูมาก พล็อตโดนใจชนชั้นกลาง ทำให้มีการดูซ้ำเกิดขึ้นมากกว่าไปหวังจากเคนคนเดียว (แถมดูกระแสคนพูดถึงเหมยลี่มากกว่าลุงอีก)
ต้มยำกุ้ง - แน่นอนว่าคนไปดูจาพนม แต่คนดูดูที่การแสดงของ จา หรือว่ารอดูการกำกับคิวบู๊
หลสงพี่เท่ง - อันนี้แหละที่เป็นเรื่องที่ จขกท คิดว่า คนมาดูเท่งเพราะหวังตลก ไม่ได้ดูสารตะอื่นๆใดของหนังเลย
พอแสกนดูอย่างเรื่องอื่นๆ 10 อันดับหนังทำเงิน จขกท เลยอุมานว่า คนดูหนังบ้านเรา เน้นที่พล็อต เนื้อหา production ความแปลกใหม่ มากกว่าที่จะไปดูหนังแค่ดูดาราที่ตัวเองชอบ
ถ้าพูดแรงๆก็คือ คิดว่าคนดูหนัง ไม่สนใจดาราที่มาเล่นเลย ขอแค่ความเหมาะสม เนื้อเรื่องสนุก ก้พร้อมที่จะดูซ้ำและบอกต่อมากกว่า โดยไม่ต้องอาศัยความดังของดารามาเป็นตัวเสริม
แต่พอมองกลับมาที่ละคร กลายเป็นว่า จุดสำคัญที่ทำให้ละครดัง หรือเป็น talk of the town กลับกลายเป็น ดารานำแสดง มากกว่าเรื่องของบท หรือ production เรียกว่าขายกันด้วยชื่อเสียงของดาราล้วนๆ
จขกท คิดเอาเองว่า มูลค่าตลาดของละครน้นที่การหารายได้จาก sponsor ซึ่งตัว sponsor ก็ต้อง request เรื่องของกระแสความดังของดารามากกว่าไปเน้นที่องค์ประกอบอื่นๆ หรือ Production ที่ไม่ต้องอลังการมาก บทไม่ต้องเกลาอะไรมากมาย ระยะเวลาถ่ายทำสั้น ก็เลยเน้นการประชาสัมพันธ์ดัวยดารานำเป็นหลัก
ด้วยอะไรทั้งหมดทั้งมวลที่คิดเอาเองเลยพอจะสรุปได้ว่า รสนิยมการเสพสื่อบันเทิงของบ้านเรา พอแยกเป็นการดูหนังในโรงกับละคร คนดูหนังโรงมีรสนิยมดีกว่าได้หรือไม่???
แปลกแต่จริง ทำไมดาราดังที่เป็นกระแสถึงไม่สามารถเชิญชวนให้คนไปดูหนังได้ ในขณะที่ละครที่ต้องใช้ดารานำเป็นแกนเรียกคน
ทั้งนี้ จขกท ติดตามดูมานานละ เรียกว่าแนวทางของหนัง มันใช้ดาราดัง หรือที่กำลังเป็นกระแส มาเป็นตัวเรียกคนดูแทบไม่ได้เลย
มาริโอ - เล่นหลายเรื่อง แต่ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จได้มีไม่กี่เรื่อง เท่าที่เห็นพอมีแค่สิ่งเล็กๆ กะพี่มากนี่แหละ (อย่างรักแห่งสยาม ก็ได้แค่กล่อง แต่รายได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง)
ติ๊ก - มี i miss you ที่รายได้ค่อนข้างโอเค แต่บอกว่าถล่มทลายมั้ยก็ไม่ใช่
ชมพู่ - คุณนายโฮ รายได้พอไปได้ (คุณภาพหนังก็อย่างที่เห็นกัน) แต่เชื่อว่าเหตุผลที่คนเลือกดูเรื่องนี้ไม่ใช่ชมพู่
ถ้ายกตัวอย่าง 10 อันดับหนังทำเงินก่อนหน้าพี่มากมาทำลายสถิติ รู้สึกว่ามีแค่ รถไฟฟ้า (เคน) / ต้มยำกุ้ง (จา) / หลวงพี่เท่ง (เท่ง) เท่านั้นที่เข้า
แต่พอมาวิเคราะห์ดูอีกครั้ง
รถไฟฟ้า - แน่นอนว่าเคนเป็นจุดขาย แต่จขกท ให้น้ำหนักที่ trailer ตัวอย่างหนังตัดมาน่าดูมาก พล็อตโดนใจชนชั้นกลาง ทำให้มีการดูซ้ำเกิดขึ้นมากกว่าไปหวังจากเคนคนเดียว (แถมดูกระแสคนพูดถึงเหมยลี่มากกว่าลุงอีก)
ต้มยำกุ้ง - แน่นอนว่าคนไปดูจาพนม แต่คนดูดูที่การแสดงของ จา หรือว่ารอดูการกำกับคิวบู๊
หลสงพี่เท่ง - อันนี้แหละที่เป็นเรื่องที่ จขกท คิดว่า คนมาดูเท่งเพราะหวังตลก ไม่ได้ดูสารตะอื่นๆใดของหนังเลย
พอแสกนดูอย่างเรื่องอื่นๆ 10 อันดับหนังทำเงิน จขกท เลยอุมานว่า คนดูหนังบ้านเรา เน้นที่พล็อต เนื้อหา production ความแปลกใหม่ มากกว่าที่จะไปดูหนังแค่ดูดาราที่ตัวเองชอบ
ถ้าพูดแรงๆก็คือ คิดว่าคนดูหนัง ไม่สนใจดาราที่มาเล่นเลย ขอแค่ความเหมาะสม เนื้อเรื่องสนุก ก้พร้อมที่จะดูซ้ำและบอกต่อมากกว่า โดยไม่ต้องอาศัยความดังของดารามาเป็นตัวเสริม
แต่พอมองกลับมาที่ละคร กลายเป็นว่า จุดสำคัญที่ทำให้ละครดัง หรือเป็น talk of the town กลับกลายเป็น ดารานำแสดง มากกว่าเรื่องของบท หรือ production เรียกว่าขายกันด้วยชื่อเสียงของดาราล้วนๆ
จขกท คิดเอาเองว่า มูลค่าตลาดของละครน้นที่การหารายได้จาก sponsor ซึ่งตัว sponsor ก็ต้อง request เรื่องของกระแสความดังของดารามากกว่าไปเน้นที่องค์ประกอบอื่นๆ หรือ Production ที่ไม่ต้องอลังการมาก บทไม่ต้องเกลาอะไรมากมาย ระยะเวลาถ่ายทำสั้น ก็เลยเน้นการประชาสัมพันธ์ดัวยดารานำเป็นหลัก
ด้วยอะไรทั้งหมดทั้งมวลที่คิดเอาเองเลยพอจะสรุปได้ว่า รสนิยมการเสพสื่อบันเทิงของบ้านเรา พอแยกเป็นการดูหนังในโรงกับละคร คนดูหนังโรงมีรสนิยมดีกว่าได้หรือไม่???