จุดนี้ ก็จะขอ update และ share บางประเด็นที่น่าจะเป็นประโยชน์กัน
ขอบคุณกระทู้อื่นๆเกี่ยวกับคิวชู ที่เป็นแรงบันดาลใจและแนวทาง


ข้อมูลพื้นฐาน
- สมาชิกเดินทาง 2 คน
- Japan rail pass North Kyushu: 5 วัน (9000 yens each)
- ความสามารถภาษาญี่ปุ่น: ขี้เล็บโนบิตะ
- ประสปการณ์: backpack ญี่ปุ่นมาแล้วสองครั้ง ในฐานะผู้ตาม

Tag blue planet
Tag จักรยาน: ข้ามไปข้อ 10 ได้เลยค่ะ








1. Airport

สนามบิน Fukuoka เป็นสนามบินในฝัน นั่นคือใกล้เมืองมาก
เดินออกจากประตู International terminal Free shuttle bus to Domestic terminal  (10 min) เดินลง subway kuko line
(Kuko ภาษาญี่ปุ่น ก็แปลว่าสนามบินนั่นเอง)
แล้วจะไป Hakata หรือ Tenjin ก็เลือกเอา (ไม่เกินหกสถานี)





2. Hakata หรือ Tenjin ดี

เป็นสองแหล่งฮิตใน fukuoka
เอาคร่าวๆ เหมือนนอนแถว สยาม พารากอน เซ็นทรัลเวิล์ด (เกือบสิบห้างติดๆกัน) ก็ Tenjin
หรือเหมือนนอนแถว หัวลำโพง เน้นเดินทางต่างเมือง ก็ Hakata (ห้างก็มีแต่ไม่ติดๆกัน)
สุดท้ายไม่ใช่แนว อยากนอนแถวรัชดา สีลม RCA (จะได้นอนไหมนั่น) ก็ Nakatsu Kawabata





3. Toyoko inn

อันนี้คงไม่ต้องพูดมาก รู้จักกันอยู่แล้ว ความสะดวก คุ้มค่า
- จองผ่านหน้าเวป ราคาถูกกว่า booking
- ถ้าสามารถ ห้อง double ควรจองมากกว่า economy double (เตียงใหญ่กว่า ราคาเท่ากัน)
- อยู่สองคืนขึ้นไป ไม่ให้แม่บ้านทำห้อง ลด 300 เยน
- จ่ายก่อนเข้าห้อง สมัครสมาชิกได้ 1500 ตลอดชีพ
- สิทธิสมาชิกคือ พัก10 ฟรี1 (หน่วย=วัน) ห้องพักวันทั่วไป ลด 5% วันอาทิตย์ ลด 20%
- ต้องโชว์บัตรจริง โชว์หน้าจริงทุกครั้งก่อนพัก บัตรหาย เสีย500 เยน(ลองมาแล้ว T_T)
- อันนี้ชอบมาก มีชุดนอนให้เปลี่ยนทุกคืน ไม่ต้องเอาชุดนอนไปนะ

หน้าตาอาหารเช้า






4. JR rail pass North Kyushu

ราคาหน้าเวปญี่ปุ่น 3days – 7000 yens, 5 days – 9000 yens ถ้าไปแล้วไม่ได้ใช้เอากลับมา refund เสีย 10% ของราคาตั๋ว
ราคาหน้าบริษัทไทย เปลี่ยนตามค่าเงิน เราซื้อที่บ.ทัวร์เก่าแก่แห่งหนึ่ง ขอบอกว่าประทัปใจมาก
(มีใครอยากจะลองทายชื่อบริษัทไหม คำใบ้ : ธนิยะ คุณลุง ขนมช้างไทย)




การเปิดใช้งาน
สถานที่เปิดใช้งานใหญ่ๆ ก็จะเป็นที่ hakata เป็นที่ๆรวม subway, JR, shinkansen, bus center
โดยถ้าเราหันหน้าเข้า station จะอยู่ขวามือ มีเครื่องหมาย JR ใหญ่มาก
ณ ที่แห่งนี้ เราทำอะไรได้บ้าง
1. เปิด>>ใช้บริการ JR rail pass
2. จอง>> ที่นั่งล่วงหน้า (Shinkansen, Yufuin no mori เป็นต้น ซึ่งสามารถจองได้ที่สถานีอื่นเช่นกัน)
3. ถาม>> ขณะยืนต่อแถว ด้านซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ที่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติถาม
โดยเฉพาะ ภาษาอังกฤษเทพมาก มีอะไรให้ถามตรงนี้ได้เลย






5. Kumamoto

เมืองสุดฺฮิตนี้ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมจะแนะนำ นอกเสียจาก
ปลาร้านนี้!!!



อร่อยมากมาย ไม่น่าเชื่อว่า เป็นร้านธรรมดาบน JR station ชั้นสองนี้เอง
แต่คนเต็มร้าน สามารถการันตีความอร่อยได้
คิดเป็นเงินไทยก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ไข่ปลาร้อยกว่าบาท ปลาดิบสีร้อยบาท แต่มัน สดมากกก



Hyperdia

ทริปนี้ทำให้รู้ว่า Hyperdia อย่างเดียว ไม่พอ T_T
หลังจากนอนที่ Kumamoto แล้วจะเดินทางไป Beppu
ถ้าใช้ Hyperdia ก็จะเห็นว่า แนะนำให้ไปทาง Kumamoto  Kokura Beppu
แต่ ถ้าอ่าน condition ดีๆ จะพบว่า JR north Kyushu ไม่สามารถใช้เส้นทางที่ไป Kokura ได้
ถึงแม้ว่า มันจะเป็นสถานีที่ใหญ่ เป็นจุดเปลี่ยนรถมากมายก็ตาม T_T
ดังนั้น สิ่งที่นายตรวจตั๋วทางออกบอกเราก็คือ
“You go back to Hakata!” (ด้วยสำเนียงอังกฤษสุดจะชัด ราวกับพูดมาแล้วเป็นร้อยๆครั้ง) T_T
(ก็เลยแค้นใจ ไปsearch มาพบว่า เส้นไป Kokura นั้นเค้าว่าถูก operate โดยบริษัท Sanyo)






6. Beppu

เมืองที่เจอคนไทยเยอะที่สุด collection บ่อน้ำพุนรกแปดบ่อ
สุดยอดของประชาสัมพันธ์ในฝัน อยู่ที่แห่งนี้ information center of Beppu (at JR station)
ขอให้หาคุณป้า อายุประมาณห้าสิบ ใส่แว่น ยิ้มเก่ง
บอกเธอว่ามีเวลาอยู่เท่าไร -  เธอจะจัดทริปให้คุณ
บอกว่าอยากดูแปดบ่อ – เธอมีคูปองลดให้
บอกว่าอยากดูไม่ถึงแปดบ่อ – เธอจะ hi-light อันที่เป็น the must มาให้
พร้อมกับแนบตาราง bus ที่มีทั้งภาษาอังกฤษและ kanji มาให้ด้วย
ก่อนออกจาก center เธอยังกวักมือเรียกให้กลับไปวงที่กินข้าวให้ด้วย ^^    






7. Yufuin

สิ่งที่เราประทัปใจเกี่ยวกับ Yufuin นั้นไม่ใช่ตัวเมือง
แต่เป็น Yufuin no mori (ป่าของเมือง yufuin) - รถไฟ classic collection สุดฮิต
การจอง ทำให้พวกเราได้นั่งที่หน้าสุด panoramic view  
เราไปมาสามเกาะ รู้สึกว่า ถ้าชอบชนบ๊ท ชนบท ที่ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น
คิวชูตอบโจทย์คุณมากที่สุด



เป็นครั้งแรก
ที่ได้เห็นว่าคนขับนั้น นอกจากจะมีหน้าที่ขับรถไฟแล้ว
ยังอีกหน้าที่หลักคือ คอยโบกมือตอบเด็กตัวน้อยๆ ที่โบกมือให้ข้างทาง เวลารถไฟวิ่งผ่าน
วิวสวย อากาศดี มีดอกไม้ข้างทาง เด็กๆวิ่งโบกมือตามรถไฟ นี่ชั้นอยู่ใน Studio Ghibi ชัดๆ!!!



สิ่งที่สองที่ค้นพบ คือ คนขับจะเอามือชี้โบ้ชี้เบ้ ปากขมุบขมิบตลอดเวลา (ทั้งๆที่นั่งขับคนเดียว)
ตอนแรกก็คิดว่า เค้าเห็นวิวสวย เลยชี้ให้พวกเราดู - -“ (บ้าไปนั่น)
แต่ตอนหลังก็ถึงบางอ้อว่า นี่แหละ คือวิธีที่ทำให้รถไฟญี่ปุ่นนั้น ตรงเวลาสุดๆ
เนื่องจากเวลาที่เค้าขับรถไฟไป จะหันไปดู(และชี้) เสาสัญลักษณ์ที่เค้าวิ่งผ่านไป



แล้วหันกลับมาชี้และทบทวนกับตารางเวลาที่อยู่ด้านซ้ายมือ ว่าเป๊ะหรือไม่!!!!
ทำอย่างนี้ เกือบสิบครัั้งต่อชั่วโมง


Hasuwa
บ้านพักฮิตเป็นอันดับต้นๆของคนไทย อันนี้ขอให้ข้อมูลเพิ่มละกัน
- คุณป้า madoka พูดอังกฤษชัดมาก ไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร
- จองผ่านเวปป้า ราคาดี มีอาหารแถม มากกว่า booking agoda (เวปให้ search for “hasuwa inn madoka” แล้วเลือกอันที่สอง)
- แต่คนที่อยากได้บรรยากาศเมืองจริงๆ ต้องคิดนิดนึง เพราะบ้านพัก ตั้งอยู่ที่ชุมชน (เหมือนเรามีบ้านเพื่อน บ้านอาม่า บ้านอาเฮีย และก็เป็นโรงแรมเรา)
ห่างกับ แถวทะเลสาบ ถนนที่มีร้านสวยๆ ชิคๆ หรือเชิงเขา ที่สวยงาม และคนนิยมกัน
- ถ้าอยากจะขี่จักรยานไป ก็ประมาณ 10 - 15 นาที แต่จักรยานมีสี่คัน มีไฟบ้างไม่มีบ้าง คนพักมีสิบคน
- ห้องพักเก่า(ทีเดียว) ฝุ่นค่อนข้างมาก (ภูมิแพ้กำเริบได้)
- อาหารอร่อยทีเดียว    
………………………..อืม sandwish technique - -‘






8. Takachiho และ โซเมง

ขอบคุณกระทู้เก่าๆของคุณ deal ที่ทำไว้ดีมาก
http://topicstock.ppantip.com/blueplanet/topicstock/2011/03/E10398244/E10398244.html
    
ได้กินปลาท้องถื่น (ปลาYamane) และกิน โซเมน – น่าจะลูกผสมระหว่างโซบะ กะ ราเมน
โซเมนที่นี่ ขอตั้งชื่อว่า โซเมน ซามูไร
เพราะต้องไวมาก เค้าจะปล่อยออกมาทีละคำ แล้วร่อนมาทางน้ำไหลเชี่ยวในทางกระบอกไม้ไผ่ลำนี้



แล้วเวลาปล่อย คุณป้าไม่เคยแจ้งก่อน ตาต้องไว มือต้องแม่น จกให้ทัน จิ้มน้ำจิ้ม(อร่อยมาก) แล้วก็เอาเข้าปาก
(ระหว่างที่เคี้ยว ห้ามละสายตาจากสายน้ำเด็ดขาด เพราะคำที่สอง อยู่ที่สถานีสนามเป้าแล้ว T T)
สาวยุ่นตั้งครรภ์ที่นั่งตรงข้ามเราถึงกับพูดว่า “ Musukashii desu ne….. “ – ยากฉิป...



แต่เค้าก็ไม่ได้โหดขนาดนั้น ปลายน้ำมีตะกร้าใบจิ๋ว
ที่คอยใส่โซเมนที่รอดพ้นเงื้อมือซามูไร ไปได้ (แต่ไม่พ้นปาก)
เอากลับมาให้เรารัปประทานต่อ






คุณจะไป Takachiho ดีไหม?
- ไปลำบาก ไม่อยู่ใน JR north Kyushu เพราะเป็นส่วนบนของ Miyasaki
ซึ่งเป็นจังหวัดแถบใต้ ต้องจ่ายเพิ่ม เวลาที่ต้องใช้ ก็ตามนี้



- ไปถึงแล้ว ก็ไม่ได้สะดวกอย่างที่เคย
จาก bus center ไปกลับน้ำตก ไม่มี bus ถ้าจะเดิน ก็มีช่วง 300 m (ขอยืมรูปจากคุณ deal)
ที่ชันมาก และเสี่ยงมาก (รถวิ่งสวนยังเบียดกันจะแย่ เราไปเดินแชร์เลนก็เสียวมากๆ) ไม่งั้นรักสบายก็ต้องนั่งแทกซี่



- เที่ยวแล้วจะกลับ ก็ลำบากอยู่ดี
ถ้าจะกลับ Hakata มีบัสสะดวกสุด 3 ชั่วโมง จำเป็นต้องจองและหมดเร็วมาก
เราไปเที่ยง จองไม่ได้ งานนี้เลยนั่งไป คุมาโมโต้ แล้วต่อ shinkansen ให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นแทน
(ส่วนนี้ ไม่มีความรู้ว่าจองจากที่อื่นได้หรือไม่)
แต่เราก็ยอมกัน เพื่อสิ่งนี้



- สุดท้าย ตอนพายเรือ ถึงรู้ว่า ไอ้ที่เค้ารีวิวว่ามันพายยากน่ะ มันขนาดไหน
ไปสองคนอาจจะฮาเฮด่ากันได้ แต่ถ้าฉายเดี่ยวคงเหนื่อยมาก ไม่รู้จะสนุกไหม
เป็ดกลุ่มนี้ก็สุดยอด ว่ายชิลล์ในขณะที่มีเรือสิบห้าลำพายชนกันเอง - -“
แต่ มันเป็นที่ๆเราชอบที่สุดในทริปนี้ เลยทีเดียว ด้วยเหตุผลข้างบนทั้งหมด ทั้งสิ้น




    

9. Yatai

หรือรถเข็นขายอาหารกลางดึก ทีกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Fukuoka ไปแล้ว
มีมากสุดแถวๆ Nakatsu Kawabata (ก็เนอะ กิจกรรมตอนดึกแถวนั้นเยอะ)
ร้านนึงๆ อาจจะขายมากกว่าหนึ่งอย่างได้ ประกอปด้วย โอเด้ง (ต้มร้อน) ยากิโทริ (ปิ้งย่าง)
เสต๊ค ราเมง และเหล้า(อันนี้ทุกร้าน)
(ร้านไหนขายอะไร จะเขียนบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นไว้ ต้องอาศัยความรู้นิดหน่อย
หรือไม่งั้น ก็ยื่นหน้าเข้าไปดูเลย)    
จะได้บรรยากาศหนุ่มญี่ปุ่นทำงานเหนื่อยๆแล้วมาเมากันในซี่รี่ส์
ร้านนี้ อยู่ในย่าน Tenjin



โอเด้งสั่งง่าย อยากกินอะไรก็ชี้ในหม้อ (ที่อร่อยคือ ไดโกะ – หัวไชเท้า, และ โทฟู – เต้าหู้)
ยากิโทริ ก็ชี้ได้ แต่ถ้าไปอยู่หน้าคนอื่น ก็ชี้ลำบากนิดนึง
ศัพท์ง่ายๆ ลีเบอร์ – มาจาก liver = ตับ, ชินโซ่ว – หัวใจ, ทามาโกะ – ไข่, ชิกูวะ - ที่แมวของนินจาฮาโตริ ชอบกิน
เบคอน หรือ ชิคเก้น เค้าก็เข้าใจ
อยู่ fukuoka สามวัน ไปกินมาสองที มีคนมาคุยตลอด เจ้าของร้าน เด็กวัยรุ่น ครอบครัว หนุ่มออฟฟิตกะลังเมากึ่มๆ