คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ให้ลดอัตตา และ เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ความมีชาติภพ
อัตตาความมีมานะถือตัวมันทำให้เราโกรธเวลาที่ผู้อื่นมาทำผิดต่อเรา...เพราะเราถือเนื้อถือตัวว่าใครจะมาทำผิดต่อเราไม่ได้ เรามันวิเศษเหนือคนอื่น ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้วเราก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่ผู้อื่นอาจมาทำผิดต่อเราได้ตลอดเวลา....แม้แต่พระพุทธเจ้าองค์ศาสดาก็ยังมีผู้อื่นมากระทำผิดต่อพระองค์ท่านต่างๆ นาๆ ได้ ไฉนเลยเราคนธรรมดาจะหลุดพ้นไม่มีผู้มากระทำผิดต่อเราได้...ดังนั้นที่เราโกรธนั้นมันจึงเป็นเพราะอัตตามันกำเริบนั้นเอง
และหากคุณเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดตามบุพกรรม คุณจะให้อภัยในกรรมที่ผู้อื่นได้กระทำต่อตนได้โดยง่าย เพราะอย่างไรเสียคนผู้นั้นก็จักต้องได้รับผลแห่งกรรมที่เค้าได้กระทำอยู่ดี จะโกรธแค้นให้เค้าไปหาประโยชน์อันใด
และหากกรรมที่คุณได้รับอยู่เป็นอาจิณนั้น เป็นกรรมที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงเร้นหลบใดๆ ได้ ชะรอยก็น่าจะเป็นกรรมเก่าที่คุณได้เคยทำต่อผู้อื่นไว้....ด้วยอำนาจแห่งกรรมจึงทำให้คุณไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกรรมเหล่านั้นได้ ชาตินี้จึงต้องมีผู้อื่นมาส่งกรรมทำผิดต่อคุณอยู่ทุกวันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้..... เมื่อเข้าใจอย่างนี้คุณก็จะปล่อยวางยอมรับกรรมนั้นไปโดยไม่ก่อเงื่อนกรรมใหม่แก่ตน คือไม่โกรธแค้นผู้ใดไม่โทษผู้อื่น คือยอมรับโดยดุษฎี....เมื่อหมดกรรมเมื่อใดคุณก็หลุดพ้นเมื่อนั้น จะโกรธแค้นผู้อื่นไปหาประโยชน์อันใด
ดังนั้น....การจะทำให้คนปล่อยวางใดๆ ได้ คนๆนั้นก็จะต้องเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นอย่างแจ้งชัดเสียก่อนจึงจะปล่อยวางได้....หากยังคาใจ ไม่เข้าใจ ก็ยากที่จะปล่อยวางได้ เพราะความไม่รู้มันทำให้ยึดติดนั้นเอง
อัตตาความมีมานะถือตัวมันทำให้เราโกรธเวลาที่ผู้อื่นมาทำผิดต่อเรา...เพราะเราถือเนื้อถือตัวว่าใครจะมาทำผิดต่อเราไม่ได้ เรามันวิเศษเหนือคนอื่น ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้วเราก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่ผู้อื่นอาจมาทำผิดต่อเราได้ตลอดเวลา....แม้แต่พระพุทธเจ้าองค์ศาสดาก็ยังมีผู้อื่นมากระทำผิดต่อพระองค์ท่านต่างๆ นาๆ ได้ ไฉนเลยเราคนธรรมดาจะหลุดพ้นไม่มีผู้มากระทำผิดต่อเราได้...ดังนั้นที่เราโกรธนั้นมันจึงเป็นเพราะอัตตามันกำเริบนั้นเอง
และหากคุณเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดตามบุพกรรม คุณจะให้อภัยในกรรมที่ผู้อื่นได้กระทำต่อตนได้โดยง่าย เพราะอย่างไรเสียคนผู้นั้นก็จักต้องได้รับผลแห่งกรรมที่เค้าได้กระทำอยู่ดี จะโกรธแค้นให้เค้าไปหาประโยชน์อันใด
และหากกรรมที่คุณได้รับอยู่เป็นอาจิณนั้น เป็นกรรมที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงเร้นหลบใดๆ ได้ ชะรอยก็น่าจะเป็นกรรมเก่าที่คุณได้เคยทำต่อผู้อื่นไว้....ด้วยอำนาจแห่งกรรมจึงทำให้คุณไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกรรมเหล่านั้นได้ ชาตินี้จึงต้องมีผู้อื่นมาส่งกรรมทำผิดต่อคุณอยู่ทุกวันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้..... เมื่อเข้าใจอย่างนี้คุณก็จะปล่อยวางยอมรับกรรมนั้นไปโดยไม่ก่อเงื่อนกรรมใหม่แก่ตน คือไม่โกรธแค้นผู้ใดไม่โทษผู้อื่น คือยอมรับโดยดุษฎี....เมื่อหมดกรรมเมื่อใดคุณก็หลุดพ้นเมื่อนั้น จะโกรธแค้นผู้อื่นไปหาประโยชน์อันใด
ดังนั้น....การจะทำให้คนปล่อยวางใดๆ ได้ คนๆนั้นก็จะต้องเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นอย่างแจ้งชัดเสียก่อนจึงจะปล่อยวางได้....หากยังคาใจ ไม่เข้าใจ ก็ยากที่จะปล่อยวางได้ เพราะความไม่รู้มันทำให้ยึดติดนั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงถึงจะให้อภัยได้ตลอดเวลา
สำหรับเรา คือถ้าสิ่งที่เขาทำผิดกับเรา มันจบลงไปแล้ว ก็พร้อมจะให้อภัยอยู่แล้ว แต่นี่ถ้าเกิดเขาทำผิดต่อเรา ซ้ำ ทำกับเราทุกวัน เราจะทำใจให้อภัยอย่างไรดีคะ