[Spoil] Medaka Box - 191

สองตอนสุดท้ายของเรื่องนี้กันแล้ว คราวนี้จบชัวร์ไม่น่าจะโทรลแล้ว(มั้ง) งานนิชิโอะนี่ทำเอามั่นใจเต็มร้อยไม่ได้เลย = ='


เปิดตอน เซ็นคิจิกับคาโมเมะกำลังรีบเพราะสายแล้ว คาโมเมะก็พูดว่าสายจนน่าอายจริงๆทั้งๆที่ทำงานผู้ใหญ่แล้ว เซ็นคิจิบอกเป็นความผิดของคาโมเมะที่ใช้เวลาไปหมดกับการคุยกับลูกค้า แต่คาโมเมะก็เถียงบอกไม่ใช่แต่เป็นเพราะเซ็นคิจิที่เล่นตอบรับซะหมดทุกคำร้องเลยต่างหาก เพราะงี้ถึงต้องมาวิ่งทำเวลาแบบนี้ไง และตอนนั้นพวกเซ็นคิจิก็มาถึงห้องสภานักเรียนพอดีทันเวลาและหวังว่าคงยังไม่เริ่มซะก่อน


แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอฉากพวกผู้หญิงกำลังเปลี่ยนเสื้อกันพอดี คาโมเมะบอกเลยว่าดูเหมือนจะยังไม่เริ่มนะ แต่เซ็นคิจิบอกใครว่าพวกเราจบสิ้นแล้วต่างหาก และนอกจากในพวกผู้หญิงที่กำลังเปลี่ยนเสื้อนั้นก็มีป้ายบอก 10 ปีอันชินอินอยู่ด้วย


และอย่างที่คิดพวกเซ็นคิจิเลยน่วมไป ถึงอาคุเนะอยากจะพูดเลยว่าพวกผู้หญิงต่างหากที่ผิดที่มาเปลี่ยนชุดในห้องจัดงานแบบนี้อยู่เหมือนกันและพูดเลยว่าทั้งสองทำบ้าอะไรถึงได้รับความอบอุ่นจากการกลับมาเจอกันแบบนี้ อาคุเนะยังพูดอีกว่าเพราะกลับมาโรงเรียนเก่าเลยกลับมาทำตัวเป็นเด็กด้วยเหรอไงกัน คิดซะบ้างว่าอายุก็ 26 กันแล้วนะ เซ็นคิจิบอกถึงจะคิดอยู่แล้วแต่จริงๆ 26 มันก็ยังถือว่ายังหนุ่มอยู่นะ คาโมเมะบอกอีกอย่างว่าก็ใช่ทุกคนจะเป็นอย่างอาคุเนะด้วย


ตอนนี้อาคุเนะเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทของเรียน "หัวใจสร้างสรรค์" ในตอนที่จบจากมหาลัยทันที ทำให้ทั้งโลกเต็มไปด้วยสโลแกน "มาสนุกกับการสร้างสรรค์กัน" ตอนนี้อายุ 27 แต่ก็ทำรายได้ได้มากกว่า 1 พันล้านต่อปี แต่ปัญหาคือถึงจะเป็นถึงประธานบริษัทแต่ก็ยังทำของเล่นที่โรงงานด้วยมือตัวเอง อาคุเนะก็บอกด้วยหน้าตายิ้มแย้มว่าเขาแค่ไม่อาจหยุดตัวเองกับการสร้างสรรค์ใหม่ๆเพราะมันสนุกได้เลยนิ และตอนนั้นก็มีคนหนึ่งเข้ามาคุยกับพวกเซ็นคิจิบอกพอเด็กคนนี้โตอีกนิดเธอก็อยากให้ได้เล่นของเล่นของอาคุเนะเหมือนกัน


นั้นคือคิไคจิม่า เธอบอกเพื่อเป็นการชดเชยที่มาเห็นเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อครู่เลยขอให้เซ็นคิจิช่วยอุ้มเด็กหน่อย คิไคจิม่าบอกเธออยากให้เด็กคนนี้โตขึ้นมาแข็งแรงเหมือนเซ็นคิจิ เซ็นคิจิก็ทักทายคิไคจิม่าแต่ก็นึกได้ว่าตอนนี้นามสกุลไม่ใช่คิไคจิม่าแล้ว แต่คิไคจิม่าบอกเรียกเธอคิไคจิม่าดีแล้วเพราะเธอเองก็ใช้ชื่อนี้ในที่ทำงานอยู่ เซ็นคิจิก็บอกเพื่อนเก่าตอนนี้กลายเป็นแม่คนไปซะแล้วทำให้รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินและถามว่าเด็กคนนี้ชื่ออะไร


คิไคจิม่าบอกชื่อ โมงามิ ความหมายคือ "ดีที่สุด" บอกเด็กคนนี้เป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของเธอในโลกนี้ เซ็นคิจิเลยแซวหน่อยบอกคิไคจิม่าเปลี่ยนไปจากที่เคยเอาแต่พูดเรื่องเงินและบอกคงจะเลี้ยงเด็กคนนี้โดยไม่ยอมแพ้ไปซะก่อนสินะ คิไคจิม่าบอกใช่ ถึงเธอจะยังว่ายน้ำเหมือนกับยาคุชิมะกับทาเนะกะชิมะได้ แต่เมื่อให้กำเนิดเด็กคนนี้แล้วก็รุ้สึกได้ชดเชยเต็มที่ หรือควรจะบอกว่าเธอได้รับความปรารถนาจริงๆที่แต่แรกต้องการมีครอบครัวแล้วนั้นเอง พอพูดๆแล้วคาโมเมะก็พูดเสียดายเรื่องของนาเบะชิมะที่หัวเข่าของเธอนั้นเอ็นฉีกในโอลิมปิกรอบสุดท้าย จริงๆน่าจะหยุดแข่งต่อ...


แต่สุดท้ายก็ลุยต่อและชนะมาได้ทั้งๆที่ใช้ขาข้างเดียวจนชนะโอลิมปิกได้สำเร็จ คิไคจิม่าบอกรุ่นพวกเราถือเป็นยุคทองของโรงเรียนฮาโคนิวะ แต่กลับมีเพียงนาเบะชิมะที่ได้เป็นถึงที่สุดในโลก อาคุเนะเองก็บอกหลังจากนั้นนาเบะชิมะก็ถอนตัวไปเป็นครูสอนยูโดเด็กๆในชั้นเรียนเล็กๆ พอพูดกันว่าไม่มีโอกาสจะหายเลยเหรอ แต่ดูเหมือนอากะที่กำลังทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลฮิโคนิวะที่สร้างใหม่บอกยาที่ช่วยฟื้นฟูสภาวะเสื่อมกำลังรุดหน้าซึ่งเซ็นคิจิได้ยินจากแม่ของเขาที่เป็นหัวหน้าคณะกรรมการมาแบบนี้ก็คงหวังได้


ทางจูนิโจก็ไปเป็นบรรณารักษ์ของรัฐสภา เมงุซุโนะไปเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ให้ท๊อปโมเดล อิซุกะกับเมระไปทำร้านอาหารอิตาเลียนที่ชื่อมิตสึโบชิ  คามิมุสึโระไปเป็นนักกายกรรมในคณะละครสัตว์ของอเมริกา แต่ที่เด่นเลยก็คืออุนเซ็นที่ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยทั้งๆที่ยังเรียนอยู่ ตอนนี้ก็ยังรับหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังป้องกันแห่งชาติทั้งๆที่อายุยังแค่ 20 ส่วนคิรุโกะดูเหมือนจะไปนอนแช่แข็งตัวเองด้วยเครื่องจำศีลตั้งแต่เรียนจบเลยจนดูเหมือนกว่าจะตื่นออกมาก็อีกร่วมร้อยหรือพันปีเลย


ตอนนั้นนาเสะก็ออกมาบอกเพื่อจะสร้างอนาคตพวกเราถึงต้องทำงานอย่างหนักและทรมานตลอด 24 ชั่วโมงต่อวันไง เซ็นคิจิก็พูดถามนาเสะว่าตอนนี้กำลังทำงานอะไร นาเสะบอกเธอก็เดินหน้าแผนฟรากซ์ต่อไง แถมยยังมีอีกหลายคนจากห้อง 13 ทำงานนี้ด้วย ทาคาชิโฮธทำงานวิจัย มิยาโคโนะโจและยูคุฮาชิทำงานแผนกการพัฒนาพลังงาน แม้แต่โคกะก็ช่วยทดสอบแผนในฐานะสตั๊นแมน และเมียวริก็เข้าสังคมได้อย่างดีแล้ว ส่วนมากุโร่พี่ของนาเสะก็กลับไปเป็นนักวิเคราะห์ให้กลุ่มคุโรคามิแล้ว แต่นาเสะบอกเธอไม่มีข่าวของมุนากาตะเลย นาเสะเลยหันไปถามวานิซุกะที่เป็นน้องสาวว่าพี่ของวานิซุกะเป็นยังไงบ้างรู้บ้างมั้ย


วานิซุกะบอกพี่เธอยุ่งมากเพราะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลมุนากาตะ และตระกูลมุนากาตะเองก็เป็นผู้ต่อสู้กับปีศาจมาหลายรุ่นแล้ว เซ็นคิจิถึงกับตบมุขเลยว่าที่วานิซุกะมานี้เพื่อจะสร้างเรื่องใหม่อีกเหรอไง คาโมเมก็ถามวานิซุกะต่อว่าแล้วพรรคพวกในกลุ่มอีก 4 คนไปไหนซึ่งคาโมเมะจะเรียกด้วยชื่อวานิซุกะแต่ก็เปลี่ยนกระทันหันเป็นคุณนายอาคุเนะ วานิซุกะบอกทั้งสี่คนนั้นก็ยังสนุกอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้ ไปเป็นนักพัฒนาเกมสมาร์ทโฟนและไปได้ดีด้วย เห็นว่ากำลังจะเริ่มก่อตั้งบริษัทหลังจากที่โนโซมิเรียนจบ วานิซุกะก็บอกคงจะดีถ้าในอนาคตได้มาทำงานร่วมกันกับบริษัทของสามีเธอ(อาคุเนะ)แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ฝันไปก่อน เซ็นคิจิบอกมีฝันก็ดีแล้วไง บอกพนันเลยว่าอันชินอินเองก็ดีใจแน่เพราะอันชินอินดูจะห่วงพวกอาคุเนะที่สุด อาคุเนะบอกตั้ง 10 ปีแล้วที่อันชินอินจากไป แต่เขาก็คิดว่าทุกคนก็ไปถึงจุดหมายได้


แต่ละคนที่รู้จักต่างก็ได้ทำงานที่ตัวเองชื่นชอบ(อย่างเยอะไม่ขอแปลล่ะกัน)จนเอาไปเขียนเป็นสารานุกรมอาชีพเกือบจะได้เลยและต่างก็กำลังยุ่งจนแทบไม่เคยเจอกันเลยจนน่าเสียดาย แต่เซ็นคิจิบอกน่าเสียดายอะไรเขาออกจะดีใจที่ทุกคนได้เดินไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง เป็นอุดมคติของอันชินอินด้วย แต่นาเสะบอกที่พูดๆเนี้ยยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ กว่าครึ่งของชั้นลบ 13 เองก็ยังไม่เจอตัวเลย


ตอนนั้นชิรานุอิกับเอมุคาเอะก็มาคุยด้วยเหมือนกัน ชิรานุอิบอกอย่าทำเสียงแบบนั้นสิ พวกชั้นลบ 13 เป็นพวกไม่เข้าสังคม ที่กลมกลืนกันได้ก็ดีแล้ว เซ็นคิจิเห็นชิรานุอิมาแล้วก็จะทักทายหน่อยแต่ก็แอบคิดเลยว่าทำไมมีชิรานุอิที่ไม่เปลี่ยนไปเลยและคิดขำว่าเพราะผลกระทบจากที่เป็นคู่ของอิอิฮิโกะรึเปล่า คาโมเมะเองรู้มาว่าเอมุคาเอะกำลังทำร้านขายดอกไม้และเห็นว่าบริหารจนร้านค่อนข้างใหญ่ด้วยตัวเองด้วย เอมุคาเอะเองก็บอกคงใช่และให้ดูมือของเธอ


มือของเธอที่โทรมจากที่ต้องคอยดูแลดอกไม้ทุกวัน แต่ถึงจะเป็นแบบนี้แต่เธอก็ชอบ และเพราะอากะเธอก็เลยทำให้ความสามารถย่อยสลายของเธอเกือบจะไม่ทำงานอีกแล้วแต่เธอก็คิดว่าดีแล้ว เซ็นคิจิเองก็คิดเหมือนกันที่ความสามารถของเอมุคาเอะหากำไรได้บ้าง ส่วนชิรานุอิก็รู้กันว่ากลับไปที่หมู่บ้านเพื่อรับตำแหน่งต่อจากโอบิ แต่เซ็นคิจิบอกเลยใครจะคิดว่าจะเล่นเปิดหมู่บ้านจนกลายเป็นที่รู้จักในฐานะหมู่บ้านนินจาไป ชิรานุอิก็ขำบอกมันไม่ใช่ยุคของภารกิจความลับอีกแล้ว ขาวกับดำมันต้องเปิดออกหมดแล้ว


อาคุเนะก็เห็นว่าพวกของชั้นลบ 13 ห่วงไปก็เท่านั้น ขนาดคุมางาวะก็ยังไม่มีใครรู้เลยและเป็นคนที่สันโดษต่างไปด้วย คาโมเมะบอกหลังจากคุมางาวะจบไปแล้วก็ไม่ได้ยินข่าวคราวกันเลยและถามมีข่าวกันบ้างมั้ย แต่บอกฮิโนคาเงะที่ทำงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับโทไรก็พยายามถึงที่สุดแล้วแต่ก็ไม่รู้กระทั้งว่ายังมีชีวิตอยู่รึเปล่าทำเอาคิไคจิม่าซึมไปเล็กน้อย พูดกันไปเยอะแล้วนาเสะบอกแล้วเซ็นคิจิล่ะที่ยังไม่ได้ยินเลยว่าตอนนี้เป็นยังไง หรือบอกไม่ได้ว่าผลลัพธ์มันน่าเศร้าเหรอไง


เซ็นคิจิก็ยิ้มและหยิบบัตรมาโชว์ให้ดูเลย นั้นคือบัตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มคุโรคามิ เซ็นคิจิบอกใช้เวลาถึง 4 ปีหลังจากเข้าทำงานในกลุ่มคุโรคามิก็ได้มาจนได้ ถึงจะหวุดหวิดมาหลายครั้งแต่ในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้ทำงานอยู่กับเธอแล้ว อาคุเนะเลยบอกงั้นเซ็นคิจิก็รีบไปพบเธอไม่ดีกว่าเหรอตอนนี้คงอยู่ในห้องผู้อำนวยการและบอกเธอคงจะดีใจที่ทุกคนมาอยู่ที่นี่แล้วด้วย เซ็นคิจิก็เริ่มตื่นเต้นบอกจริงเหรอเธอจะทะนงตัวจนหมดหวังรึเปล่า


แล้วเซ็นคิจิก็รีบไปเลย อาคุเนะก็พูดเลยว่าช่างน่าอิจฉาที่ยังมีความอบอุ่นของคนหนุ่มจริงๆ อาคุเนะก็ถามคาโมเมะด้วยที่ก็เป็นพวกแปลกเหมือนกัน ครอบครัวก็ไม่มีแล้วแต่ก็ยังเกี่ยวข้องกับคุโรคามิ ถามเลยดีเหรอที่ทำงานร่วมกับเซ็นคิจิ คาโมเมะที่ก็มีบัตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงเหมือนกันและบอกเขาเองก็อยากจะเริ่มจากที่ๆชื่อและจุดเริ่มของเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม และถ้าไม่ได้อยู่กับเซ็นคิจิด้วยคงโดนโกรธทันทีแน่ อาคุเนะก็บอกเลยว่าคนที่เปลี่ยนไปที่สุดก็คาโมเมะเนี้ยแหละแต่คาโมเมะบอกเขาก็เป็นแบบนี้ตลอดเลยนะ ทางเซ็นคิจิก็รีบไปที่ห้องผู้อำนวยการจนมาถึงก็เปิดประตูเข้าไปทันที


เรียกหาเมดากะที่อยู่ในห้องพร้อมกับหมาอย่างเพียบ

คุโรคามิ เมดากะ
กลุ่มคุโรคามิ
หมู่เลือด : AB
อายุ : 26
ตำแหน่ง : ผู้นำกลุ่ม , ผู้อำนวยการโรงเรียนฮาโคนิวะ
ความสามารถพิเศษ : สื่อร่วมกับสัตว์ได้


จบตอน ตอนหน้าอวสานแล้ววววววว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่