จากมติชนออนไลน์
ฮือฮา กันทั้งวงการโฆษณา และวงการสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเลยทีเดียว สำหรับภาพยนตร์โฆษณา ของ Johnniewalker ประเทศไทย กับผลงานชุดล่าสุด ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ของ "เรวัต พุทธินันทน์" บุคคลผู้พลิกประวัติศาสตร์วงการดนตรีไทย ผู้ล่วงลับ และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่ผลิตศิลปินคุณภาพมากมาย
ภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าว ออนแอร์กันให้ชมผ่านทางโทรทัศน์และ เว็บไซต์ ยูทูบ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งต้องถือว่า ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวกับกระแสตอบรับ ที่ทำให้หลายคน ย้อนรำลึกถึงโปรดิวเซอร์ นักดนตรี นักแต่งเพลงในตำนาน ผู้ปฏิวัติวงการเพลงไทยให้ไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรือง ตั้งแต่เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน จนมีการพูดถึงและแชร์กันในสังคมออนไลน์จำนวนมาก
นอกจากความน่าสนใจ ในการหยิบเรื่องราวของ เต๋อ เรวัต มาถ่ายทอดแล้ว ความพิถีพิถันในขั้นตอนการถ่ายทำ ก็ละเอียด ลงลึกราวกับปลุก ผู้ล่วงลับในตำนาน ให้ฟื้นกลับมาสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน "ก้าว" ตามความฝัน อย่างไม่ทดท้อ เนื่องจากได้ Joseph Kahn (โจเซฟ คานท์) ผู้กำกับระดับโลก และ The Mill ทีม CG จาก Hollywood มาร่วมสร้างสรรค์ให้อย่างสมจริง
ภาพยนตร์โฆษณา การกลับมาของ เต๋อ- เรวัต พุทธินันทน์ จะเป็นเช่นไร และจะทำให้คนรุ่นหลัง ได้รู้จัก "ตัวตน" ในคมความคิดของ ตำนานวงการเพลงไทยแค่ไหน รวมถึงจะย้อนภาพ ความเป็นเต๋อ เรวัต ในการจุดแรงบันดาลใจให้บุคคลผู้คิดถึงได้อย่างไร มติชนออนไลน์ ขออนุญาตนำคลิป โฆษณา และเบื้องหลังมาให้ได้ติดชมกัน ...
สำหรับ ประวัติของ เรวัต พุทธินันท์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2491 ที่กรุงเทพฯ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 6 คน ของนาวาตรีทวีและนางอบเชย พุทธินันทน์ เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชีวิตครอบครัว เรวัต สมรสกับ อรุยา สิทธิประเสริฐ เพื่อนจาก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2517 มีบุตรสาวสองคนคือ สุธาสินี และสิดารัศมิ์
เรวัต พุทธินันทน์ ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง และได้เดินทางไปรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2539 รวมอายุ 48 ปี มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540
อัตชีวิต และเส้นทางดนตรี
เรวัตหัดเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยบิดาบังคับให้เรียนแซกโซโฟน เขากับเพื่อนๆ โรงเรียนเซนต์คาเบรียลตั้งวงดนตรี ชื่อ Dark Eyes ต่อมาเปลี่ยนชื่อวงเป็น Mosrite และเข้าประกวดในงานของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ในปี พ.ศ. 2508 และ 2509 ขณะเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ใน พ.ศ. 2510 ได้ร่วมกับเพื่อนตั้งวง Yellow Red (เหลือง-แดง คือสีประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) เพื่อนในวงคนสำคัญคือ ดนู ฮันตระกูล และจิรพรรณ อังศวานนท์
ต่อมาเรวัตได้ร่วมกับเพื่อนจากธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งวง The Thanks รับแสดงตามงานต่างๆ เน้นดนตรีร็อค เรวัตรับตำแหน่งร้องนำและตีกลอง เพื่อนร่วมวงคนหนึ่งคือ กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา วง The Thanks มีชื่อเสียงได้เล่นสลับกับวงดิอิมพอสซิเบิ้ล ตามไนท์คลับต่างๆ
หลังเรียนจบ เรวัตได้รับการชักชวนให้ร่วมวงดิอิมพอสซิเบิ้ล และเดินทางกับวงไปแสดงที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกาและยุโรป ในตำแหน่งนักร้องนำและเล่นคีย์บอร์ด
เมื่อวงดิอิมพอสซิเบิลประกาศยุบวง เมื่อ พ.ศ. 2520 เขาตั้งวง โอเรียนเต็ลฟังก์ เล่นดนตรีฟังก์ ร่วมกับวินัย พันธุรักษ์ เล่นประจำที่โรงแรมมณเฑียร และตระเวนเปิดการแสดงในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ในระหว่างนั้นเรวัตได้ศึกษาการเขียนเพลงและดนตรีเพิ่มเติม
ในปี พ.ศ. 2526 เรวัตร่วมกับ เพื่อนจากจุฬาฯ อย่าง ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ก่อตั้งบริษัท แกรมมี่ เอนเตอร์เทนเม้นท์ เขาทำหน้าที่ดูแลด้านการผลิตเพลง ใช้เทคนิคการสร้างศิลปินแบบสากล คือขายทั้งความสามารถและภาพพจน์ ทำให้ผลงานของบริษัทประสบความสำเร็จแทบทุกชุด
เต๋อ เรวัต เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งวงการเพลงไทย เป็นโปรดิวเซอร์ นักดนตรี นักแต่งเพลงในตำนาน เป็นผู้ปฏิวัติวงการเพลงไทยให้ไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรือง และผู้ริเริ่มความทันสมัยของดนตรีสมัยใหม่ให้กับประเทศไทย เป็นผู้บุกเบิกแนวเพลงสตริงอันทันสมัยให้กับการเพลงไทย ผู้นำแนวเพลง ร๊อค ป๊อบ แดนซ์ โมเดิร์นแจ๊ส ฟังค์ ฯลฯ เข้ามาเป็นที่นิยมในไทย เป็นผู้มีคุณูปการ มหาศาลแก่วงการเพลงไทย เป็นผู้ปลุกปั้นศิลปินให้มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ เป็นบุคคลตัวอย่าง แรงบันดาลใจให้กับนักร้องนักดนตรีของเมืองไทย มาจวบจนสมัยนี้
อึ้งทุกวงการ! "เต๋อ เรวัต" คืนชีพ!! เล่าเบื้องหลังความสำเร็จ สร้างแรงบันดาลใจ ผ่านโฆษณา !?!
ฮือฮา กันทั้งวงการโฆษณา และวงการสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเลยทีเดียว สำหรับภาพยนตร์โฆษณา ของ Johnniewalker ประเทศไทย กับผลงานชุดล่าสุด ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ของ "เรวัต พุทธินันทน์" บุคคลผู้พลิกประวัติศาสตร์วงการดนตรีไทย ผู้ล่วงลับ และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่ผลิตศิลปินคุณภาพมากมาย
ภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าว ออนแอร์กันให้ชมผ่านทางโทรทัศน์และ เว็บไซต์ ยูทูบ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งต้องถือว่า ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวกับกระแสตอบรับ ที่ทำให้หลายคน ย้อนรำลึกถึงโปรดิวเซอร์ นักดนตรี นักแต่งเพลงในตำนาน ผู้ปฏิวัติวงการเพลงไทยให้ไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรือง ตั้งแต่เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน จนมีการพูดถึงและแชร์กันในสังคมออนไลน์จำนวนมาก
นอกจากความน่าสนใจ ในการหยิบเรื่องราวของ เต๋อ เรวัต มาถ่ายทอดแล้ว ความพิถีพิถันในขั้นตอนการถ่ายทำ ก็ละเอียด ลงลึกราวกับปลุก ผู้ล่วงลับในตำนาน ให้ฟื้นกลับมาสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน "ก้าว" ตามความฝัน อย่างไม่ทดท้อ เนื่องจากได้ Joseph Kahn (โจเซฟ คานท์) ผู้กำกับระดับโลก และ The Mill ทีม CG จาก Hollywood มาร่วมสร้างสรรค์ให้อย่างสมจริง
ภาพยนตร์โฆษณา การกลับมาของ เต๋อ- เรวัต พุทธินันทน์ จะเป็นเช่นไร และจะทำให้คนรุ่นหลัง ได้รู้จัก "ตัวตน" ในคมความคิดของ ตำนานวงการเพลงไทยแค่ไหน รวมถึงจะย้อนภาพ ความเป็นเต๋อ เรวัต ในการจุดแรงบันดาลใจให้บุคคลผู้คิดถึงได้อย่างไร มติชนออนไลน์ ขออนุญาตนำคลิป โฆษณา และเบื้องหลังมาให้ได้ติดชมกัน ...
สำหรับ ประวัติของ เรวัต พุทธินันท์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2491 ที่กรุงเทพฯ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 6 คน ของนาวาตรีทวีและนางอบเชย พุทธินันทน์ เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชีวิตครอบครัว เรวัต สมรสกับ อรุยา สิทธิประเสริฐ เพื่อนจาก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2517 มีบุตรสาวสองคนคือ สุธาสินี และสิดารัศมิ์
เรวัต พุทธินันทน์ ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง และได้เดินทางไปรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2539 รวมอายุ 48 ปี มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540
อัตชีวิต และเส้นทางดนตรี
เรวัตหัดเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยบิดาบังคับให้เรียนแซกโซโฟน เขากับเพื่อนๆ โรงเรียนเซนต์คาเบรียลตั้งวงดนตรี ชื่อ Dark Eyes ต่อมาเปลี่ยนชื่อวงเป็น Mosrite และเข้าประกวดในงานของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ในปี พ.ศ. 2508 และ 2509 ขณะเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ใน พ.ศ. 2510 ได้ร่วมกับเพื่อนตั้งวง Yellow Red (เหลือง-แดง คือสีประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) เพื่อนในวงคนสำคัญคือ ดนู ฮันตระกูล และจิรพรรณ อังศวานนท์
ต่อมาเรวัตได้ร่วมกับเพื่อนจากธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งวง The Thanks รับแสดงตามงานต่างๆ เน้นดนตรีร็อค เรวัตรับตำแหน่งร้องนำและตีกลอง เพื่อนร่วมวงคนหนึ่งคือ กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา วง The Thanks มีชื่อเสียงได้เล่นสลับกับวงดิอิมพอสซิเบิ้ล ตามไนท์คลับต่างๆ
หลังเรียนจบ เรวัตได้รับการชักชวนให้ร่วมวงดิอิมพอสซิเบิ้ล และเดินทางกับวงไปแสดงที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกาและยุโรป ในตำแหน่งนักร้องนำและเล่นคีย์บอร์ด
เมื่อวงดิอิมพอสซิเบิลประกาศยุบวง เมื่อ พ.ศ. 2520 เขาตั้งวง โอเรียนเต็ลฟังก์ เล่นดนตรีฟังก์ ร่วมกับวินัย พันธุรักษ์ เล่นประจำที่โรงแรมมณเฑียร และตระเวนเปิดการแสดงในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ในระหว่างนั้นเรวัตได้ศึกษาการเขียนเพลงและดนตรีเพิ่มเติม
ในปี พ.ศ. 2526 เรวัตร่วมกับ เพื่อนจากจุฬาฯ อย่าง ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ก่อตั้งบริษัท แกรมมี่ เอนเตอร์เทนเม้นท์ เขาทำหน้าที่ดูแลด้านการผลิตเพลง ใช้เทคนิคการสร้างศิลปินแบบสากล คือขายทั้งความสามารถและภาพพจน์ ทำให้ผลงานของบริษัทประสบความสำเร็จแทบทุกชุด
เต๋อ เรวัต เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งวงการเพลงไทย เป็นโปรดิวเซอร์ นักดนตรี นักแต่งเพลงในตำนาน เป็นผู้ปฏิวัติวงการเพลงไทยให้ไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรือง และผู้ริเริ่มความทันสมัยของดนตรีสมัยใหม่ให้กับประเทศไทย เป็นผู้บุกเบิกแนวเพลงสตริงอันทันสมัยให้กับการเพลงไทย ผู้นำแนวเพลง ร๊อค ป๊อบ แดนซ์ โมเดิร์นแจ๊ส ฟังค์ ฯลฯ เข้ามาเป็นที่นิยมในไทย เป็นผู้มีคุณูปการ มหาศาลแก่วงการเพลงไทย เป็นผู้ปลุกปั้นศิลปินให้มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ เป็นบุคคลตัวอย่าง แรงบันดาลใจให้กับนักร้องนักดนตรีของเมืองไทย มาจวบจนสมัยนี้