จุดเปลี่ยน ลีลาวดี วัชโรบล จาก"โลกมายา"สู่"ถนนการเมือง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1358656857&grpid=03&catid=03
สัมภาษณ์พี่เขา บางส่วน
""นายร้อยสอยดาว" เป็นผลงานละครเรื่องแรกที่ "ลีลาวดี" รับเล่นในปี 2529 และมีอีกหลายสิบเรื่องตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่โลดแล่นในวงการบันเทิง จนเรื่องสุดท้ายที่เล่นคือ "มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต" ในปี 2548
เมื่ออิ่มตัวกับงานในวงการบันเทิง "ลีลาวดี" ก็ออกมาช่วยที่บ้านทำธุรกิจ แต่แล้วก็เหมือนมีกรรม เพราะช่วงที่อยู่ในวงการเธอลดน้ำหนักด้วยการทานยาลดน้ำหนัก ทั้งทานยานอนหลับ เมื่อหยุดยาจึงทำให้น้ำหนักของเธอเพิ่มขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ บวกกับการดื่มเหล้า สูบบุหรี่อย่างหนัก แต่เมื่อตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเลิกให้ได้ เธอจึงกลับไปปฏิบัติธรรมอีกครั้ง จนเลิกได้อย่างเด็ดขาด ต่อมาก็ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพูดให้เด็กๆ ฟังตามโรงเรียน โดยที่ไม่รู้เลยวันหนึ่ง "ลี" จะพบกับจุดพลิกเปลี่ยนชีวิตชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
"หลังบรรยายเสร็จก็มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นวิทยากรด้วยกัน เขาก็ถามเราว่า คุณมาทำงานนี้เพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร เราก็บอกว่า ไม่ได้อะไรค่ะ ที่มานี่ก็เสียเงินมาเอง แต่เรารู้สึกว่าได้บุญ เพราะเราได้อะไรมาจากสังคมเยอะเราก็เลยอยากคืนอะไรให้กับสังคมบ้าง ผู้ชายคนนั้นก็บอกว่าลีคงทำได้ไม่เกิน 3 ปีเดี๋ยวก็จะเบื่อและเลิกทำ ที่สำคัญคือเด็กจะไม่รู้จักและจำไม่ได้แล้วว่าคุณคือใคร ทำไมคุณไม่ไปเล่นการเมือง แม้ศีลธรรมช่วยเหลือเด็กช่วยแก้ปัญหาสังคม แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นนักการเมือง คุณไม่มีทางเอาสิ่งนี้มาเป็นนโยบายในการขับเคลื่อนประเทศได้หรอก" ลีลาวดีเล่า
แม้ตอนแรกที่ได้ฟัง "ลีลาวดี" จะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูด แต่เมื่อเธอมาประมวลก็เริ่มคล้อยตาม ภาพที่มองนักการเมืองในภาพลบ ก็เริ่มเปลี่ยนความคิดไป
"ลีอยากทำประโยชน์ต่อสังคม มีคนจำเราได้ รักเรา และไม่ได้อยากเป็นเพียงอดีตดารา จึงนำเรื่องนี้ไปสนทนาปรึกษากับพระคุณเจ้าที่รู้จัก ซึ่งท่านก็แนะนำให้ไปทำงานกับคุณสมัคร สุนทรเวช ซึ่งลีและคุณแม่ก็เคารพนับถือท่านอยู่แล้ว"
ครั้งนี้ "ลีลาวดี" หนีห่างจากโลกมายา เดินบนโลกแห่งความเป็นจริง บนความหวังที่จะสร้างประโยชน์ให้สังคม
เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงเป็นนางเอก ได้แสดงในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่อง อาทิ นายร้อยสอยดาว เมื่อปี พ.ศ. 2529 คู่กับ อธิป ทองจินดา, ปืนเถื่อน ในปีเดียวกัน คู่กับ สรพงษ์ ชาตรี, กองร้อยสบาย สบาย ในปี พ.ศ. 2532 คู่กับ รอน บรรจงสร้าง ก่อนที่จะมีบทบาทการแสดงครั้งสุดท้ายคือ ละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 เรื่อง มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต ออกอากาศปี พ.ศ. 2548
ผลงานละครโทรทัศน์
2532 เคหาสน์สีแดง ช่อง 7
2532 ท่าฉลอม ช่อง 9
2532 กว่าจะถึง(ท่า)พระจันทร์ ช่อง 9
2534 พิษสวาท ช่อง 5
2534 แม่ผัวมหาภัยกับสะใภ้สารพัดพิษ ช่อง 5
2534 ลิขิตพิศวาส ช่อง 9
2534 แม่เลี้ยงคนใหม่ ช่อง 9
2535 ลางรัก ช่อง 5
2535 เจ้าสาวแสนกล ช่อง 5
2535 แฝดอลเวง ช่อง 3
2536 มฤตยูยอดรัก ช่อง 5
2537 แม่นาคพระโขนง ช่อง 5
2537 กระเช้าสีดา ช่อง 3
2538 ความรักสีดำ ช่อง 5
2548 มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต ช่อง 7
ภาพสวยๆ
http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A5/113839785311781
ละครผี ก็เคยเล่นมาแล้ว...เล่นเก่งด้วย
แอบปลื้มอ่ะ ตอนเป็นนางเอกก็สวย ความดังแุุถวหน้าของวงการเ้ลย ฝีมือดี แต่น่าเสียดาย น่าเป็นนางเอกต่ออีกสักนิดเนอะ เพราะตอนที่ิิิิิิิิิออกจากวงการมา อายุยังน้อย และก็ยังดังมากอยู่เลย สงสัยคงชอบทางด้านนี้มากกว่า แต่เขาบอกว่าอิ่มตัวกับงานบันเทิงแล้ว
ลีลาวดี วัชโรบล ดาวเด่นวงการมายา-สู่ถนนการเมือง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1358656857&grpid=03&catid=03
สัมภาษณ์พี่เขา บางส่วน
""นายร้อยสอยดาว" เป็นผลงานละครเรื่องแรกที่ "ลีลาวดี" รับเล่นในปี 2529 และมีอีกหลายสิบเรื่องตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่โลดแล่นในวงการบันเทิง จนเรื่องสุดท้ายที่เล่นคือ "มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต" ในปี 2548
เมื่ออิ่มตัวกับงานในวงการบันเทิง "ลีลาวดี" ก็ออกมาช่วยที่บ้านทำธุรกิจ แต่แล้วก็เหมือนมีกรรม เพราะช่วงที่อยู่ในวงการเธอลดน้ำหนักด้วยการทานยาลดน้ำหนัก ทั้งทานยานอนหลับ เมื่อหยุดยาจึงทำให้น้ำหนักของเธอเพิ่มขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ บวกกับการดื่มเหล้า สูบบุหรี่อย่างหนัก แต่เมื่อตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเลิกให้ได้ เธอจึงกลับไปปฏิบัติธรรมอีกครั้ง จนเลิกได้อย่างเด็ดขาด ต่อมาก็ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพูดให้เด็กๆ ฟังตามโรงเรียน โดยที่ไม่รู้เลยวันหนึ่ง "ลี" จะพบกับจุดพลิกเปลี่ยนชีวิตชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
"หลังบรรยายเสร็จก็มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นวิทยากรด้วยกัน เขาก็ถามเราว่า คุณมาทำงานนี้เพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร เราก็บอกว่า ไม่ได้อะไรค่ะ ที่มานี่ก็เสียเงินมาเอง แต่เรารู้สึกว่าได้บุญ เพราะเราได้อะไรมาจากสังคมเยอะเราก็เลยอยากคืนอะไรให้กับสังคมบ้าง ผู้ชายคนนั้นก็บอกว่าลีคงทำได้ไม่เกิน 3 ปีเดี๋ยวก็จะเบื่อและเลิกทำ ที่สำคัญคือเด็กจะไม่รู้จักและจำไม่ได้แล้วว่าคุณคือใคร ทำไมคุณไม่ไปเล่นการเมือง แม้ศีลธรรมช่วยเหลือเด็กช่วยแก้ปัญหาสังคม แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นนักการเมือง คุณไม่มีทางเอาสิ่งนี้มาเป็นนโยบายในการขับเคลื่อนประเทศได้หรอก" ลีลาวดีเล่า
แม้ตอนแรกที่ได้ฟัง "ลีลาวดี" จะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูด แต่เมื่อเธอมาประมวลก็เริ่มคล้อยตาม ภาพที่มองนักการเมืองในภาพลบ ก็เริ่มเปลี่ยนความคิดไป
"ลีอยากทำประโยชน์ต่อสังคม มีคนจำเราได้ รักเรา และไม่ได้อยากเป็นเพียงอดีตดารา จึงนำเรื่องนี้ไปสนทนาปรึกษากับพระคุณเจ้าที่รู้จัก ซึ่งท่านก็แนะนำให้ไปทำงานกับคุณสมัคร สุนทรเวช ซึ่งลีและคุณแม่ก็เคารพนับถือท่านอยู่แล้ว"
ครั้งนี้ "ลีลาวดี" หนีห่างจากโลกมายา เดินบนโลกแห่งความเป็นจริง บนความหวังที่จะสร้างประโยชน์ให้สังคม
เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงเป็นนางเอก ได้แสดงในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่อง อาทิ นายร้อยสอยดาว เมื่อปี พ.ศ. 2529 คู่กับ อธิป ทองจินดา, ปืนเถื่อน ในปีเดียวกัน คู่กับ สรพงษ์ ชาตรี, กองร้อยสบาย สบาย ในปี พ.ศ. 2532 คู่กับ รอน บรรจงสร้าง ก่อนที่จะมีบทบาทการแสดงครั้งสุดท้ายคือ ละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 เรื่อง มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต ออกอากาศปี พ.ศ. 2548
ผลงานละครโทรทัศน์
2532 เคหาสน์สีแดง ช่อง 7
2532 ท่าฉลอม ช่อง 9
2532 กว่าจะถึง(ท่า)พระจันทร์ ช่อง 9
2534 พิษสวาท ช่อง 5
2534 แม่ผัวมหาภัยกับสะใภ้สารพัดพิษ ช่อง 5
2534 ลิขิตพิศวาส ช่อง 9
2534 แม่เลี้ยงคนใหม่ ช่อง 9
2535 ลางรัก ช่อง 5
2535 เจ้าสาวแสนกล ช่อง 5
2535 แฝดอลเวง ช่อง 3
2536 มฤตยูยอดรัก ช่อง 5
2537 แม่นาคพระโขนง ช่อง 5
2537 กระเช้าสีดา ช่อง 3
2538 ความรักสีดำ ช่อง 5
2548 มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต ช่อง 7
ภาพสวยๆ
http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A5/113839785311781
ละครผี ก็เคยเล่นมาแล้ว...เล่นเก่งด้วย
แอบปลื้มอ่ะ ตอนเป็นนางเอกก็สวย ความดังแุุถวหน้าของวงการเ้ลย ฝีมือดี แต่น่าเสียดาย น่าเป็นนางเอกต่ออีกสักนิดเนอะ เพราะตอนที่ิิิิิิิิิออกจากวงการมา อายุยังน้อย และก็ยังดังมากอยู่เลย สงสัยคงชอบทางด้านนี้มากกว่า แต่เขาบอกว่าอิ่มตัวกับงานบันเทิงแล้ว