เกรียนฟิคชั่น นี่คือหนังไทยที่สมควรกับคำว่า หนังดีมากๆ อีกเรื่องหนึ่งของมะเดี่ยว อยากให้ไปดูครับ

เชื่อไหมว่าก่อนนี้เห็นเทรลเลอร์เกรียนฟิคชั่น ตัวผมนั้นไม่แม้แต่ที่จะคิดเปิดดู เพราะดูจากโปสเตอร์ และอะไรต่อมิอะไร รวมถึงความเชื่อของผมที่มีความชื่อว่ามะเดี่ยวทำหนังดีสลับหนังสนังตัรหาตัวเอง ประมาณว่าทำหนังดีมาสักเรื่องให้คนชมมากๆ ก็ไปขอนายทุนทำหนังสนองนี้ดสนองตัณหาตัวเองสักเรื่องนึง ซึ่งดูจากรูปการณ์แล้ว เกรียนฟิคชั่นน่าจะเป็นหนังที่จับเด็กหนุ่มวัยกะเตาะมาเล่นตามสไตล์มะเดี่ยว ซึ่งผมคิดว่าไม่ดูแน่ๆ แต่ผมตามจากโซเชียลมีเดีย ตามจากคนที่ไปชมรอบสื่อมา ผมก็ะบว่า เฮ้ย คนชมเยอะจัง ประกอบกับผมเองชอบดูหนังไทย แต่หลังๆรุ้สึกผิดหวังเยอะไปหน่อย เลยไม่อยากดู ก็เลยตัดสินใจไปดูรอบค่ำที่ผ่านมา ซึ่งอยากจะบอกว่ารอบที่ผมไปดูประมาณสองทุ่ม มีคนดูในโรงไม่ถึงยี่สิบคน

เกรียนฟิคชั่นเป็นเรื่องราวของกลุ่มเด็กนักเรียนในเชียงใหม่ น่าจะ รร มงฟอร์ดหรือเปล่า ผมไม่รู้จริงๆ ก็เป็น รร ชายหญิง กับช่วงชีวิตม ปลาย มีการดำเนินเรื่องตั้งแต่ ม4-5-6 ซึ่งตัวเด่นที่เป็นตัวเดินเรื่องคือ ตี๋ ที่อาศัยอยู่กับพี่สาวที่ชื่อทิพย์ที่รับบทโดยกิ๊บซี่ และ กลุ่มเพื่อนๆ รวมไปถึงสาวสวยประจำ รร ที่รับบทโดยน้องมิว รักนี้หัวใจมีครีบ เรื่องราวของเด็กวัยรุ่น ที่ใช้ชีวิตในโรงเรียน กับกิจกรรม ชมรม การเตรียมตัวสอบ รวมไปถึงวีรกรรม การทำกิจกรรมต่างๆของชมรม ความผูกพันธ์ ความรักขอเพื่อน ความรักของคนในครอบครัว ความรักหนุ่มสาว หนังเรื่องเกรียนฟิคชั่นมันกลับไม่ใช่หนังวัยรุ่นที่เฮฮา แต่มันกลับเป็นหนังดราม่าที่เริ่มต้นด้วยความเฮฮา สนุกสนาน แต่มะเดี่ยวเหมือนเอาความเฮฮามาหลอกล่อเราหน้าถ้ำให้เราเดินลึกเข้าไปในถ้ำ ลึกดิ่งเข้าไปเรื่อยๆ เข้าไปค้นพบกับเรื่องราวของความรักที่มีหลายมิติ เข้าไปพบเจออะไรมากมาย ในตัวหนัง จากที่เรานึกว่าสเกลหนังมันคือหนังเฮฮา แต่เอาเข้าจริงๆ มันคือหนังดราม่าที่หนักเอาการทีเดียว

ปีที่แล้ว มะเดี่ยวน็อคผมด้วยหมัดฮุค กับภาพยนตร์เรื่อง โฮม ความรัก ความสุข ความทรงจำ ซึ่งบอกเลยว่า โฮมเป็นหนังไทยเรื่องนึงที่ดีมากและตรึงใจผมเอาผมเสียอยู่หมัด แต่กับเรื่อง เกรียนฟิคชั่น แม้ความตราตรึงดราม่าอาจจะไม่เท่าโฮม แต่การคอนแทคคนดูที่สื่อจากตัวหนัง ถึงคนดู ผ่านการกำกับของมะเดี่ยวนั้น เรียกว่าพัฒนาขึ้น มะเดี่ยวเก่งมาก มะเดี่ยวเป็นผู้กำกับหนังไทยที่ผมกล้าออกปากชมได้เลยว่าเป็นคนมีฝีมือเพียงไม่กี่คนที่อยู่กับเสี่ยเจียง

ผมจะไม่พูดถึงเนื้อหา แต่ผมจะพูดถึงจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่น่าชื่นชมที่สุดมีสองเรื่องคือ

การแคสติ้งและการกำกับนักแสดงไปในแนวทางที่เหมาะสมกับแคแรคเตอร์ ต้องบอกเลยว่า งานแคสติ้ง งานกำกับการแสดงของมะเดี่ยวเป็นงานที่เด่นมาก นับจากเรื่องโฮมแล้ว ดาราที่แสดงหนังสักเรื่องจะได้แสดงฝีมือออกมา มันต้องเคี่ยวโดยผู้กำกับที่เก่ง ซึ่งนักแสดงเรื่องนี้แสดงได้ดีมาก เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเด็กที่เป็นตัวนำเรื่องที่ชื่อตี๋ รวมไปถึงเด็กๆคนอื่นๆแสดงได้เป็นธรรมชติทุกคน แม้แต่เด็กผู้หญิงที่ชื่อก้อย ที่หน้าตาแสนจะธรรมดา แต่การแสดงของเธอสุดแสนจะเป็นธรรมชาติ และที่จะลืมที่จะชมไม่ได้คือกิ๊บซี่ ที่แสดงได้ดีมาก และเป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง ปีหน้าผมคาดว่ากิ๊บซี่น่าจะได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสมทบหญิงหลายสถาบันแน่ๆ และอีกคนที่จะลืมไม่ได้คือดาราชายที่ไปแสดงเป็นวนัสในคู่กรรม ที่ผมแทบอยากจะด่าว่าแสดงได้แข็งเป็นสากกะเบือ มาแสดงเรื่องนี้เค้ากลับทำได้ดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ

อีกส่วนที่จะขอชื่นชมคือบทครับ บทเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เพอเฟคมาก มันอาจจะมีอะไรเหนือจริง และเวอร์ๆไปบ้าง แต่ในภาษาหนัง นี่คือภาพยนตร์ครับ ถือว่าอภัยได้ ตัวบทมีการผูกเรื่องที่ดี ครบถ้วน มีการออกแบบตัวละครที่ดี มีปม มีเหตุ มีหักมุม และมีบทสนทนาที่ลื่นไหล ไดอะล็อกเป็นธรรมชาติ ทำให้หนังที่ยาวกว่าสองชมเศษดูไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย


จุดหักเห ความตรึงใจทำให้เราน้ำตาคลอได้หลายตอน

ตอนเด็กๆ เราไม้ได้โดดเด่นเป็นตัวเกรียนอะไรแบบเด็กพวกนี้ เราเป็นเด็กธรรมดาที่ถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาด้วยกรอบของใครก็ไม่รู้ที่เค้ากำหนดมาให้เราเดินไป พอเราได้ดูเรื่องนี้แล้วเราก็อิจฉาเด็กสมัยนี้นะที่มีอิสระในการเลือกที่จะเรียนเลื่อกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบได้

เรื่องนี้ประทับใจมากครับ มะเดี่ยวน็อคผมอีกแล้วครับ สำหรับปีนี้

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่