หลังจากประกาศหยุดปั่นยามเย็นอันเนื่องมาจากไม่อยากไปเข้าเฝ้าพระเจ้าก่อนวัยอันควร นี่เป็นวันที่ 2 แล้วครับที่ผมแหกขี้ตามาปั่นยามเช้าตามคำแนะนำของพี่ๆเพื่อนๆในบอร์ดนี้ ชักติดใจเพราะอากาศดีและรถน้อยดีจัง...
...แรกที่เริ่มปั่นผมเพียงต้องการลดน้ำหนักเท่านั้นเองครับ เพราะว่าอวบระยะสุดท้ายแล้ว เวลาผ่านไปเดือนครึ่งตอนนี้พุงยุบและน้ำหนักหายไป เยอะแล้ว เพราะปกติปั่นวันละประมาณ 20 กม. แต่นน.ลงช้ามาก เลยจับจุดได้ว่า...สัปดาห์นึงต้องอัดยาวสักหนึ่งครั้ง แล้วจะลงเร็วมาก เช้านี้ผมจึงเลือกเลือกเส้นทางตัวเมือง ภูเก็ต - แหลมพรหมเทพ ...อาจดูไม่ไกลนักสำหรับบรรดาเซียนทั้งหลาย แต่...เนินครับ เนิน เมืองนี้มีดีที่เนิน ฮ่าๆๆๆๆ
...ตื่นตี 4.30 น. กว่าจะได้เสด็จก็ปาเข้าไป 5.30 น.แล้ว ปั่นผ่าไปกลางเมืองเลยนะ ผ่านย่านเมืองเก่า ยามเช้ารถน้อย ภูเก็ตดูสวยสงบแปลกตาออกไปมาก.....
สถานีตำรวจเก่า มีหอนาฬิกา เป็นแลนด์มาร์คที่เขาชอบมาถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะภาพแต่งงาน เดี๋ยวนี้ไม่มีสายไฟรกรุงรังแล้วครับ ดีจังเบย
ฟ้าสางที่ราไวย์ ราไวย์เป็นหาดยอดนิยมของชาวไทยครับ ที่นี่มีซีฟู๊ดให้นั่งกินริมทะเลยามเย็น แต่วันนี้ผมมาอรุณสวัสดิ์ราไวย์ ดูเธอยังงัวเงียๆชอบกล
"เห็นเนินจะเป็นลม เห็นนมจะสู้ตาย" วาทะแห่งปีของใครบางคนแถวนี้ ก่อนถึงแหลมพรหมเทพจะมีเนินให้น่องตึงเล่น ครั้งก่อนที่มาผมก็ตะคริวรับประทานตรงนี้แหล่ะ T T
ถึงแล้วครับ แหลมพรหมเทพ จุดที่..."ตะวันตกที่สุด"...แสงสุดท้ายของประเทศไทยก่อนตะวันลับไปอยู่ที่นี่แหล่ะ ไม่เชื่อลองฟังวิทยุสิครับ เขาจะพูดว่า..."วันนี้พระอาทิตย์ตกดินที่ประภาคารกาญจนาภิเษก...แหลมพรหมเทพ เวลา..."
วิวแบบนี้ถ้าไปตอนเย็นอย่าหวังว่าจะได้เห็น ได้ถ่ายรูปเลยครับ ผู้คนมหาศาลล้านแปดเชียวล่ะ แต่นี่ยามเช้าช่างโล่งดีแท้ ^^
โล่งจริงโล่งจัง ถ่ายรูปมาเพียบ สารพัดมุมเลย มาก็หลายครั้ง แต่ครั้งนี้นี่แหล่ะถ่ายรูปสะใจที่สุด โล่งดีจังแฮะ
มีเจ้าถิ่นแวะมาดูความเรียบร้อย "แกอย่าปั่นนะ ถ้าแกปั่นฉันจะไล่...ยาว....ยาว..."
นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันมาแล้วครับ คุณพี่จากระยองที่บ้านมีหลายคัน โชว์รอยถลอกให้ดู พี่เค้าบอกว่าเพิ่งเคยเห็น เดี๋ยวกลับระยองคงต้องไปถอยสักคัน พอเรียกลูกสาวมาดูรถ ผมก็เลิกเรียกแกว่าพี่ เปลี่ยนไปเรียกว่า "คุณแม่" แทน ฮิ้วว!
ลิบๆสุดสายตานั่นก็ หาดในหานครับ หาดเล็กๆที่ผมชอบที่สุด มองจากแหลมพรหมเทพไปจะมีกังหันลมสีขาว วิวสุดยอดแต้ๆเชิญมาชมกันให้ได้สักครั้งนะ
เอ้อระเหยลอยชาย เดินเล่นถ่ายรูป คุยกับแม่ค้า คุยกับคนนู้นคนนี้อยู่พักใหญ่ก็ออกปั่นกลับ ไม่ลืมขอถุงก๊อบแก๊ปจากแม่ค้ามาใบนึง เพราะเสียวจะโดนสาดน้ำสงกรานต์...ที่ไหนได้...เหอๆ
ฟ้าครึ้มๆมาตั้งแต่เช้า เราก็คิดว่ามันคงจะฝนตกตอนบ่ายๆค่ำๆเหมือนหลายวันที่ผ่านมา ที่ไหนได้ขี่มากลางทางก็ล่อซะเต็มดอกเลย แบบชนิดจัดเต็ม คราวนี้กลายเป็นลูกหมาตกน้ำไปซะงั้น!
ทนไม่ไหวเลยหลบเข้าชายคาบ้านคน แต่เวลาผ่านไป...ฝนก็ไม่มีทีท่าจะหยุด ปัญหาคือ...ปวดฉี่...มว๊ากๆ เลยกัดฟันตากฝนปั่นไปที่ปั้มน้ำมัน เสร็จแล้วก็ตัดสินใจลุยกลับบ้านเลย พอถึงบ้านภรรเมียเห็นสภาพเราแล้วก็หัวเราะชอบใจใหญ่ (ขอบคุณถุงก๊อบแก๊ปจากแม่ค้าตาหวานนะจ๊ะ)
ไปกลับ 52.51 กิโลเมตร ล่อไปเกือบ 4 ชั่วโมง เพราะมัวแต่ถ่ายรูปและลั๊นลาจนฝนตก แถมติดฝนอีกเป็นนานสองนาน สุดท้ายเปียกโชกไปทั้งตัวน้ำ แต่ที่แปลกก็คือแดดไม่ออก แต่ได้ "ขาป๊อกกี้" กลับมาเฉยเลย นึกไม่ออกว่าคืออะไรก็ให้ไปซื้อ"กูลิโกะป๊อกกี้ รสช๊อคโกแล็ต"มาแล้วเปิดดูเอาละกันนะ อิ อิ
สรุป...สงกรานต์ปีนี้ไม่มีใครสาดน้ำผมสำเร็จ ต้องใช้ระดับเทพเท่านั้นครับ..."พระพิรุณ"จัดให้เต็มๆ!!! แหะ แหะ แหะ (^^)
รายงานการปั่นยามเช้าเทศกาลสงกรานต์ 2 : แหลมพรหมเทพยามเช้า...ใครไม่เปียกแต่ผมเปียก...โชก!
...แรกที่เริ่มปั่นผมเพียงต้องการลดน้ำหนักเท่านั้นเองครับ เพราะว่าอวบระยะสุดท้ายแล้ว เวลาผ่านไปเดือนครึ่งตอนนี้พุงยุบและน้ำหนักหายไป เยอะแล้ว เพราะปกติปั่นวันละประมาณ 20 กม. แต่นน.ลงช้ามาก เลยจับจุดได้ว่า...สัปดาห์นึงต้องอัดยาวสักหนึ่งครั้ง แล้วจะลงเร็วมาก เช้านี้ผมจึงเลือกเลือกเส้นทางตัวเมือง ภูเก็ต - แหลมพรหมเทพ ...อาจดูไม่ไกลนักสำหรับบรรดาเซียนทั้งหลาย แต่...เนินครับ เนิน เมืองนี้มีดีที่เนิน ฮ่าๆๆๆๆ
...ตื่นตี 4.30 น. กว่าจะได้เสด็จก็ปาเข้าไป 5.30 น.แล้ว ปั่นผ่าไปกลางเมืองเลยนะ ผ่านย่านเมืองเก่า ยามเช้ารถน้อย ภูเก็ตดูสวยสงบแปลกตาออกไปมาก.....
สถานีตำรวจเก่า มีหอนาฬิกา เป็นแลนด์มาร์คที่เขาชอบมาถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะภาพแต่งงาน เดี๋ยวนี้ไม่มีสายไฟรกรุงรังแล้วครับ ดีจังเบย
ฟ้าสางที่ราไวย์ ราไวย์เป็นหาดยอดนิยมของชาวไทยครับ ที่นี่มีซีฟู๊ดให้นั่งกินริมทะเลยามเย็น แต่วันนี้ผมมาอรุณสวัสดิ์ราไวย์ ดูเธอยังงัวเงียๆชอบกล
"เห็นเนินจะเป็นลม เห็นนมจะสู้ตาย" วาทะแห่งปีของใครบางคนแถวนี้ ก่อนถึงแหลมพรหมเทพจะมีเนินให้น่องตึงเล่น ครั้งก่อนที่มาผมก็ตะคริวรับประทานตรงนี้แหล่ะ T T
ถึงแล้วครับ แหลมพรหมเทพ จุดที่..."ตะวันตกที่สุด"...แสงสุดท้ายของประเทศไทยก่อนตะวันลับไปอยู่ที่นี่แหล่ะ ไม่เชื่อลองฟังวิทยุสิครับ เขาจะพูดว่า..."วันนี้พระอาทิตย์ตกดินที่ประภาคารกาญจนาภิเษก...แหลมพรหมเทพ เวลา..."
วิวแบบนี้ถ้าไปตอนเย็นอย่าหวังว่าจะได้เห็น ได้ถ่ายรูปเลยครับ ผู้คนมหาศาลล้านแปดเชียวล่ะ แต่นี่ยามเช้าช่างโล่งดีแท้ ^^
โล่งจริงโล่งจัง ถ่ายรูปมาเพียบ สารพัดมุมเลย มาก็หลายครั้ง แต่ครั้งนี้นี่แหล่ะถ่ายรูปสะใจที่สุด โล่งดีจังแฮะ
มีเจ้าถิ่นแวะมาดูความเรียบร้อย "แกอย่าปั่นนะ ถ้าแกปั่นฉันจะไล่...ยาว....ยาว..."
นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันมาแล้วครับ คุณพี่จากระยองที่บ้านมีหลายคัน โชว์รอยถลอกให้ดู พี่เค้าบอกว่าเพิ่งเคยเห็น เดี๋ยวกลับระยองคงต้องไปถอยสักคัน พอเรียกลูกสาวมาดูรถ ผมก็เลิกเรียกแกว่าพี่ เปลี่ยนไปเรียกว่า "คุณแม่" แทน ฮิ้วว!
ลิบๆสุดสายตานั่นก็ หาดในหานครับ หาดเล็กๆที่ผมชอบที่สุด มองจากแหลมพรหมเทพไปจะมีกังหันลมสีขาว วิวสุดยอดแต้ๆเชิญมาชมกันให้ได้สักครั้งนะ
เอ้อระเหยลอยชาย เดินเล่นถ่ายรูป คุยกับแม่ค้า คุยกับคนนู้นคนนี้อยู่พักใหญ่ก็ออกปั่นกลับ ไม่ลืมขอถุงก๊อบแก๊ปจากแม่ค้ามาใบนึง เพราะเสียวจะโดนสาดน้ำสงกรานต์...ที่ไหนได้...เหอๆ
ฟ้าครึ้มๆมาตั้งแต่เช้า เราก็คิดว่ามันคงจะฝนตกตอนบ่ายๆค่ำๆเหมือนหลายวันที่ผ่านมา ที่ไหนได้ขี่มากลางทางก็ล่อซะเต็มดอกเลย แบบชนิดจัดเต็ม คราวนี้กลายเป็นลูกหมาตกน้ำไปซะงั้น!
ทนไม่ไหวเลยหลบเข้าชายคาบ้านคน แต่เวลาผ่านไป...ฝนก็ไม่มีทีท่าจะหยุด ปัญหาคือ...ปวดฉี่...มว๊ากๆ เลยกัดฟันตากฝนปั่นไปที่ปั้มน้ำมัน เสร็จแล้วก็ตัดสินใจลุยกลับบ้านเลย พอถึงบ้านภรรเมียเห็นสภาพเราแล้วก็หัวเราะชอบใจใหญ่ (ขอบคุณถุงก๊อบแก๊ปจากแม่ค้าตาหวานนะจ๊ะ)
ไปกลับ 52.51 กิโลเมตร ล่อไปเกือบ 4 ชั่วโมง เพราะมัวแต่ถ่ายรูปและลั๊นลาจนฝนตก แถมติดฝนอีกเป็นนานสองนาน สุดท้ายเปียกโชกไปทั้งตัวน้ำ แต่ที่แปลกก็คือแดดไม่ออก แต่ได้ "ขาป๊อกกี้" กลับมาเฉยเลย นึกไม่ออกว่าคืออะไรก็ให้ไปซื้อ"กูลิโกะป๊อกกี้ รสช๊อคโกแล็ต"มาแล้วเปิดดูเอาละกันนะ อิ อิ
สรุป...สงกรานต์ปีนี้ไม่มีใครสาดน้ำผมสำเร็จ ต้องใช้ระดับเทพเท่านั้นครับ..."พระพิรุณ"จัดให้เต็มๆ!!! แหะ แหะ แหะ (^^)