คือว่าซื้อผ้าอนามัยจาก supermarket ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ตอนซื้อก็เลือกอย่างเดียว คงไม่มีใครไปดมใช่มั้ยล่ะคะ
ทีนี้พอมาถึงบ้านดูถุงพลาสติกที่ใส่ผ้าอนามัยแยกไว้ จังหวะหยิบผ้าอนามัยออกมา
ได้กลิ่นลูกเหม็น ก็เริ่มเอะใจ ที่บ้านไม่ได้ใช้ แล้วกลิ่นมาจากไหน
เลยดมห่มผ้าอยามัย กลิ่นลูกเหม็นเข้าจมูกเต็มๆ TT
สงสัยมีแมลงสาบรึเปล่าหรือระหว่างเก็บ ระหว่างขนส่ง บริษัท/ห้างอาจใส่ไว้
เลยแกะห่อออกมา แล้วหยิบผ้าอนามัยเป็นชิ้นก็ยังได้กลิ่นอยู่ชัดเจน
คือไม่ชอบกลิ่นแบบนี้อ่ะค่ะ ซื้อมาแล้วแกะแล้ว
ถึงไปเปลี่ยนก็คงเป็นล็อตเดิมที่น่าจะมีกลิ่นเหมือนกัน
เลยอยากทราบว่าถ้าแค่ได้กลิ่นแบบนี้เป็นไอระเหยของแนฟทาลีนรึเปล่าและนำผ้าอนามัยมาใช้จะมีอันตรายอะไรมั้ยคะ
นอกจากนี้ google ดูได้ข้อมูลแล้วแอบจิตตก แต่ไม่รู้เราเว่อร์ไปรึเปล่า
เมื่อร่างกายของเราได้รับจากการหายใจ สัมผัสทางผิวหนังโดยตรงผ่านทางเสื้อผ้า หรือผ้าห่มที่มีการสัมผัสกับลูกเหม็น หรือกินเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองตา จมูก คอ และผิวหนัง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน มีเลือดออกทางปัสสาวะ และผิวหนังซีดเหลือง ถ้ามีแนฟทาลีนในปริมาณมาก จะทำให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย เกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย
ก่อนใช้เสื้อผ้าจากตู้ที่มีการใช้ลูกเหม็น ควรนำไปผึ่งแดดหรือผึ่งลมก่อน เพื่อกำจัดกลิ่นและไอระเหยของแนฟทาลีน ที่ตกค้างบนเสื้อผ้าอีกครั้งก่อนสวมใส่
แล้วผ้าอนามัยล่ะ ต้องทำอะไรอย่างไร?
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระวังอันตรายจากลูกเหม็น (ชีวจิต)
เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาเตือนผู้บริโภคที่ใช้แนฟทาลีนหรือที่เราเรียกกันว่า "ลูกเหม็น" ว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เมื่อร่างกายของเราได้รับจากการหายใจ สัมผัสทางผิวหนังโดยตรงผ่านทางเสื้อผ้า หรือผ้าห่มที่มีการสัมผัสกับลูกเหม็น หรือกินเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองตา จมูก คอ และผิวหนัง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน มีเลือดออกทางปัสสาวะ และผิวหนังซีดเหลือง
ถ้ามีแนฟทาลีนในปริมาณมาก จะทำให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย โดยเฉพาะในทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนที่มีภาวะระดับเม็ดเลือดแดงผิดปกติ หรือมีเอนไซม์บางชนิดที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของโลหิตมาแต่เกิด เมื่อได้รับสารแนฟทาลีนจะเกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย
นอกจากนี้ยังพบว่า แนฟทาลีนที่ตกค้างในร่างกายของสตรีมีครรภ์และแม่ที่ให้นมบุตร ยังสามารถผ่านทางรกและทางน้ำนมได้ด้วย ทำให้ลูกที่เกิดมามีภาวะของโรคโลหิตได้ด้วย
ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นจะต้องใช้ลูกเหม็น ในการกำจัดแมลงในตู้เสื้อผ้า หรือช่วยดับกลิ่นในห้องน้ำ เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานและตัวผู้บริโภคเอง ควรเก็บลูกเหม็นหรือก้อนดับกลิ่นให้พ้นมือเด็ก หรือในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการรั่วไหลของไอระเหย ที่จะทำให้สารแนฟทาลีนเข้าสู่อากาศ และก่อนใช้เสื้อผ้าจากตู้ที่มีการใช้ลูกเหม็น ควรนำไปผึ่งแดดหรือผึ่งลมก่อน เพื่อกำจัดกลิ่นและไอระเหยของแนฟทาลีน ที่ตกค้างบนเสื้อผ้าอีกครั้งก่อนสวมใส่
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ลูกเหม็นกับเสื้อผ้าหรือผ้าห่มของเด็ก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากโรคร้าย
หากไม่จำเป็นจริง ๆ ขอแนะนำว่าไม่ควรใช้ลูกเหม็นน่าจะดีกว่าค่ะ เพราะอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวโดยที่เราไม่รู้
http://health.kapook.com/view8372.html
ถ้าผ้าอนามัยมีกลิ่นลูกเหม็นอันตรายมั้ยคะ ใช่ไอระเหยของแนฟทาลีนรึเปล่า
ตอนซื้อก็เลือกอย่างเดียว คงไม่มีใครไปดมใช่มั้ยล่ะคะ
ทีนี้พอมาถึงบ้านดูถุงพลาสติกที่ใส่ผ้าอนามัยแยกไว้ จังหวะหยิบผ้าอนามัยออกมา
ได้กลิ่นลูกเหม็น ก็เริ่มเอะใจ ที่บ้านไม่ได้ใช้ แล้วกลิ่นมาจากไหน
เลยดมห่มผ้าอยามัย กลิ่นลูกเหม็นเข้าจมูกเต็มๆ TT
สงสัยมีแมลงสาบรึเปล่าหรือระหว่างเก็บ ระหว่างขนส่ง บริษัท/ห้างอาจใส่ไว้
เลยแกะห่อออกมา แล้วหยิบผ้าอนามัยเป็นชิ้นก็ยังได้กลิ่นอยู่ชัดเจน
คือไม่ชอบกลิ่นแบบนี้อ่ะค่ะ ซื้อมาแล้วแกะแล้ว
ถึงไปเปลี่ยนก็คงเป็นล็อตเดิมที่น่าจะมีกลิ่นเหมือนกัน
เลยอยากทราบว่าถ้าแค่ได้กลิ่นแบบนี้เป็นไอระเหยของแนฟทาลีนรึเปล่าและนำผ้าอนามัยมาใช้จะมีอันตรายอะไรมั้ยคะ
นอกจากนี้ google ดูได้ข้อมูลแล้วแอบจิตตก แต่ไม่รู้เราเว่อร์ไปรึเปล่า
เมื่อร่างกายของเราได้รับจากการหายใจ สัมผัสทางผิวหนังโดยตรงผ่านทางเสื้อผ้า หรือผ้าห่มที่มีการสัมผัสกับลูกเหม็น หรือกินเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองตา จมูก คอ และผิวหนัง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน มีเลือดออกทางปัสสาวะ และผิวหนังซีดเหลือง ถ้ามีแนฟทาลีนในปริมาณมาก จะทำให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย เกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย
ก่อนใช้เสื้อผ้าจากตู้ที่มีการใช้ลูกเหม็น ควรนำไปผึ่งแดดหรือผึ่งลมก่อน เพื่อกำจัดกลิ่นและไอระเหยของแนฟทาลีน ที่ตกค้างบนเสื้อผ้าอีกครั้งก่อนสวมใส่
แล้วผ้าอนามัยล่ะ ต้องทำอะไรอย่างไร?
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระวังอันตรายจากลูกเหม็น (ชีวจิต)
เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาเตือนผู้บริโภคที่ใช้แนฟทาลีนหรือที่เราเรียกกันว่า "ลูกเหม็น" ว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เมื่อร่างกายของเราได้รับจากการหายใจ สัมผัสทางผิวหนังโดยตรงผ่านทางเสื้อผ้า หรือผ้าห่มที่มีการสัมผัสกับลูกเหม็น หรือกินเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองตา จมูก คอ และผิวหนัง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน มีเลือดออกทางปัสสาวะ และผิวหนังซีดเหลือง
ถ้ามีแนฟทาลีนในปริมาณมาก จะทำให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย โดยเฉพาะในทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนที่มีภาวะระดับเม็ดเลือดแดงผิดปกติ หรือมีเอนไซม์บางชนิดที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของโลหิตมาแต่เกิด เมื่อได้รับสารแนฟทาลีนจะเกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย
นอกจากนี้ยังพบว่า แนฟทาลีนที่ตกค้างในร่างกายของสตรีมีครรภ์และแม่ที่ให้นมบุตร ยังสามารถผ่านทางรกและทางน้ำนมได้ด้วย ทำให้ลูกที่เกิดมามีภาวะของโรคโลหิตได้ด้วย
ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นจะต้องใช้ลูกเหม็น ในการกำจัดแมลงในตู้เสื้อผ้า หรือช่วยดับกลิ่นในห้องน้ำ เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานและตัวผู้บริโภคเอง ควรเก็บลูกเหม็นหรือก้อนดับกลิ่นให้พ้นมือเด็ก หรือในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการรั่วไหลของไอระเหย ที่จะทำให้สารแนฟทาลีนเข้าสู่อากาศ และก่อนใช้เสื้อผ้าจากตู้ที่มีการใช้ลูกเหม็น ควรนำไปผึ่งแดดหรือผึ่งลมก่อน เพื่อกำจัดกลิ่นและไอระเหยของแนฟทาลีน ที่ตกค้างบนเสื้อผ้าอีกครั้งก่อนสวมใส่
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ลูกเหม็นกับเสื้อผ้าหรือผ้าห่มของเด็ก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากโรคร้าย
หากไม่จำเป็นจริง ๆ ขอแนะนำว่าไม่ควรใช้ลูกเหม็นน่าจะดีกว่าค่ะ เพราะอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวโดยที่เราไม่รู้
http://health.kapook.com/view8372.html