ความจริงแล้วไม่ได้จะมาค้างคืนที่นี่ หรือที่ไหนหรอกนะขอบอก แต่บังเอิญมาทำธุระที่พัทยากับพี่กัน 2 คน เสร็จแล้วกะว่าจะไปเที่ยวเขาแกะสลักพระ หรือเขาชีจรรย์ กับไร่องุ่นซิลเวอร์เลคซะหน่อย จึงขับรถจากพัทยาไปจุดหมายประมาณ 15 – 20 นาที ก่อนเลี้ยวเข้าจุดหมายได้ติดไฟแดง สายตาก็เหลือบไปเจอกับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ของซันเซ็ทพาร์ค รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งสะดุดตามากตรงที่มีรีสอร์ทกลางป่าและติดทะเลแบบนี้เหลืออยู่ในพัทยาด้วยเหรอ  ได้เรื่องเลยอีก 500 ม.เลี้ยวขวา ดังนั้นจุดหมายปลายทางของเราจึงเปลี่ยนไปทันที

  

ถึงแล้วทางเข้ารีสอร์ทครับ

มาถึงตัวรีสอร์ทแล้วครับ แค่ทางเข้าก็น่าติดตามแล้ว สองข้างทางถูกโอบล้อมด้วยต้นกระถินยักษ์ มองดูแล้วคล้ายอุโมงค์ธรรมชาติ สวยมากๆ เลยครับ

เส้นทางนี้แหละจะนำคุณไปสู่ทะเล  ไม่น่าเชื่อเลยเน๊อะ

ซุ้มทางเข้า Lobby ต้องเดินผ่านคลองด้วยแหละ

นี่เป็นวิวที่มองจากสะพานครับ อ้อ ที่นี่มีบ้านริมคลอง พร้อมเรือให้พายได้ด้วยครับ (ถ้าพายเป็น)

นี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งของฝั่งสะพาน


Reception ยินดีต้อนรับคร๊าบบบบบบ


พนักงานต้อนรับเราด้วยWelcome drink น้ำพั้นซ์ และผ้าเย็น ไว้คลายร้อน


ต่อด้วยอีกมุมหนึ่งของLobby ซึ่งบริเวณนี้ Free WIFI ตลอด 24 ชม. อุ๊ย! เหมือน 7-11 เลยอ่ะ


นอกจากนี้ที่ Lobby ยังมีมุมให้นั่งเล่นอีกมุมหนึ่งด้วย ซึ่งผมคิดว่าเป็นมุมนั่งดริ๊งก็ไม่เลวนะ


นอกจากนี้ยังมีร้านขายของเบ็ดเตล็ด ของใช้ส่วนตัวก็หาซื้อได้ที่นี่ครับ


หลังจากเช็คอินแล้ว พนักงานได้พานั่งรถกอล์ฟไปส่งที่ห้องครับ นี่เป็นบรรยากาศก่อนถึงห้องพัก


อีกหลังหนึ่งของบ้านริมคลองส่วนตัวเย็นสบายด้วยสายน้ำพร้อมเรือน้อย...........คอยรัก


ถัดมาเป็นบ้านพักโซนซีบรีซรวมตัวกลมกลืนท่ามกลางหมู่แมกไม้


และแล้วก็มาที่ตัวผม ซึ่งเลือกห้องพักแบบ Bay View เป็นห้องพักแบบที่ติดสระว่ายน้ำ มองเห็นทะเลชัดเจน เราไปชมบรรยากาศภายในห้องพักกันเลยดีกว่าครับ


ห้องพักที่นี่ หากเลือกเป็นเตียง Twin จะเป็นแบบเตียงเล็ก 1 เตียง และเตียงใหญ่ 1 เตียง เหมาะมากสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เพราะจะได้ไม่ต้องนอนเบียดกันบนเตียงใหญ่เตียงเดียว


นี่เป็นบรรยากาศที่มองออกมาจากระเบียงหน้าห้องครับ


ลมพัดเย็นๆ เครื่องดื่มเย็นๆ บรรยากาศตอนเย็น วิวสวย สุขแบบนี้จะหาที่ไหนปาน


ต่อไปเรามาดูกันว่าในห้องพักมีอะไรกันบ้าง เริ่มกันด้วย มินิบาร์ มุมนี้สำหรับคอเหล้าและคอกาแฟ พร้อมสรรพสำหรับคุณ คนชอบดื่ม


ในตู้เย็นพร้อมเสมอ เปิดฝาขวดก็จัดเต็มได้เลย

  
โซนแต่งตัวซึ่งแยกมาจากห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วน


ในตู้เสื้อผ้า มีตู้Save ไว้สำหรับเก็บของมีค่า


อีกฝั่งหนึ่งขอตู้เสื้อผ้ามีร่ม (ไปไหนไปกันไม่กลัวฝนกลัวแดดอยู่แล้ว)


ส่วนห้องน้ำเป็นแบบ Out door จะมีผ้าเช็ดตัวแยก 2 สี สีชมพูสำหรับใช้ที่สระน้ำ ส่วนสีขาวใช้ในห้องพัก ส่วนผมใช้ 2 สีรวมกันเลยครับ


ส่วนนี่เป็นชุดอาบน้ำที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ อ้อ มีแปรงสีฟันด้วย พอดีเลยผมไม่ได้พกอะไรมาเลย ^^


ตรงชักโครกจะอยู่ด้านใน นั่งไป ชมวิวไป ในช่วงเวลาที่.......มีความสุขจุงเบยยยยยยยย


ห้องน้ำแบบ Out door บรรยากาศเบาหวิว โหลงเหลง แต่ก็ช๊อบ...ชอบ คร๊าบบบบบ


ส่วนย่อมในห้องน้ำจัดได้อย่างลงตัว


ตอนเช้า เราไปที่ห้องอาหารกัน หิวแล้วคร๊าบ ป่ะไปกันเลย


สะดุดตากับผักสลัดสีสันสดสวย และมีให้เลือกมากมาก อีกอย่างเป็นผักปลอดสารพิษด้วยครับ


โอ้ววววว เช้านี้ต้มเลือดหมู ทำกันสดๆ ร้อนๆ ช่างเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดเลย โดยเฉพาะคอเหล้า และเมาค้างแบบผม


คนไทยแบบเรา ต้องนี่เลยน้ำเต้าหู้ – ปาท่องโก๋ คู่กั๊น คู่กัน


ขนมปังมีให้เลือกมากมาย การันตรีโดยเชฟใหญ่


ตามนั้นเลย สำหรับคนชอบเบเกอร์รี่


นม......นมเปรี๊ยว


อาหารไทยก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน


จะรับขนมจีบ ซาลาเปาด้วยมั้ยค๊ะ


เป็นรีสอร์ทที่กว้างและสวย ฉะนั้นจึงต้องมีเจ้านี่แหละ สำหรับปั่นเล่นและชมวิวทะเลและสวนป่า แจ่มว๊าว!!

  
นอกจากนี้ยังมีท่าเรือ สำหรับท่านที่ไม่ได้พักบ้านริมคลองก็สามารถพายเรือเล่นได้เช่นกัน


อาจจะดูเหมือนเป็นการให้อาหารปลา แต่ขอโทษเป็นการให้อาหารเป็ดก๊าบบบ


กาบ กาบ เป็ดอาบน้ำในคลอง ปลาก็จ้องแลมอง เพราะในคลองมีหอยปูปลา (เป็ดด้วย) น่าร๊อคอ่า


สนามเด็กเล่น (ผู้ใหญ่ก็เล่นได้)


พื้นที่ตรงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เกิน 12 ปี ครับ


มีสนามพัทกอล์ฟด้วย

  
เจอแล้ว หลุม 19 อยู่นี่เอง เย้!!