พิษค่าแรง300บาท "ยันฮี"ร้องรัฐ

ช่วยอยู่นานๆได้ไหม

คริๆ ทำตา ทำจมูก ทำอึ๋ม

โลกมันอยู่ยากขึ้นทุกวัน




"ยันฮี" ถึงขั้นปลื้ม!! อานิสงส์ขึ้นค่าแรง "สาวเหนือ-อีสาน"แห่อัพสวย


ยันฮียิ้มรับอานิสงส์ขึ้นค่าแรง การเมืองนิ่ง สาวไทยกล้าใช้จ่ายควักกระเป๋าอัพสวย พร้อมเพิ่มดีกรีตลาดต่างประเทศ เดินสายโรดโชว์พม่า ลาว สร้างจุดขายใหม่ดึงรักษาผ่าตัดหัวใจ เผยทัวร์คนจีนแห่เที่ยวไทย จับมือบริษัททัวร์จัดแพ็กเกจให้คำปรึกษา-ขายผลิตภัณฑ์ความงาม ชูศัลยกรรมครบวงจรหวังขึ้นแท่นฮับความงามในภูมิภาคเอเชีย

นายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมธุรกิจไตรมาสแรกค่อนข้างดี ทั้งตลาดลูกค้าคนไทยและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศพบว่า นโยบายขึ้นค่าแรง ทำให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น บวกกับสถานการณ์การเมืองนิ่งและไม่มี[/b]ภัยธรรมชาติ ทำให้คนกล้าใช้จ่าย ซึ่งช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์มีผู้สนใจนัดปรึกษาแพทย์ด้านความงามเพิ่มขึ้นจาก 10 คน เป็น 15 คน โดยเฉพาะจากภาคเหนือและอีสาน

ส่วนตลาดต่างประเทศปีนี้มีกลุ่มทัวร์จีนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยจำนวนมากขึ้น และสนใจเข้ามาปรึกษาด้านศัลยกรรมความงามที่ยันฮี โดยส่วนใหญ่นิยมปรึกษาเรื่องศัลยกรรมตกแต่ง สิว ฝ้า เซลลูไลต์ไขมันส่วนเกิน พร้อมซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม อย่างไรก็ตามลูกค้าคนจีนที่เข้ามาใช้บริการยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้มีการทำตลาด แต่เป็นลักษณะของการบอกปากต่อปาก และติดต่อผ่านบริษัททัวร์

"เรื่องการทำศัลยกรรมก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้น คนต่างจังหวัดมีกำลังซื้อดีขึ้น จึงมีความต้องการใช้บริการในโรงพยาบาลที่มีประสบการณ์ มาตรฐาน ส่วนใหญ่เข้ามาทำตาสองชั้น เสริมจมูก หน้าอก ส่วนคนจีนก็น่าสนใจ เพราะประชากรมหาศาล แต่ที่เข้ามาเป็นกลุ่มทัวร์ นิยมซื้อสินค้าความงาม ปรึกษาทำตา 2 ชั้นก็มีบ้าง แต่ผ่าตัดยังน้อย" น.พ.สุพจน์กล่าวและว่า

ทั้งนี้ ยันฮีต้องการเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศให้ขยับไปเป็น 30% จากปัจจุบันลูกค้าคนไทยและต่างประเทศมีสัดส่วนอยู่ที่ 20:80 โดยกลุ่มที่สนใจก็คือลูกค้าพม่า ลาว ออสเตรเลีย โดยเฉพาะตลาดอินโดจีน ซึ่งความพร้อมด้านการสาธารณสุขยังไม่มาก ทั้งนี้จะชูทั้งเรื่องศัลยกรรมความงาม และยังเพิ่มความโดดเด่นเรื่องการรักษาโรคทั่วโป โดยเฉพาะศูนย์หัวใจ ดังนั้นปีนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ โดยบริษัทไปเอง จัดมาแล้ว 2 ครั้ง ที่ลาวและพม่า

ปัจจุบันลูกค้าต่างประเทศมาจากลาว พม่า เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งมองเห็นโอกาสจากเออีซีว่า ชาวต่างชาติจะหลั่งไหลเข้ามามากขึ้น เพราะการเดินทางสะดวก อีกทั้งจุดแข็งของ

ยันฮีที่มีความโดดเด่นด้านศัลยกรรมตกแต่งครบวงจร ตั้งแต่ศีรษะจดเท้า โดยเฉพาะด้านศัลยกรรมแปลงเพศจากหญิงเป็นชาย จึงเชื่อมั่นว่าจะทำให้ก้าวไปสู่การเป็นฮับด้านศัลยกรรมตกแต่งครบวงจรในภูมิภาคเอเชียได้

"ในไทยไม่มีโรงพยาบาลไหนที่มีผ่าตัดแปลงเพศหญิงเป็นชายได้ ส่วนประเทศในเอเชีย ทั้งจีน เกาหลี สิงคโปร์ ยังไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมแปลงเพศ" น.พ.สุพจน์กล่าวและว่า

แบรนด์ยันฮีค่อนข้างแข็งแรงและมีภาพลักษณ์ด้านศัลยกรรมความงาม อย่างไรก็ตามได้ให้น้ำหนักในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบริการทางการแพทย์ด้านอื่น ๆ อาทิ ศูนย์หัวใจ กระดูกสันหลัง นอกจากนี้ยังได้แตกไลน์ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ภายใต้แบรนด์ยันฮี ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมโมเดิร์นเทรด อาทิ เซเว่นฯ วัตสัน แฟมิลี่มาร์ท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและมีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ จากนี้มีแผนเพิ่มรายการสินค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

ส่วนแผนการลงทุนอื่น ๆ ขณะนี้เน้นจัดพื้นที่อาคารอินเตอร์ 2 ซึ่งเป็นตึกเปิดใหม่ โดยจะย้ายแผนกบริการเข้าไปให้เต็มพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้ย้ายบางแผนกเข้าไปแล้วเกือบ 80% ของพื้นที่ตึก อาทิ ศูนย์จุดซ่อนเร้น สูตินรีเวช ทันตกรรม ฝังรากฟันเทียม เป็นต้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง ฝ่ายค้าน พรรคการเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่