imobile IQ4 ครับ

คุยกันเรื่องงานออกแบบ

แว่บแรกเลยที่ได้สัมผัส รู้สึกเลยว่าเครื่องนี้ "แน่น" มาก ตัว Q2 DUO ที่ผมเคยใช้นี่ดูก๊อกแก๊กไปเลยทีเดียว สีที่ผมได้มาเป็นสีดำ เลยทำให้ดูขรึมมาก จอเลยขอบข้างออกมา

เมื่อมองจากหน้าจอเข้าไป จะมีรายละเอียดดังนี้

ด้านหน้า มี 3 ปุ่ม (จากซ้ายไปขวา) ปุ่มเมนู (แม้มันจะแสดงว่าเป็นปุ่ม recent app ก็ตาม แต่ไม่ใช่ แบบเดียวกับ Q2 DUO) ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ



ด้านหลัง เลนส์กล้องนูนออกมา ตามสมัยนิยม มีแฟลชด้วย ส่วนด้านล่าง ใต้อักษร imobile มีลำโพงอยู่ (ส่วนตัว เวลาคุยแบบเปิดลำโพง รู้สึกว่าเสียงไม่ดังเท่าที่ควร)



ด้านบน (จากขวามาซ้าย) มีรู 3.5 ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง และช่องชาร์จ



ด้านขวาของเครื่อง ไร้ปุ่มครับ แต่ช่องสำหรับเปิดฝาหลังจะอยู่ด้านใต้ของเครื่อง (ขวาของรูป)



ด้านซ้าย มีปุ่มปรับเสียงอยู่



ด้านล่าง รูไมค์สำหรับการสนทนา ทางด้านซ้ายของรูป เนื่องจากเป็นรุ่นราคาประหยัด จึงไม่มีไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน



มาลองวัดประสิทธิภาพกันก่อนละกันครับ ใช้ Nena Mark และ Antutu











การใช้งาน

1. เนื่องจากเป็นผู้ผลิตแบบโนเนม เลยทำให้ UI เป็นแบบค่อนข้างจะใกล้เคียง Pure Google ครับ แต่ก็ไม่ใช่เป็นแบบเพียวๆ เลย เพราะมีจุดต่างดังนี้

หน้าจอปกติ ดำๆ ตามแบบฉบับ Pure Google



แถบแจ้งเตือน มีการเพิ่มเติมทางลัดต่างๆ ให้ เหมือน touchwiz UI และ LG UI ซึ่ง pure google ไม่มี (มีแต่แถบแจ้งเตือนระดับ 2 หรือ 2nd level notification bar ซึ่งความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่ามันใช้ยากนะ)

ตรงกลางครับ มีปุ่มให้เลือกดังนี้ (ไม่สามารถเปลี่ยนได้)



ด้านซ้าย ตั้งแสงสว่างได้ 3 ระดับ เลือกเวลาก่อนจะปิดจอได้ 3 ระดับเช่นกัน และเลือกว่าจะให้กลับจออัตโนมัติไหม (เพียวกูเกิ้ลเลือกไม่ได้ ต้องใช้โปรแกรมเสริม)



ด้านขวา เป็นการตั้ง Profile ครับ โดยจะต่างจากระบบโพรไฟล์ของแบรนด์อื่นๆ ตรงเราจะสามารถปรับตั้งค่าได้แค่ที่ General อย่างเดียว อันอื่นจะตั้งค่ามาให้อยู่แล้ว และมีแสดงไว้ในหน้าตั้งค่าครับ (Audio Profiles)



Wireless Setting



ตั้งค่าให้แสดงเปอร์เซนต์ของแบตเตอรี่ได้



SIM Management เลือกได้ว่าจะใช้ซิมอะไรเป็นหลักด้วย จากหน้าจอนี้ ส่วนขาวๆ ข้างบนคือ เราสามารถใส่หมายเลขโทรศัพท์ของซิมนั้นๆ ลงไปได้ เพื่อกันสับสนครับ





จากการใช้งานเป็นเครื่องหลักมา 3 อาทิตย์ เครื่องทำงานได้ดี ไม่ค่อยเจอหน่วงครับ แต่จะมีบ้างก็อย่างเช่นความรู้สึกที่แม้จะเป็นเจลลี่บีนแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าการการเคลื่อนที่บนหน้าเมนูจากอานิสงส์ของ Project Butter ไม่ลื่นเท่า Pure Google หรือแอนดรอยด์อื่นๆ ที่ใช้เจลลี่บีนด้วยกัน (ผมเคยใช้เจลลี่บีนบน Galaxy Nexus, Note 2, S3) อย่างไรก็ตาม รวมๆ แล้ว ยังถือว่าทำงานได้ดีครับ สำหรับการใช้งานทั่วไป เวลาเปิดเว็บก็ไม่ค้าง แบบตอนใช้ Q2 DUO คงเนื่องมาจากแรม 1 กิ๊ก และไม่เจอปัญหาบูตใหม่แล้วแบตไม่ตรง แบบตอน Q2 DUO ครับ

แบต ใช้งานได้วันกว่าๆ แบบเชื่อมต่อ 3G AIS ไว้ตลอดเวลา (แถวที่ทำงานผมแรงใช้ได้อยู่ครับ)

ข้อเสียที่พบ

1. ปกติผมจะใช้คีย์บอร์ด Smart Keyboard Pro ครับ ตัวนี้จะมีข้อเสียว่า ถ้าเราเลือกคีย์บอร์ดอื่นไว้ ที่ไม่ใช่ตัวที่มากับรอม เวลาบูตเครื่องใหม่ คีย์บอร์ดนอกเหล่านั้นจะถูกติ๊กออก แล้วเราต้องมาตั้งค่าใหม่ ซึ่งผมไม่เคยเจอ Q2 QUO แต่กลับมาเจอในรุ่นนี้ หวังว่า firmware ใหม่จะออกมาแก้ปัญหานี้

ความสามารถในการถ่ายภาพ

ภาพถ่ายทั้งหมด ดูจากกระทู้ที่ผมรีวิว E2202 ได้ครับ บางภาพมีเบลอบ้าง เพราะโฟกัสผิดจุด เป็นภาพถ่ายในที่ร่มทั้งหมด

http://ppantip.com/topic/30367588

เดี๋ยวจะพยายามไปถ่ายกลางแจ้งมาให้ดูทีหลังนะครับ


***** เพิ่มเติม 4/5/2556 ******

หลังอัพ firmware T18 มา พบว่า

1. การจับสัญญาณ GPS ดีขึ้นมากกว่า T13 หน้ามือเป็นหลังเท้า ใช้เวลาน้อยกว่า 30 วินาที ในการจับสัญญาณ (ส่วนการโหลดแผนที่ช้าเร็วอยู่ที่ความเร็วเนทที่คุณเชื่อมต่อด้วยนะครับ ถ้ากากก็นานกว่าจะรู้ว่าตัวเองอยู่ไหน แต่ตำแหน่งมาไวมากครับ)

ดูคลิปที่นี่ครับ

2. ส่วนกล้อง ดูจะถ่ายได้ไวขึ้นอีกนิด แต่ไม่ได้ไวแบบหน้ามือหลังเท้า

3. การใช้งาน ไม่รู้สึกแตกต่างในเรื่องความลื่น หากเทียบกับ T13

4. แต่มีข้อเสียคือ ฟอนต์ภาษาไทยที่ใช้้ ทำให้บนคีย์บอร์ด ตัววรรณยุกต์จะมีวงกลมอยู่ คล้ายๆ แป้นพิมพ์ของ WP8