ขึ้นชื่อว่า "หนังไทย" ย่อมผ่านความสำเร็จ ความสำเร็จที่ว่าก็น่าจะมาจาก รางวัล ที่ประกันด้วยฝีมือ หรือไม่ก็ "เงิน" ที่ประกันด้วยความนิยมชมชอบของผู้ชม หรือทั้งสองอย่างควบคู่กันไป
และหนังไทยผ่านความนิยมระดับร้อยล้านกันมาแล้ว หากจำกันได้ "นางนาก" ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เข้าฉายในประเทศตัวเองแล้วเก็บรายได้จากการเข้าชมในระดับ 100 ล้านบาทเป็นเรื่องแรก ซึ่งได้บันทึกไว้เป็นประวัติการณ์
ภาพยนตร์เรื่อง นางนาก เข้าฉายในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ปี 2542 ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูฝน
จนทำให้ "วินัย ไกรบุตร" และ "ทราย เจริญปุระ" นักแสดงคู่พระ-นางของผลงานเรื่องดังกล่าว ได้รับการขนานนามให้ว่า "พระเอกร้อยล้าน" และ "นางเอกร้อยล้าน" เป็นรายแรก
จวบจนถึงวันนี้...วันที่ภาพยนตร์เรื่อง
"พี่มาก..พระโขนง" หรือที่น่าจะเรียกขานอย่างขำขันว่า-นางนากในชาติต่อมา เพราะเรื่องนี้ทำรายได้ฝ่าด่าน "ร้อยล้าน" เช่นกัน และยิ่งกว่านั้นก็สามารถทุบสถิติจากหนังเรื่องนางนากในชาติก่อนได้สำเร็จด้วยรายได้เข้าหลัก 200 ล้านบาทไปแล้ว
ทำให้ผู้เป็นพี่มากอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" ขึ้นแท่นพระเอก(สอง)ร้อยล้านอย่างเต็มตัว พร้อมด้วยนางนาก "ดาวิกา โฮร์เน่" ที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกบนจอเงิน ก็เป็นนางเอกร้อยล้านไปด้วย รวมถึงเหล่านักแสดงประกอบของเรื่อง ก็พลอยเป็นดาราร้อยล้านตามไปด้วย
เช่นเดียวกับผู้กำกับของเรื่องอย่าง "โต้ง-บรรจง" ก็ได้ฉายาผู้กำกับหลายร้อยล้าน จากผลงานที่ผ่านมาที่มักทำรายได้ในระดับเดียวกัน
ภาพยนตร์เรื่อง พี่มาก..พระโขนง เข้าฉายในช่วงเดือนมีนาคม มาถึงเดือนเมษายน ปี 2556
อันเป็นช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะต่อการดูหนังได้อย่างคึกคักที่สุด และการดูหนังก็น่าจะเป็นวิธีหนึ่งของการคลายร้อนกันไปแล้ว
เช่นเดียวกับโรงภาพยนตร์ ก็เป็นสถานที่ที่เหมาะต่อการพักผ่อนหย่อนใจ บันเทิงใจ และคลายร้อนได้ดีที่สุด เพราะทั่วทั้งทุกโรงจะติดตั้งด้วยเครื่องแอร์
สำหรับ "พี่มาก..พระโขนง" นี่ไม่ใช่เป็นหน้าแรกของประวัติวงการหนังไทย ในฐานะหนังไทยที่เข้าฉายในฤดูร้อนแล้วทำรายได้ทะลุร้อยล้านบาท
เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีหนังไทยที่ฉายในฤดูร้อนแล้วทำรายได้ในระดับเดียวกันนี้ มาหลายเรื่องแล้ว (ช่วงฤดูร้อนในที่นี้ คือภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม)
ใครสอบผ่านบ้าง...
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1-2-3
ภาพยนตร์ชุดแนวแอ็คชั่นอิงประวัติศาสตร์ที่ลงทุนสร้างมหาศาล โดย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ "ท่านมุ้ย" สร้างมาแล้ว 4 ครั้ง เหลือเพียงครั้งสุดท้ายที่ยังดำเนินการสร้างไม่เสร็จและยังไม่เข้าฉาย งานชุดนี้ได้โอกาสเข้าฉายในช่วงฤดูร้อน ด้วยผลงานในภาค 2 ตอน ประกาศอิสรภาพ ซึ่งเริ่มฉายเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550 และภาค 3 ตอน ยุทธนาวี เริ่มฉายวันที่ 31 มีนาคม 2554 รวมถึงผลงานในภาคแรก ที่มีชื่อตอนว่า องค์ประกันหงสา ที่เริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2550 ผ่านเข้าเดือนกุมภาพันธ์ ปรากฏว่าในแต่ละครั้งก็เก็บรายได้จากการฉายด้วยจำนวนเงินระดับ 200 ล้านบาททั้งนั้น ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรก(หรือชุดแรก)ที่ทำรายได้ในระดับสองร้อยล้านบาท ก่อนจะถึงเรื่องพี่มากฯ
มือปืน โลก/พระ/จัน
ก่อนหน้านั้นมีหนังตลกเชิงแอ็คชั่น จากการสร้างของ "อาวอง" ในเครือบริษัท อาร์เอส ที่รวมพลดาวตลกระดับฮอตอย่าง "เทพ โพธิ์งาม", "หม่ำ จ๊กมก", "เท่ง เถิดเทิง" และ "ถั่วแระ เชิญยิ้ม" มาแสดงเป็นตัวละครหลักร่วมกับพระเอกนักร้องอย่าง "สมชาย เข็มกลัด" เริ่มฉายเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2544 (ครบรอบ 12 ปีพอดี) สามารถทำรายได้มากกว่า 120 ล้านบาท ตามด้วยรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี หรือ "ตุ๊กตาทอง" ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(สมชาย) และนักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยม(เทพ) ก็นับเป็นผลงานภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวของ อาร์เอส ที่ทำรายได้ระดับร้อยล้าน และยังเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของ "ต้อม-ยุทธเลิศ" ที่ฟลุคขึ้นมาเป็นผู้กำกับร้อยล้านอีกคน
หลวงพี่เท่ง
ต่อมามีหนังแนวตลกที่แฝงด้วยบรรยากาศของธรรมะ ซึ่ง "โน้ต เชิญยิ้ม" กับ "พระนครฟิลม์" สร้างไว้แล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งที่ทำรายได้ได้มากที่สุดก็อยู่ที่ผลงานในภาคแรก ที่มี "เท่ง เถิดเทิง" เป็นนักแสดงนำตามชื่อเรื่อง เริ่มฉายวันที่ 3 มีนาคม 2548 ปรากฏว่าเมื่อหนังเข้าฉายได้เพียงสัปดาห์เดียวก็ทำรายได้ผ่านหลัก 100 ล้านบาท แล้วสิ้นสุดที่รายได้ถึง 141 ล้านบาท นับเป็นผลงานเพียงเรื่องเดียวของบริษัท พระนครฟิลม์ ที่ทำรายได้ระดับร้อยล้าน..จนถึงทุกวันนี้
ลัดดาแลนด์
หนังแนวสยองขวัญที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ซึ่งได้ "ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา" และ "ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก(มิตรธีรโรจน์)" เป็นตัวชูโรง เริ่มฉายวันที่ 28 เมษายน 2554 ก็สามารถฉลองรายได้รับซัมเมอร์ด้วยจำนวนเกือบ 120 ล้านบาท นับเป็นผลงานจากค่าย "จีทีเอช" โดยการกำกับภาพยนตร์ของ "จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์" ที่ประสบผลสำเร็จอย่างสวยงามทั้งรายได้และรางวัลอีกมาก
นี่คือ การเดินทางของ "หนังไทย-ฉายหน้าร้อน-รายได้ร้อยล้าน" จากก้าวแรกถึงก้าวปัจจุบัน มันส์แก้ร้อน สวัสดี..
พลิกประวัติ "หนังไทย-หน้าร้อน-ร้อยล้าน" >>
และหนังไทยผ่านความนิยมระดับร้อยล้านกันมาแล้ว หากจำกันได้ "นางนาก" ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เข้าฉายในประเทศตัวเองแล้วเก็บรายได้จากการเข้าชมในระดับ 100 ล้านบาทเป็นเรื่องแรก ซึ่งได้บันทึกไว้เป็นประวัติการณ์
ภาพยนตร์เรื่อง นางนาก เข้าฉายในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ปี 2542 ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูฝน
จนทำให้ "วินัย ไกรบุตร" และ "ทราย เจริญปุระ" นักแสดงคู่พระ-นางของผลงานเรื่องดังกล่าว ได้รับการขนานนามให้ว่า "พระเอกร้อยล้าน" และ "นางเอกร้อยล้าน" เป็นรายแรก
จวบจนถึงวันนี้...วันที่ภาพยนตร์เรื่อง "พี่มาก..พระโขนง" หรือที่น่าจะเรียกขานอย่างขำขันว่า-นางนากในชาติต่อมา เพราะเรื่องนี้ทำรายได้ฝ่าด่าน "ร้อยล้าน" เช่นกัน และยิ่งกว่านั้นก็สามารถทุบสถิติจากหนังเรื่องนางนากในชาติก่อนได้สำเร็จด้วยรายได้เข้าหลัก 200 ล้านบาทไปแล้ว
ทำให้ผู้เป็นพี่มากอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" ขึ้นแท่นพระเอก(สอง)ร้อยล้านอย่างเต็มตัว พร้อมด้วยนางนาก "ดาวิกา โฮร์เน่" ที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกบนจอเงิน ก็เป็นนางเอกร้อยล้านไปด้วย รวมถึงเหล่านักแสดงประกอบของเรื่อง ก็พลอยเป็นดาราร้อยล้านตามไปด้วย
เช่นเดียวกับผู้กำกับของเรื่องอย่าง "โต้ง-บรรจง" ก็ได้ฉายาผู้กำกับหลายร้อยล้าน จากผลงานที่ผ่านมาที่มักทำรายได้ในระดับเดียวกัน
ภาพยนตร์เรื่อง พี่มาก..พระโขนง เข้าฉายในช่วงเดือนมีนาคม มาถึงเดือนเมษายน ปี 2556
อันเป็นช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะต่อการดูหนังได้อย่างคึกคักที่สุด และการดูหนังก็น่าจะเป็นวิธีหนึ่งของการคลายร้อนกันไปแล้ว
เช่นเดียวกับโรงภาพยนตร์ ก็เป็นสถานที่ที่เหมาะต่อการพักผ่อนหย่อนใจ บันเทิงใจ และคลายร้อนได้ดีที่สุด เพราะทั่วทั้งทุกโรงจะติดตั้งด้วยเครื่องแอร์
สำหรับ "พี่มาก..พระโขนง" นี่ไม่ใช่เป็นหน้าแรกของประวัติวงการหนังไทย ในฐานะหนังไทยที่เข้าฉายในฤดูร้อนแล้วทำรายได้ทะลุร้อยล้านบาท
เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีหนังไทยที่ฉายในฤดูร้อนแล้วทำรายได้ในระดับเดียวกันนี้ มาหลายเรื่องแล้ว (ช่วงฤดูร้อนในที่นี้ คือภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม)
ใครสอบผ่านบ้าง...
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1-2-3
ภาพยนตร์ชุดแนวแอ็คชั่นอิงประวัติศาสตร์ที่ลงทุนสร้างมหาศาล โดย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ "ท่านมุ้ย" สร้างมาแล้ว 4 ครั้ง เหลือเพียงครั้งสุดท้ายที่ยังดำเนินการสร้างไม่เสร็จและยังไม่เข้าฉาย งานชุดนี้ได้โอกาสเข้าฉายในช่วงฤดูร้อน ด้วยผลงานในภาค 2 ตอน ประกาศอิสรภาพ ซึ่งเริ่มฉายเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550 และภาค 3 ตอน ยุทธนาวี เริ่มฉายวันที่ 31 มีนาคม 2554 รวมถึงผลงานในภาคแรก ที่มีชื่อตอนว่า องค์ประกันหงสา ที่เริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2550 ผ่านเข้าเดือนกุมภาพันธ์ ปรากฏว่าในแต่ละครั้งก็เก็บรายได้จากการฉายด้วยจำนวนเงินระดับ 200 ล้านบาททั้งนั้น ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรก(หรือชุดแรก)ที่ทำรายได้ในระดับสองร้อยล้านบาท ก่อนจะถึงเรื่องพี่มากฯ
มือปืน โลก/พระ/จัน
ก่อนหน้านั้นมีหนังตลกเชิงแอ็คชั่น จากการสร้างของ "อาวอง" ในเครือบริษัท อาร์เอส ที่รวมพลดาวตลกระดับฮอตอย่าง "เทพ โพธิ์งาม", "หม่ำ จ๊กมก", "เท่ง เถิดเทิง" และ "ถั่วแระ เชิญยิ้ม" มาแสดงเป็นตัวละครหลักร่วมกับพระเอกนักร้องอย่าง "สมชาย เข็มกลัด" เริ่มฉายเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2544 (ครบรอบ 12 ปีพอดี) สามารถทำรายได้มากกว่า 120 ล้านบาท ตามด้วยรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี หรือ "ตุ๊กตาทอง" ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(สมชาย) และนักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยม(เทพ) ก็นับเป็นผลงานภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวของ อาร์เอส ที่ทำรายได้ระดับร้อยล้าน และยังเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของ "ต้อม-ยุทธเลิศ" ที่ฟลุคขึ้นมาเป็นผู้กำกับร้อยล้านอีกคน
หลวงพี่เท่ง
ต่อมามีหนังแนวตลกที่แฝงด้วยบรรยากาศของธรรมะ ซึ่ง "โน้ต เชิญยิ้ม" กับ "พระนครฟิลม์" สร้างไว้แล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งที่ทำรายได้ได้มากที่สุดก็อยู่ที่ผลงานในภาคแรก ที่มี "เท่ง เถิดเทิง" เป็นนักแสดงนำตามชื่อเรื่อง เริ่มฉายวันที่ 3 มีนาคม 2548 ปรากฏว่าเมื่อหนังเข้าฉายได้เพียงสัปดาห์เดียวก็ทำรายได้ผ่านหลัก 100 ล้านบาท แล้วสิ้นสุดที่รายได้ถึง 141 ล้านบาท นับเป็นผลงานเพียงเรื่องเดียวของบริษัท พระนครฟิลม์ ที่ทำรายได้ระดับร้อยล้าน..จนถึงทุกวันนี้
ลัดดาแลนด์
หนังแนวสยองขวัญที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ซึ่งได้ "ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา" และ "ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก(มิตรธีรโรจน์)" เป็นตัวชูโรง เริ่มฉายวันที่ 28 เมษายน 2554 ก็สามารถฉลองรายได้รับซัมเมอร์ด้วยจำนวนเกือบ 120 ล้านบาท นับเป็นผลงานจากค่าย "จีทีเอช" โดยการกำกับภาพยนตร์ของ "จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์" ที่ประสบผลสำเร็จอย่างสวยงามทั้งรายได้และรางวัลอีกมาก
นี่คือ การเดินทางของ "หนังไทย-ฉายหน้าร้อน-รายได้ร้อยล้าน" จากก้าวแรกถึงก้าวปัจจุบัน มันส์แก้ร้อน สวัสดี..