"ชูวิทย์"ขอโทษผู้ต้องสงสัยปล้นลูกชายหลังตบผิดตัว
จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้พาตัว นายต่อตระกูล กมลวิศิษฐ์ อายุ 17 ปี บุตรชายคนเล็ก เข้าพบ พ.ต.ท.สุภัทร ทองส้ม พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ดินแดง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีที่ นายต่อตระกูล ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น จำนวน 6 คน ทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธมีดปล้นเอาทรัพย์สินไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่บริเวณซอยรัชดาภิเษก 3 แขวงและเขตดินแดง ซึ่งต่อมามีรายงานข่าวว่า ทางชุดสืบสวน สน.ดินแดง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 20.30 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้เดินทางมายัง สน.ดินแดง เพื่อแถลงต่อหน้าสื่อมวลชน หลังเข้าใจผิด ก่อเหตุตบหน้า นายฤทธิชัย ทับดิษฐ์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีอาวุธมีดปล้นทรัพย์ลูกชาย โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อช่วงบ่ายหลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจึงเข้ามาดูตัว แล้วใช้มือตบไปที่ใบหน้าของ นายฤทธิชัย เพราะด้วยความที่เป็นพ่อคน เมื่อลูกชายเจอกับเหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้อาวุธมีดมาจี้ชิงทรัพย์ก็แค้นเป็นธรรมดา ยอมรับว่าโมโหเลยบันดาลโทสะด้วยการตบหน้า นายฤทธิชัย จริง และเมื่อทราบว่า นายฤทธิชัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวตนจึงเดินทางมาขอโทษ นายฤทธิชัย และครอบครัว.
บ่อยครั้งที่นายชูวิทย์ พูดหรือทำแล้วไม่คิด กรณีนี้ จวนตัวจึงต้องออกมาขอโทษ
การเป็นสส. มีเอกสิทธิ ในขณะประชุมสภา นายชูวิทย์ แค่ขอโทษจะน้อยเกินไปหรือไม่
อย่างน้อยน่าจะมีเงินปลอบขวัญ แต่ชาวบ้านยอมรับผิดขอโทษก็มักจะไม่ติดใจเอาความ
เป็นสส. แล้วทำตัวขี้โมโห โกรธง่ายไม่มีสติ แล้วต่อไปจะว่าคนอื่นได้อย่างไร
"ชูวิทย์"ขอโทษผู้ต้องสงสัยปล้นลูกชายหลังตบผิดตัว แค่ขอโทษพอแล้วหรือ
จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้พาตัว นายต่อตระกูล กมลวิศิษฐ์ อายุ 17 ปี บุตรชายคนเล็ก เข้าพบ พ.ต.ท.สุภัทร ทองส้ม พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ดินแดง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีที่ นายต่อตระกูล ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น จำนวน 6 คน ทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธมีดปล้นเอาทรัพย์สินไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่บริเวณซอยรัชดาภิเษก 3 แขวงและเขตดินแดง ซึ่งต่อมามีรายงานข่าวว่า ทางชุดสืบสวน สน.ดินแดง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 20.30 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้เดินทางมายัง สน.ดินแดง เพื่อแถลงต่อหน้าสื่อมวลชน หลังเข้าใจผิด ก่อเหตุตบหน้า นายฤทธิชัย ทับดิษฐ์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีอาวุธมีดปล้นทรัพย์ลูกชาย โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อช่วงบ่ายหลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจึงเข้ามาดูตัว แล้วใช้มือตบไปที่ใบหน้าของ นายฤทธิชัย เพราะด้วยความที่เป็นพ่อคน เมื่อลูกชายเจอกับเหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้อาวุธมีดมาจี้ชิงทรัพย์ก็แค้นเป็นธรรมดา ยอมรับว่าโมโหเลยบันดาลโทสะด้วยการตบหน้า นายฤทธิชัย จริง และเมื่อทราบว่า นายฤทธิชัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวตนจึงเดินทางมาขอโทษ นายฤทธิชัย และครอบครัว.
บ่อยครั้งที่นายชูวิทย์ พูดหรือทำแล้วไม่คิด กรณีนี้ จวนตัวจึงต้องออกมาขอโทษ
การเป็นสส. มีเอกสิทธิ ในขณะประชุมสภา นายชูวิทย์ แค่ขอโทษจะน้อยเกินไปหรือไม่
อย่างน้อยน่าจะมีเงินปลอบขวัญ แต่ชาวบ้านยอมรับผิดขอโทษก็มักจะไม่ติดใจเอาความ
เป็นสส. แล้วทำตัวขี้โมโห โกรธง่ายไม่มีสติ แล้วต่อไปจะว่าคนอื่นได้อย่างไร