เมื่อเอ่ยถึงชื่อ ศรีธนญชัย เชื่อว่าคนไทยทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี..
แต่ความรู้จักนั้นส่วนมากจะนึกถึงแต่ความกะล่อนปลิ้นปล้อนในวาทะกรรมเสียมากกว่า...
ศรีธนญชัย เป็นใคร...
เป็นคนไทย หรือ เป็นคนลาว?
เพราะลาว ก็มี เซียงเมี่ยง เหมือนกันกับ ศรีธนญชัย
เซียงเมี่ยงลาว กับศรีธนญชัยไทย มีพฤติกรรมไม่ต่างกันทั้งคู่
ทั้งวาทศิลป์ในการพูดและการกระทำ ที่ไม่เคยแพ้ใคร
ถ้าจะมองอย่างผิวเผินแล้ว ไม่ต่างอะไรกับคนฉลาดแกมโกงนั่นเอง
แต่ความฉลาดแกมโกงของศรีธนญชัย เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อย
คนไทยรู้จักศรีธนญชัยในฐานะของตลกหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงใดช่วงหนึ่ง ไม่แน่ชัดนัก
แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่า ศรีธนญชัย เป็นตัวละครสมมติขึ้นมา ไม่มีได้มีตัวตนจริงจังอะไร
ผิดกับเซียงเมี่ยง ที่ชาวลาวถือว่ามีตัวตนอยู่จริง
เคยพบปะ และพูดคุยกับนักเขียนลาว และผู้รู้ชาวลาวได้พูดคุยกันถึงนิทานเซียงเมี่ยงนี้บ่อยครั้ง
ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า... เซียงเมี่ยง... ได้มาเสียชีวิตที่เพชรบูรณ์เมืองไทยนี่แหละ
และหลักฐานที่ท่านเล่ายืนยัน ก็อ้างถึงสถานที่แห่งหนึ่ง คือ....วัดแขก...
หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ ศาลาแก้วกู่ อยู่ที่จังหวัดหนองคายนี่เอง
ศาลาแก้วกู่...มีเรื่องราวมากมาย...วันหลังจะเล่าให้ฟัง...
ชาวหนองคายรู้จักศาลาแก้วกู่เป็นอย่างดี คนนอกหนองคายก็ยังพอรู้จักอยู่บ้าง....
ศาลาแก้วกู่เป็นเหมือนอาศรมนักบวช.... มีสิ่งก่อสร้าง เป็นรูปเทพเจ้าของฮินดู ผสมผสานไปกับพระพุทธรูปปะปนกันมากมาย..
และมีเรื่องราวความเป็นมาของสถานที่และผุ้ก่อตั้ง สลับซับซ้อนพอควร..
ที่ศาลาแก้วกู่นี้มีพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมสิ่งของโบราณมากมาย
และ 1 ในจำนวนนั้นคือกะโหลกศีรษะ ที่เขียนบอกไว้ว่า..นี่คือกะโหลกศีรษะเซียงเมี่ยง .....
และผุ้คนส่วนมากก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น...จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบได้...เพราะเป็นความเชื่อตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน
แต่ที่แปลกก็คือ ตัวไปตายอยู่เพชรบูรณ์แล้วใครเป็นคนเอากะโหลกศีรษะมาไว้ที่หนองคาย?
แต่ก็ช่างเหอะ...ปล่อยให้เป็นความเชื่อของชาวบ้านต่อไป...
ความจริงแล้ว ศรีธนญชัย...เซียงเมี่ยง ไม่น่าจะมีอยู่แค่สองเมืองนี่แค่นั้น
ในวรรณกรรมล้านนาก็มี แต่จะมีการแบ่งตัวละครออกเป็นสองตัวด้วยกัน คือ....เซียงเมี่ยง เป็นตัวละครที่ใช้ในการล้อเลียนกษัตริย์
และมีตัว.... กะต๊อกป๋า... อีกตัวหนึ่ง ใช้ในการล้อเลียนพระสมภารเจ้าวัด
ในสิบสองปันนา ก็มี ....ไอ้สุกไอ้สี ..... ญี่ปุ่นมี อิกคิวซัง...
วีรกรรมของตัวละครเหล่านี้ มีเหมือนๆกัน คือการเอาชนะผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าโดยไม่มีความผิด...
ไม่ว่าจะเป็นพระผู้ใหญ่ระดับสมภารเจ้าวัด หรือพระมหากษัตริย์ที่มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดหัวคน
วิธีการเอาชนะแบบขำขัน ตลก เป็นวิธีการที่ชนะแบบสมเหตุสมผล ออกไปในทางขบขันจนผู้แพ้จนปัญญาจะเอาผิดได้
ถ้าเราพินิจพิเคราะห์ให้ดี มองลงไปให้ลึกแล้วจะเห็นได้ว่า...นี่เป็นวิธีการเดียว
ที่สามัญชนจะแสดงออกถึงภูมิปัญญาที่จะถกเถียงเอาชนะกับผู้มีอำนาจโดยไม่ถูกตัดหัว
วาทศิลป์ชนิดปากเป็นเอกของศรีธนญชัย ไม่น่าจะเป็นเพียงแค่ตัวละคร ตลก ทะเล้น กะล่อนแค่นั้น..
น่าจะเป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนของชนชั้นล่าง ที่ต้องการโต้แย้ง กับผู้มีอำนาจระดับสูงในสังคม
ในวัฒนธรรมของชนชาติในตระกูลไท-ลาว หรือชาวเอเชียทั้งมวล...
ที่มีระบบอำนาจครอบงำ จนชาวบ้านธรรมดาทั่วๆไป ไม่อาจเผยอผยอง
ถูกเก็บกด จนต้องแสดงออกในรูปแบบของศรีธนญชัย
ที่พูดจริง ทำจริง เป็นความจริง ที่ไม่มีใครแย้งได้....
หรือใครว่าไม่จริง มากกินกล้วยทั้งใบแข่งกันมั้ย...!!
================ศรีธนญชัย...สัญชาติไทย หรือ ลาว ?=================
แต่ความรู้จักนั้นส่วนมากจะนึกถึงแต่ความกะล่อนปลิ้นปล้อนในวาทะกรรมเสียมากกว่า...
ศรีธนญชัย เป็นใคร...
เป็นคนไทย หรือ เป็นคนลาว?
เพราะลาว ก็มี เซียงเมี่ยง เหมือนกันกับ ศรีธนญชัย
เซียงเมี่ยงลาว กับศรีธนญชัยไทย มีพฤติกรรมไม่ต่างกันทั้งคู่
ทั้งวาทศิลป์ในการพูดและการกระทำ ที่ไม่เคยแพ้ใคร
ถ้าจะมองอย่างผิวเผินแล้ว ไม่ต่างอะไรกับคนฉลาดแกมโกงนั่นเอง
แต่ความฉลาดแกมโกงของศรีธนญชัย เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อย
คนไทยรู้จักศรีธนญชัยในฐานะของตลกหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงใดช่วงหนึ่ง ไม่แน่ชัดนัก
แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่า ศรีธนญชัย เป็นตัวละครสมมติขึ้นมา ไม่มีได้มีตัวตนจริงจังอะไร
ผิดกับเซียงเมี่ยง ที่ชาวลาวถือว่ามีตัวตนอยู่จริง
เคยพบปะ และพูดคุยกับนักเขียนลาว และผู้รู้ชาวลาวได้พูดคุยกันถึงนิทานเซียงเมี่ยงนี้บ่อยครั้ง
ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า... เซียงเมี่ยง... ได้มาเสียชีวิตที่เพชรบูรณ์เมืองไทยนี่แหละ
และหลักฐานที่ท่านเล่ายืนยัน ก็อ้างถึงสถานที่แห่งหนึ่ง คือ....วัดแขก...
หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ ศาลาแก้วกู่ อยู่ที่จังหวัดหนองคายนี่เอง
ศาลาแก้วกู่...มีเรื่องราวมากมาย...วันหลังจะเล่าให้ฟัง...
ชาวหนองคายรู้จักศาลาแก้วกู่เป็นอย่างดี คนนอกหนองคายก็ยังพอรู้จักอยู่บ้าง....
ศาลาแก้วกู่เป็นเหมือนอาศรมนักบวช.... มีสิ่งก่อสร้าง เป็นรูปเทพเจ้าของฮินดู ผสมผสานไปกับพระพุทธรูปปะปนกันมากมาย..
และมีเรื่องราวความเป็นมาของสถานที่และผุ้ก่อตั้ง สลับซับซ้อนพอควร..
ที่ศาลาแก้วกู่นี้มีพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมสิ่งของโบราณมากมาย
และ 1 ในจำนวนนั้นคือกะโหลกศีรษะ ที่เขียนบอกไว้ว่า..นี่คือกะโหลกศีรษะเซียงเมี่ยง .....
และผุ้คนส่วนมากก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น...จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบได้...เพราะเป็นความเชื่อตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน
แต่ที่แปลกก็คือ ตัวไปตายอยู่เพชรบูรณ์แล้วใครเป็นคนเอากะโหลกศีรษะมาไว้ที่หนองคาย?
แต่ก็ช่างเหอะ...ปล่อยให้เป็นความเชื่อของชาวบ้านต่อไป...
ความจริงแล้ว ศรีธนญชัย...เซียงเมี่ยง ไม่น่าจะมีอยู่แค่สองเมืองนี่แค่นั้น
ในวรรณกรรมล้านนาก็มี แต่จะมีการแบ่งตัวละครออกเป็นสองตัวด้วยกัน คือ....เซียงเมี่ยง เป็นตัวละครที่ใช้ในการล้อเลียนกษัตริย์
และมีตัว.... กะต๊อกป๋า... อีกตัวหนึ่ง ใช้ในการล้อเลียนพระสมภารเจ้าวัด
ในสิบสองปันนา ก็มี ....ไอ้สุกไอ้สี ..... ญี่ปุ่นมี อิกคิวซัง...
วีรกรรมของตัวละครเหล่านี้ มีเหมือนๆกัน คือการเอาชนะผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าโดยไม่มีความผิด...
ไม่ว่าจะเป็นพระผู้ใหญ่ระดับสมภารเจ้าวัด หรือพระมหากษัตริย์ที่มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดหัวคน
วิธีการเอาชนะแบบขำขัน ตลก เป็นวิธีการที่ชนะแบบสมเหตุสมผล ออกไปในทางขบขันจนผู้แพ้จนปัญญาจะเอาผิดได้
ถ้าเราพินิจพิเคราะห์ให้ดี มองลงไปให้ลึกแล้วจะเห็นได้ว่า...นี่เป็นวิธีการเดียว
ที่สามัญชนจะแสดงออกถึงภูมิปัญญาที่จะถกเถียงเอาชนะกับผู้มีอำนาจโดยไม่ถูกตัดหัว
วาทศิลป์ชนิดปากเป็นเอกของศรีธนญชัย ไม่น่าจะเป็นเพียงแค่ตัวละคร ตลก ทะเล้น กะล่อนแค่นั้น..
น่าจะเป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนของชนชั้นล่าง ที่ต้องการโต้แย้ง กับผู้มีอำนาจระดับสูงในสังคม
ในวัฒนธรรมของชนชาติในตระกูลไท-ลาว หรือชาวเอเชียทั้งมวล...
ที่มีระบบอำนาจครอบงำ จนชาวบ้านธรรมดาทั่วๆไป ไม่อาจเผยอผยอง
ถูกเก็บกด จนต้องแสดงออกในรูปแบบของศรีธนญชัย
ที่พูดจริง ทำจริง เป็นความจริง ที่ไม่มีใครแย้งได้....
หรือใครว่าไม่จริง มากกินกล้วยทั้งใบแข่งกันมั้ย...!!