ภาพแรกจากกล้อง praktica MTL5 เลนส์ zeiss jena DDR 135 ฟิล์มและกระดาษฟูจิ ถ่ายไว้ราวๆ 20 ปีก่อนครับ สมัยผมต้องอดข้าวเพื่อเก็บเงินซื้อฟิล์มและล้างอัดรูป รวมแล้ว 1 ม้วน ใช้เงิน 300-400 บาทเมื่อก๋วยเตี๋ยวชามละ 10 พิเศษ 15
โบเก้ข้างหลังนั่นเป็นโบเก้อนาล็อกดั้งเดิมไม่เติมแต่ง เมื่อก่อนผมไม่รู้จักชื่อมันแต่จะพยายามหลีกเลี่ยงเพราะคิดว่ามันรบกวนสายตา
ถึงตอนนี้กลับมาเล่นอีกที ก็ยังไม่นิยมซักเท่าไหร่ แต่ก็พออยู่ร่วมกันได้โดยไม่ฝืนใจนัก
กล้องและเลนส์ทั้งชุดขายกินไปนานแล้ว เฉพาะเลนส์ชุด 3-4 ตัวที่ขายถ้าซื้อกลับมาตอนนี้คงกระอักเลือด
แต่ยังไงก็คงต้องหาไว้รำลึกอดีตสักตัวสองตัว...
ภาพล่างจากเลนส์ยุคกลางกับกล้องใหม่ vivitar series1 105/2.5 macro บน NEX 7
เลนส์คม สีสันจัดจ้าน ถ้ามีแสงให้มันกินอย่างพอเพียง ถ้าแสงน้อยก็งั้นๆ
เราจะพบเลนส์นี้ในชื่อ Lester A. Dine --หมอฟันควรรู้จักชื่อนี้--, Rollei, Rikenon, Kiron ในรูแสง f/2.8
เลนส์ดี หล่อลื่นกลไกรูรับแสงด้วยลูกปืนวนให้เบลดดีดฉับๆไม่มีติดขัด หนักและยาวมาก ที่กำลังขยาย 1:1 ยาวเป็นฟุต หนักเป็นกิโล
เสียอีกอย่างคือรู้สึกฝีมืิอจะไม่พัฒนาไปไหนเลย 20 ปีเนี่ย...
ภาพกะปอมที่ห่างกัน 20 ปี--บนกระดาษ กับบน SD card
ภาพแรกจากกล้อง praktica MTL5 เลนส์ zeiss jena DDR 135 ฟิล์มและกระดาษฟูจิ ถ่ายไว้ราวๆ 20 ปีก่อนครับ สมัยผมต้องอดข้าวเพื่อเก็บเงินซื้อฟิล์มและล้างอัดรูป รวมแล้ว 1 ม้วน ใช้เงิน 300-400 บาทเมื่อก๋วยเตี๋ยวชามละ 10 พิเศษ 15
โบเก้ข้างหลังนั่นเป็นโบเก้อนาล็อกดั้งเดิมไม่เติมแต่ง เมื่อก่อนผมไม่รู้จักชื่อมันแต่จะพยายามหลีกเลี่ยงเพราะคิดว่ามันรบกวนสายตา
ถึงตอนนี้กลับมาเล่นอีกที ก็ยังไม่นิยมซักเท่าไหร่ แต่ก็พออยู่ร่วมกันได้โดยไม่ฝืนใจนัก
กล้องและเลนส์ทั้งชุดขายกินไปนานแล้ว เฉพาะเลนส์ชุด 3-4 ตัวที่ขายถ้าซื้อกลับมาตอนนี้คงกระอักเลือด
แต่ยังไงก็คงต้องหาไว้รำลึกอดีตสักตัวสองตัว...
ภาพล่างจากเลนส์ยุคกลางกับกล้องใหม่ vivitar series1 105/2.5 macro บน NEX 7
เลนส์คม สีสันจัดจ้าน ถ้ามีแสงให้มันกินอย่างพอเพียง ถ้าแสงน้อยก็งั้นๆ
เราจะพบเลนส์นี้ในชื่อ Lester A. Dine --หมอฟันควรรู้จักชื่อนี้--, Rollei, Rikenon, Kiron ในรูแสง f/2.8
เลนส์ดี หล่อลื่นกลไกรูรับแสงด้วยลูกปืนวนให้เบลดดีดฉับๆไม่มีติดขัด หนักและยาวมาก ที่กำลังขยาย 1:1 ยาวเป็นฟุต หนักเป็นกิโล
เสียอีกอย่างคือรู้สึกฝีมืิอจะไม่พัฒนาไปไหนเลย 20 ปีเนี่ย...