ทฤษฎีการสร้างโลก
(Cosmogony)
ทฤษฎีการสร้างโลก หรือทฤษฎีการกำเนิดจักรวาล เป็นการพยายามให้คำตอบเกี่ยวกับการกำเนิดของโลกหรือจักรวาลว่า โลกหรือจักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?
ทฤษฎีนี้ถือว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกขึ้นโดยฉับพลัน พร้อมด้วยบริวารของโลกและสิ่งที่อาศัยโลกได้แก่ ดาวพระเคราะห์ ดาวบริวาร พืชและสัตว์ สิ่งเหล่านี้คงรูปอยู่อย่างเดิมเหมือนเมื่อแรกสร้าง และจะดำเนินต่อไปในรูปเดิม
ทฤษฎีการสร้างโลกมี 2 แบบคือ
1. การสร้างโลกแบบสัมบูรณ์
2. การสร้างโลกแบบมีเงื่อนไข
การสร้างโลกแบบสัมบูรณ์ หมายความว่า พระเจ้าสร้างโลกขึ้นอย่างฉับพลัน จากความไม่มีอะไรหรือจากความว่างเปล่า ในลักษณะการเนรมิตว่า ขอให้โลกเกิดขึ้น แล้วโลกเกิดขึ้น ซึ่งในขณะนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากพระเจ้า พระเจ้าเป็นผู้สมบูรณ์ทุกอย่าง จะไม่สร้างโลกขึ้นเลยก็ได้ แต่พระองค์สร้างโลกขึ้นเพื่อถ่ายทอดความดีงามทั้งปวงให้แก่สิ่งที่จำกัด
การสร้างโลกแบบมีเงื่อนไข หมายความว่า พระเจ้าสร้างโลกจากสสารที่มีอยู่แล้ว พระเจ้ากับสสารเป็นสิ่งนิรันดรด้วยกัน แต่สสารดำรงอยู่อย่างไร้ระเบียบ พระเจ้าจึงใช้สสารอันไร้ระเบียบสร้างขึ้นเป็นโลกอันมีระเบียบ
ทฤษฎีการสร้างโลก 2 แบบไม่สมเหตุสมผลทางปรัชญา กล่าวคือ
ถ้าพระเจ้าสร้างโลกจากความไม่มีอะไรหรือความว่างเปล่า ความไม่มีอะไรหรือความว่างเปล่านั้นจะเป็นเหตุเชิงวัสดุของโลก ตามธรรมดาเหตุจะถ่ายทอดธรรมชาติของมันให้แก่ผล ผลก็จะเป็นความไม่มีอะไรหรือความว่างเปล่า นั่นคือโลกเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่
ถ้าพระเจ้าสร้างโลกจากสสารที่มีอยู่แล้ว พระเจ้าก็กลายเป็นสิ่งจำกัด เพราะสสารและพระเจ้าเป็นสิ่งนิรันดรด้วยกัน พระเจ้าควบคุมสสารไม่ได้ ไม่สมกับที่พระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจไม่จำกัด
http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-3/history_of_philosophy/54.html
Andromeda Galaxy (M31 หรือ NGC 224) เป็น Major Galaxy ที่อยู่ใกล้เราที่สุด ห่างจากเรา 2.5 ล้านปีแสง
เป็นแกแลคซี่ก้นหอยที่สวยงามและสมมาตรเป็นอย่างยิ่ง
พระพรหม ผู้สร้างโลก และกำหนดความเป็นไปของมนุษย์
ทฤษฎีการสร้างโลก (Cosmogony)
(Cosmogony)
ทฤษฎีการสร้างโลก หรือทฤษฎีการกำเนิดจักรวาล เป็นการพยายามให้คำตอบเกี่ยวกับการกำเนิดของโลกหรือจักรวาลว่า โลกหรือจักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?
ทฤษฎีนี้ถือว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกขึ้นโดยฉับพลัน พร้อมด้วยบริวารของโลกและสิ่งที่อาศัยโลกได้แก่ ดาวพระเคราะห์ ดาวบริวาร พืชและสัตว์ สิ่งเหล่านี้คงรูปอยู่อย่างเดิมเหมือนเมื่อแรกสร้าง และจะดำเนินต่อไปในรูปเดิม
ทฤษฎีการสร้างโลกมี 2 แบบคือ
1. การสร้างโลกแบบสัมบูรณ์
2. การสร้างโลกแบบมีเงื่อนไข
การสร้างโลกแบบสัมบูรณ์ หมายความว่า พระเจ้าสร้างโลกขึ้นอย่างฉับพลัน จากความไม่มีอะไรหรือจากความว่างเปล่า ในลักษณะการเนรมิตว่า ขอให้โลกเกิดขึ้น แล้วโลกเกิดขึ้น ซึ่งในขณะนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากพระเจ้า พระเจ้าเป็นผู้สมบูรณ์ทุกอย่าง จะไม่สร้างโลกขึ้นเลยก็ได้ แต่พระองค์สร้างโลกขึ้นเพื่อถ่ายทอดความดีงามทั้งปวงให้แก่สิ่งที่จำกัด
การสร้างโลกแบบมีเงื่อนไข หมายความว่า พระเจ้าสร้างโลกจากสสารที่มีอยู่แล้ว พระเจ้ากับสสารเป็นสิ่งนิรันดรด้วยกัน แต่สสารดำรงอยู่อย่างไร้ระเบียบ พระเจ้าจึงใช้สสารอันไร้ระเบียบสร้างขึ้นเป็นโลกอันมีระเบียบ
ทฤษฎีการสร้างโลก 2 แบบไม่สมเหตุสมผลทางปรัชญา กล่าวคือ
ถ้าพระเจ้าสร้างโลกจากความไม่มีอะไรหรือความว่างเปล่า ความไม่มีอะไรหรือความว่างเปล่านั้นจะเป็นเหตุเชิงวัสดุของโลก ตามธรรมดาเหตุจะถ่ายทอดธรรมชาติของมันให้แก่ผล ผลก็จะเป็นความไม่มีอะไรหรือความว่างเปล่า นั่นคือโลกเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่
ถ้าพระเจ้าสร้างโลกจากสสารที่มีอยู่แล้ว พระเจ้าก็กลายเป็นสิ่งจำกัด เพราะสสารและพระเจ้าเป็นสิ่งนิรันดรด้วยกัน พระเจ้าควบคุมสสารไม่ได้ ไม่สมกับที่พระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจไม่จำกัด
http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-3/history_of_philosophy/54.html
Andromeda Galaxy (M31 หรือ NGC 224) เป็น Major Galaxy ที่อยู่ใกล้เราที่สุด ห่างจากเรา 2.5 ล้านปีแสง
เป็นแกแลคซี่ก้นหอยที่สวยงามและสมมาตรเป็นอย่างยิ่ง
พระพรหม ผู้สร้างโลก และกำหนดความเป็นไปของมนุษย์