สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผมตอบในฐานะที่อยู่ในเยอรมันตกวันตะวันตก บ้านที่ผมอาศัยอยู่ย้ายมาจากฝั่งตะวันออก มี Oma ยังอยู่ในฝั่งตะวันออก
ลักษณะการแบ่งเยอรมันสองฝั่ง เป็นการถูกแบ่งโดยประเทศยักษ์มหาอำนาจสองฝั่ง
คนเยอรมันไม่ได้แตกแยก ไม่เกลียดชังกันเอง ฝั่งตะวันออกรู้สึกเหมือนเป็นเมืองขึ้น
ระยะแรกฝั่งตะวันออกจะพยายามหนีออกมาฝั่งตะวันตก ตามหลัก เสรีภาพ ใครๆก็อยากได้อิสระ
ดังจะเห็นหนังฝรั่งทำเรื่องวีรกรรมหนีจากตะวันออก หลายต่อหลายวิธี ที่โด่งดัง คือ หนังเรื่องที่หนีด้วยบอลลูน ชื่อไร ผมลืมแล้ว
บางคนเก่งมาก ศึกษาระดับสูงของรถสปอร์ท (ดูเหมือนยี่ห้อ MG) ขับหนีออกมาโดยวิ่งลอดไม้กั้นที่ด่านตรวจ ฯลฯ
หลังจากครอบงำคนตะวันออกสัก 1 Generation เหมือนกบที่เกิดและเติบโตในกะลา ก็คือว่า กะลาคือท้องฟ้า
เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง ตะวันตก และ ตะวันออก (เพราะไม่เคยออกนอก กะลา)
ส่วนคนแก่ สว. เริ่มที่อายุ 60 ปี พวกคอมมิวนิสมันถือว่า "ไม่มีประโยชน์" จึงให้สิทธิเ้ดินทางข้ามแดน ตะวันออก ไปตะวันตก เป็นอิสระ
แต่เป็นอิสระแบบ "ทาสที่ปล่อย ไม่ยอมไป" ดังเช่น ทาสในสมัยก่อน พอเลิกทาสก็ไม่มีที่จะไป
Oma ญาติของพ่อบ้านเยอรมันที่ผมอาศัยอยู่ จึงเดินทางมาเยี่ยมพวกเราบ่อยๆ
ลักษณะเด่นของคนที่อยู่ในสังคมนิยมคอมมิวนิส คือ "ขาดความกระตือรือล้น" เดินเหินไม่ฉับไว ค่อยๆเดินช้าๆ ไม่เหมือนคนเยอรมันตะวันตก ที่เดินจ้ำเอาเหมือนไล่ควาย
คนฝั่งคอมมิวนิส เคยชินกับการช่วยตัวเอง อะไรๆ ก็ทำเอง ต่างกับ คนเยอรมันฝั่งตะวัน
เวลาเดินเข้าร้าน ผู้ชายตะวันตกจะคอยเปิดประตูให้ เข้าร้านก็คอยดูแลถอดเสื้อโค๊ทเอาไปแขวนให้
เวลาเดินเข้าโต๊ะอาหาร ผู้ชายจะเลื่อนเก้าอี้ให้ ...เด็กผู้ชายที่อยู่เยอรมันตะวันตก จะเป็นผู้ชายที่น่ารัก เพราะเอาใจใส่ดูแลผู้หญิงอย่างดี
เวลา Oma เดินเข้าโต๊ะอาหาร ผมเข้าไปเลื่อนเก้าอี้ให้ Oma หันมาทำหน้าแปลกใจ ...
เวลา Oma จะเดินเข้า/ออกบ้าน ผมเปิดประตูให้ Oma หันมาทำตาโต ....
เหล่านี้ทำให้รู้ว่า สังคมนิยม กับ สังคมนายทุน ชีวิตผู้คนช่างแตกต่างกันมาก
ดังนั้น พอมีข่าวเยอรมันตะวันออกกับตะวันตกจะรวมกัน
ผมนึกในใจ เศรษฐกิจของเยอรมันจะต้องแย่ลง
ลักษณะการแบ่งเยอรมันสองฝั่ง เป็นการถูกแบ่งโดยประเทศยักษ์มหาอำนาจสองฝั่ง
คนเยอรมันไม่ได้แตกแยก ไม่เกลียดชังกันเอง ฝั่งตะวันออกรู้สึกเหมือนเป็นเมืองขึ้น
ระยะแรกฝั่งตะวันออกจะพยายามหนีออกมาฝั่งตะวันตก ตามหลัก เสรีภาพ ใครๆก็อยากได้อิสระ
ดังจะเห็นหนังฝรั่งทำเรื่องวีรกรรมหนีจากตะวันออก หลายต่อหลายวิธี ที่โด่งดัง คือ หนังเรื่องที่หนีด้วยบอลลูน ชื่อไร ผมลืมแล้ว
บางคนเก่งมาก ศึกษาระดับสูงของรถสปอร์ท (ดูเหมือนยี่ห้อ MG) ขับหนีออกมาโดยวิ่งลอดไม้กั้นที่ด่านตรวจ ฯลฯ
หลังจากครอบงำคนตะวันออกสัก 1 Generation เหมือนกบที่เกิดและเติบโตในกะลา ก็คือว่า กะลาคือท้องฟ้า
เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง ตะวันตก และ ตะวันออก (เพราะไม่เคยออกนอก กะลา)
ส่วนคนแก่ สว. เริ่มที่อายุ 60 ปี พวกคอมมิวนิสมันถือว่า "ไม่มีประโยชน์" จึงให้สิทธิเ้ดินทางข้ามแดน ตะวันออก ไปตะวันตก เป็นอิสระ
แต่เป็นอิสระแบบ "ทาสที่ปล่อย ไม่ยอมไป" ดังเช่น ทาสในสมัยก่อน พอเลิกทาสก็ไม่มีที่จะไป
Oma ญาติของพ่อบ้านเยอรมันที่ผมอาศัยอยู่ จึงเดินทางมาเยี่ยมพวกเราบ่อยๆ
ลักษณะเด่นของคนที่อยู่ในสังคมนิยมคอมมิวนิส คือ "ขาดความกระตือรือล้น" เดินเหินไม่ฉับไว ค่อยๆเดินช้าๆ ไม่เหมือนคนเยอรมันตะวันตก ที่เดินจ้ำเอาเหมือนไล่ควาย
คนฝั่งคอมมิวนิส เคยชินกับการช่วยตัวเอง อะไรๆ ก็ทำเอง ต่างกับ คนเยอรมันฝั่งตะวัน
เวลาเดินเข้าร้าน ผู้ชายตะวันตกจะคอยเปิดประตูให้ เข้าร้านก็คอยดูแลถอดเสื้อโค๊ทเอาไปแขวนให้
เวลาเดินเข้าโต๊ะอาหาร ผู้ชายจะเลื่อนเก้าอี้ให้ ...เด็กผู้ชายที่อยู่เยอรมันตะวันตก จะเป็นผู้ชายที่น่ารัก เพราะเอาใจใส่ดูแลผู้หญิงอย่างดี
เวลา Oma เดินเข้าโต๊ะอาหาร ผมเข้าไปเลื่อนเก้าอี้ให้ Oma หันมาทำหน้าแปลกใจ ...
เวลา Oma จะเดินเข้า/ออกบ้าน ผมเปิดประตูให้ Oma หันมาทำตาโต ....
เหล่านี้ทำให้รู้ว่า สังคมนิยม กับ สังคมนายทุน ชีวิตผู้คนช่างแตกต่างกันมาก
ดังนั้น พอมีข่าวเยอรมันตะวันออกกับตะวันตกจะรวมกัน
ผมนึกในใจ เศรษฐกิจของเยอรมันจะต้องแย่ลง
แสดงความคิดเห็น
สมัยก่อนสองเยอรมันมีปัญหาแบบคาบสมุทรเกาหลีตอนนี้หรือไม่ครับ