ครั้งแรกกับประสบการณ์ปล่อยปลาแบบฮาร์ดคอร์กับครอบครัว

ขอเล่าสู่กันฟังค่ะ
ชีวิตที่ผ่านมาเคยได้ยินได้ฟังเรื่องทำบุญปล่อยนก ปล่อยปลามาก็มาก
ส่วนมากที่เคยรับรู้คือ เราไปตามท่าน้ำตามวัด
มีคนขายปลา (คล้ายๆ ปลาไหล) ไว้บริการให้ปล่อยตรงท่าน้ำนั่นแหละ
หรือคนหิ้วกรงนกหลายๆกรง (ข้างในเป็นนกกระจอกมั้ง?) ให้ซื้อปล่อย
แต่เราไม่ได้คิดจะทำบุญแบบนี้เท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเป็นธุรกิจแปลกๆ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดคุณพ่อบ้าน ปกติเราก็ชวนกันไปทำบุญใส่บาตรที่วัด
พอดีเมื่อเร็วๆนึ้ ได้อ่านเจอหรือมีคนทักทางทีวีเนี่ยแหละ
ว่าเราน่าจะต้องทำบุญเกี่ยวกับสัตว์ หรือไถ่ชีวิตสัตว์อะไรประมาณนี้
ก็เลยเสนอไอเดียว่าปีนี้เราเปลี่ยนมาทำบุญปล่อยปลากันดูมั้ย
และเราก็นึกถึงที่แม่เราเคยบอกไว้นานแล้วว่า ถ้าอยากจะช่วยปลาก็ต้องไปซื้อปลาที่ตลาดมาปล่อยเลย

ว่าแล้ว เช้าวันเสาร์ 3 พ่อ แม่ ลูก ก็ชวนกันไปตลาดสด
เมื่อมาถึงแผงขายปลา เราก็เห็นมีปลาช่อนตัวใหญ่ยักษ์ กับปลาดุก มากมายหลายตัว ดิ้นดุกดิก อยู่บนถาดขนาดใหญ่สีเงิน
เราก็กระหยิ่มยิ้มย่องว่า อือมม มาถูกทางแล้ว เจ้าพวกนี้แหละ จะได้รอดชีวิตจากการถูกซื้อไปทำต้มยำทำแกง
ยังไม่ทันจะอ้าปากสั่งซื้อ เพราะมัวอ่านรายการราคาหน้าแผงอยู่ ทันได้นั้น ก็ได้ยินเสียง

ป้าบ ป้าบ !!

เรากับลูกก็หันมองตาม คุณแม่ค้าหน้าตายิ้มแย้ม พูดจาอ่อนหวาน ทักทายลูกค้าไปพลาง
ในมือเธอมีไม้หน้าสาม ทุบหัวปลา ไปพลาง  อมยิ้ม08
วินาทีนั้นเรา ลูกยืนช็อคตัวแข็ง มองดูกิจกรรมการทุบหัวปลา แล้วจับมาสับหัวด้วยปังตออย่างแคล่วคล่องของเธอ

อยากจะบอกว่าเราอาจจะไม่ใช่คนเข้าตลาดสดบ่อยซักเท่าไหร่ เพราะทำกับข้าวไม่เก่ง
เรื่องทำอาหารจากปลาสดนี่ไม่เคย (เป็นแต่ทอดปลาทู)
เราเลยไม่เคยสังเกตมาก่อนว่ามีกิจกรรมอย่างว่าตามแผงปลาสด
เหลียวไปมองแผงอื่นๆใกล้เคียง ก็เจอเกมการทุบหัวปลาอย่างเมามันไม่ต่างกัน

คุณพ่อบ้านเห็นความไวในการทุบหัวปลาแบบวินาทีละ 3 ตัว รีบพูดสั่งรัวเร็ว
"เอาปลาช่อน 2 ตัว ปลาดุก 5 ตัว เอาปลาเป็นนะ"
คุณแม่ค้าหยิบปลาด้วยมือเปล่าอย่างว่อง ยัดใส่ถุงพลาสติกซ้อนสอง
"ใส่น้ำให้ด้วยครับ"
เรียบร้อย ปลา 7 ตัว ในถุงพลาสติก 3 ถุงมีน้ำหล่อเลี้ยงซักคืบนึง จ่ายไป เกือบๆ 300 บาท

หลังจากนั้น  เราก็รีบบึ่งไปหาที่ปล่อยตามท่าน้ำที่ใกล้ที่สุด
คุณแม่ค้าเธอผูกปากถุงไว้ซะสนิท เราก็กลัวว่ามันจะรอดก่อนถึงท่าน้ำรึเปล่า
ระหว่างอยู่ในรถ นั่งกันแบบบรรยากาศมาคุ เงียบใบ้กันไปหมด มีแต่เสียงปลาในถุงดิ้นเป็นระยะๆ
ตัวเรานั่งนึกแต่ภาพการสังหารหมู่ที่แผงปลา ภาพย้อนกลับไปกลับมา
เราซื้อมาแค่ 7 ตัว แต่แผงนั้นยังเหลืออีกหลายสิบ ก็ช่วยได้เท่านี้
สงสารแม่ค้าด้วย ที่เค้าต้องทำงานแบบนี้ เค้าคงรู้ว่าซื้อไปปล่อย เพราะลดราคาให้ด้วย

ไปท่าน้ำแรก เตรียมการจะปล่อยแล้ว เหลือบไปเห็น 2 หนุ่ม ยืนวางเบ็ดอยู่ อมยิ้ม20
ก็ล่าถอยมา ขับไปหาที่ใหม่ ไปเจอศาลเจ้าจีนแห่งหนึ่ง
มีท่าน้ำ มีบันไดเดินลงอย่างดี มีป้ายเขตอภัยทาน ก็โอเค ที่นี่แหละ
แล้วพวกเราก็จัดการสุมหัว แกะปลา 3 ถุง ค่อยๆหย่อนไป รอดแล้วนะเจ้าปลา เกือบโดนทุบหัวแล้ว
ขอให้รอดไปนานๆ ออกลูกออกหลานไปอีกนะ

ประหลาดมากเจ้าปลาหลุดจากถุง ยังไม่ว่ายหนีไปไหน แต่มาว่ายลอยอยู่ตรงหน้าพวกเราพักนึง แล้วค่อยไป
สงสัยมันจะบอกขอบใจมั้ง

จบแล้วค่ะ ประสบการณ์ปล่อยปลา ปฏิบัติการกู้ชีวิต รู้สึกดีมาก เลยมาแชร์ให้อ่านด้วย
เขียนเล่ามาซะยืดยาวก็เพราะไม่อยากเก็บไว้แต่ในใจ อมยิ้ม36
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่