เมื่อวานขณะกำลังเดินไปทำงาน ...บังเอิญเหลือบไปเห็นรถบัสกำลังจอดอยู่
มีป้ายโมษณา Amazing Thailand อยู่ด้วยเลยคิดจะกดภาพมาซะหน่อย
เลยหยิบกล้องที่ ...บังเอิญเอามาเพราะปกติมาอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นปีๆ
เพิ่งจะพกกล้องมาทำงานเป็นวันที่สอง พอเอากล้องออกมา
ก็...บังเอิญอีกแล้ว มีคนพิการกำลังขึ้นรถอยู่ด้วย ได้ภาพประทับใจมาแบบ
งงๆ ฟินไปอีกวัน

ปล. ปกติรถเมล์ของญี่ปุ่น ถ้ามีคนพิการขึ้นรถ คนขับจะต้องลงมาดึงแผ่นกระดาน
สำหรับรถเข็น (เป็น Option ของรถบัสที่นี่ ) ออกมา แล้วเข็นรถให้คนพิการขึ้นบนรถบัสด้วย

ยังไงถ้าน้าๆ รู้สึกประทับใจเหมือนผมช่วยกดโหวตกันด้วยนะครับ ได้มีคนเห็นกันเยอะๆ
เผื่อรถเมล์บ้านเราจะได้ปรับปรุงมากยิ่งขึ้น

ปล.ไม่รู้จะแท็กห้องไหนดี เลยแท๊กห้องที่เข้ามาประจำ ถ้าห้องไหนเห็นว่าไม่สมควรแจ้งลบแท๊กได้นะครับ



----------------------------------------------------------------
จากที่ได้อ่านหลายๆ ความคิดเห็น ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่เข้ามาทักทายกันน่ะครับ
อยากจะขอเสริมเรื่องระบบขนส่งในญี่ปุ่นซักหน่อย
จริงๆ ที่ผมประทับใจ ผมประทับใจตรงที่
ที่นี่เค้าไม่ได้ใช้รถอะไรที่ทันสมัยเลยด้วยซ้ำ
รถบัสน่าจะเกือบทั้งหมดของที่นี่ยังเป็นเกียร์ Manual อยู่เลย
ส่วนกระดานที่เห็นคนขับรถก็ต้องลงมาดึงเอง
หรือแม้แต่รถไฟฟ้าของที่นี่ก็ดูเก่ากว่าของบ้านเราเสียอีก (แต่ล้างสะอาดน่ะครับ)
จริงๆ แล้วผมแค่อยากจะสื่อว่า...
เค้าไม่ได้เน้นเทคโนโลยีที่ต้องเลิศหรู แต่สิ่งที่เค้าเน้นมัน Basic มากๆ
เช่น รถบัสถึงแม้จะเป็นเกียร์ Manual แต่คนขับ ขับรถได้นิ่มมากทุกคัน
ไม่มีกระโชก โฮกฮาก ไม่หวาดเสียว แถมยังมีตารางเวลาว่า
แต่ละป้ายจะถึงประมาณตอนไหน
หรือรถไฟฟ้าก็มีตารางเวลาที่แน่นอน ทำให้คนสามารถวางแผนเวลาเดินทางได้ง่าย
หลายๆ คนอาจมองว่า บ้านเราทำไม่ได้หรอกก็รถมันติดซะขนาดนั้น
แต่ผมกลับมองว่า ถ้าเราค่อยๆ ปรับปรุงกันไป
เอาง่ายๆ เริ่มจากตั้งกฏ คนขับรถเมล์ต้องขับให้ไม่หวาดเสียวก่อน
อาจจะ... ซัก 2- 5 ปี คนส่วนหนึ่งน่าจะเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งมวลชนกันระดับนึง
(เพราะน้ำมันก็แพงซะขนาดนั้น ฮาาา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ปล. ผมว่าตอนนี้ที่ใช้รถส่วนตัวกันมาก็เพราะระบบขนส่งเรายังดีไม่พอนี่แหละ
ขับกันหวาดเสียว รอนาน คนเลยหันมาใช้รถส่วนตัวกันมาก แต่คงลืมคิดกันไปว่า
ยิ่งใช้รถส่วนตัวกันมาเท่าไหร่ รถก็จะยิ่งติดมากยิ่งขึ้น ไปทำงานสายมากขึ้น
เจ้านายด่ามากขึ้น หงุดหงิดมาขึ้น เห็นแก่ตัวมากขึ้น (คิดเยอะไปป่าวหว่า 555+)
และสุดท้ายคนในสังคมก็จะเครียดกันมากขึ้น

พอรถน้อยลงแล้วเราก็น่าจะออกตารางเวลาของรถในแต่ละป้าย ที่ชัดเจนได้

มีการรถรงค์ให้คนเห็นแผนการพัฒนาที่ชัดเจน พอคนเริ่มเห็นมากๆ เข้า
คนเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น มันอาจจะสำเร็จก็ได้น่ะ แฮะๆ
หรือถ้าไม่สำเร็จ อย่างน้อยที่สุดอุบัติเหตุจากรถเมล์ก็น่าจะน้อยลงมากทีเดียว
เพราะคนขับ ขับรถดีขึ้น

ไหนๆ ก็เสริมเรื่องระบบขนส่งของญี่ปุ่นมาเยอะแล้ว
ยังไงผมขอเสริมภาพระบบขนส่งของที่นี่เพิ่มเติมหน่อยน่ะครับ
ภาพแรกเป็นรถไฟฟ้าของที่นี่มองจากภายนอกแล้วไม่ได้ดูทันสมัยเลย

ภายในห้องควบคุมยิ่งย้ำความเก่าแต่เก๋า หุหุ

ภายในรถรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่ต้องพื่งเทคโนโลยีก็ทำได้

สุดท้ายเป็นตารางเวลาการเดินรถบัสนะครับ

คนเวลาขึ้นรถจะต่อแถวกันเป็นระเบียบมาก โดยขึ้นจากทางด้านหลัง