ดิฉันพึ่งกลับมาจากไปเที่ยวคะ รายละเอียดไว้มาลงให้อ่านที่หลังแต่ขอเตือนเพื่อนๆ ที่กำลังจะไปพรุ่งนี้หรือวันอื่นๆ ที่มาอ่านเจอว่าระวังตัวให้มากคะ มันน่ากลัวจริงๆ
พอดีเมื่อคืนกลับบ้านดึกมากเลยไม่ทันเล่ารายละเอียด มาเล่าต่อเลยนะคะ
ดิฉันเป็นสมาชิกห้องบลูคะรักการท่องเที่ยว เห็นกระทู้ไหนที่เพื่อนๆไปมาก็อยากจะไปบ้าง เห็นรีวิวเวียดนามก็อยากไปมากคะ ทะเลทรายมุยเน่
เลยทำการจองเที่ยวบินของแอร์โปร0บาทไป ไปมาเมื่อวันที่ 2-4 เมษายน 56 นี้คะ ก่อนไปดิฉันก็ดูข้อมูลการท่องเที่ยวจากในกระทู้ของเพื่อนๆ
ประกอบกับเวปอื่นๆ แต่พิมพ์แค่ มุยเน่ โฮจิมินทร์ ไม่เจอภัยอันตรายอะไรที่ให้อ่านคะ ทุกอย่างดูดีสวยงามหมด ประกอบกับไม่เคยเที่ยวต่างประเทศ
และไม่เคยรู้ภัยมืดต่างๆ มาเลยจนกระทั่งวันไปถึง
เช้าของวันที่ 2 เมษายน ดูจากแผนที่ที่จัดไว้ก็เดินตามหาทัวร์ของบ.เวียตซี แต่หาไม่เจอคะเดินพักใหญ่ก็ใจไม่ดีหรือจะหลง ประกอบกับมี3ล้อมาถาม
และเสนอตัวไปส่งให้ด้วยเงินราคาหนึ่งหมื่นห้าพันด่อง เท่ากะประมาณเงินไทยเพียง 20กว่าบาท เราก็ตกลงนั่งกันไปคะ 3สาว คนละคัน ตอนที่ดิฉันนั่งรถอยู่จะเอากล้องออกมาถ่ายรูปเพื่อนข้างหน้า แต่สามล้อถีบข้างหลังรีบจับมือและกล้องลงไปไว้ในกระเป๋ากล้องตามเดิมไม่ให้ถ่ายรูป ก็ยังงงๆแต่ไม่ได้คิดอะไร พอถีบไม่มาไม่นานก็เจอ บ.ทัวร์ของเวียตซีซึ่งอยู่ใกล้มาก จนเราคิดว่าทำไมไม่เดินอดทนต่อมาอีกสักนิดนะ แต่ก็ไม่เป็นไรควักเงินจ่าย แต่ว่าสามล้อ 3 นายบอกราคา แสนห้าหมื่นด่อง หรือตกเป็นเงินไทยก็ 2ร้อยกว่าบาทคะเรางงมากตอนขึ้นบอกหมื่น ขาลงบอกแสนกว่า เถียงกันพักใหญ่ ฝ่ายชาย 3 คนก็ตา สีหน้าเอาเรื่องให้จ่าย เราเลยตัดสินใจจ่ายไปเพราะมันไม่ใช่บ้านเรา กลัวเขาจะทำร้าย คิดเสียว่าเสียรู้ไป
จบ1 เรื่องคะกับการโดนโกง ที่นี้มาต่อด้วยเรื่องการโดนกระชากกระเป๋ากล้อง
วันที่ 3 เที่ยว มุยเน่ และมีเดินไปตลาดตอนกลางคืนกันด้วยนะคะ ตอน2ทุ่ม ถึง 5ทุ่มมานึกย้อนหลัง คืนนั้นนี้น่าจะโดนดีแต่กลับรอดมาได้
วันที่ 4นี้ตามโปรแกรมที่เราจัดไว้คือเที่ยวสถานที่สำคัญของเมืองโฮจิมนทร์และช้อปปิ้งที่ตลาดเบนถัน พวกเราตื่นกันค่อนข้างสาย อาบน้ำแต่งตัวลงมาสักเวลาประมาณ เกือบ 11 โมง ก่อนจะเดินไปตลาดเจอธนาคารพวกเราก็ทำการแลกเงินกันคนละ 50 - 100 us พวกเรา3คนออกจากธนาคารมา
ที่พักของเราติดถนนนะคะ และเส้นที่เราเดินไปก็ติดถนนใหญ่หมดคะ ร้านค้าเต็มฝั่งคะ ไม่มีอะไรที่ลับตาหรือเปลี่ยวแต่อย่างใด เชื่อไหมคะ เดินมาถึง 4 แยกแรก ไฟแดง พวกเราเห็นรถกำลังวิ่งไปมากเพราะมันเป็นช่วงไฟเขียวคะ เราก็ยืนรอกันเป็นกระดาน 3 คนเรียง ดิฉันอยู่กลางคะ ดิฉันเอากระเป๋ากล้องไป 1 ใบ ภายในนั้นมีเงินที่ซุกไว้หลายช่อง และพาสปอตพึ่งได้จากทางโรงแรม และกล้องคู่ใจอยู่ในนั้นดิฉันสะพายเฉียงคะ และเอาเสื้อแขนยาวมัดเอวไว้1ตัว มัดไว้แบบหลบกระเป๋ากล้องด้วย รอเวลาให้ไฟแดงแล้วเราก็จะข้ามกันไป ทันใดนั้นเอง มีชายขับมอไซด์ซ้อนกันมาขับมาใกล้มากจนดิฉันจะพูดกะเพื่อนว่า ทำไมขับมาซะจะเฉี่ยวเลย กะว่ากำลังจะถอยหลัง และน้องคนที่ยืนอยู่คนแรกก็พูดดังๆ ขึ้นมาระวังกระเป๋า สิ้นสุดเสียงที่บอก คนซ้อนท้าย จับสายกระเป๋าของดิฉันละกระตุกไปแต่มันไปทั้งตัวสิคะ เพราะกระเป๋ามันสะพายเฉียงและมีเสื้อตัวหนึ่งผูกไว้ระหว่างกระเป๋ากะตัวของดิฉัน มันไวมาก ดิฉันโดนดึงไปตามแรงรถมอไซด์ และก็มารู้ตัวอีกทีตอนสะดุดล้ม หัวฟาดไปกะพื้นถนนอยู่ในท่านอน สายตาดิฉันจับไปที่โจรที่ยังคงไม่ปล่อยสายกระเป๋า ดิฉันใช้แรงทั้งหมดกระดุกกระเป๋ามา (น้ำหนักดิฉัน 43ได้ *-* ) โชคช่วยคะ สายกระเป๋าขาดคะ เลยทำให้หลุดมือโจรไป ส่วนดิฉันหัวแตกคะ เลือดอาบคอ ไม่เคยหัวแตกหรือเลือดตกมากขนาดนี้มาก่อนเลยคะ เนื้อตัวซีกขวาถลอก และ2วันก่อนนี้ช้ำไปทั้งตัว ส่วนเพื่อน2คนจะช่วยกันจับตัวดิฉันตอนโจรลากไปแต่เสียหลักล้มกันหัวเข่าเจ็บไปตามๆ กัน ลุกมาอีกทีก็มาเจอดิฉันนอนอยู่ข้างถนน
อยากจะบอกว่า โจรมันชุม มันโจ่งแจ้งกันขนาดนั้นเลยหรอคะ โฮจิมินทร์ ขอลาเลยนะคะประเทศนี้ บางคนอาจจะบอกว่าเมืองไทยเราก็มี แต่ดิฉันคิดว่าบ้านเราคงไม่ปล้นกันกลางวัน กลางแจ้ง คนพลุกพล่านขนาดนั้นหรอกมั้งคะ เฮ้อ
เตือนภัย แก๊งกระชากกระเป๋า กล้อง ที่โฮจิมินท์ เวียดนาม
พอดีเมื่อคืนกลับบ้านดึกมากเลยไม่ทันเล่ารายละเอียด มาเล่าต่อเลยนะคะ
ดิฉันเป็นสมาชิกห้องบลูคะรักการท่องเที่ยว เห็นกระทู้ไหนที่เพื่อนๆไปมาก็อยากจะไปบ้าง เห็นรีวิวเวียดนามก็อยากไปมากคะ ทะเลทรายมุยเน่
เลยทำการจองเที่ยวบินของแอร์โปร0บาทไป ไปมาเมื่อวันที่ 2-4 เมษายน 56 นี้คะ ก่อนไปดิฉันก็ดูข้อมูลการท่องเที่ยวจากในกระทู้ของเพื่อนๆ
ประกอบกับเวปอื่นๆ แต่พิมพ์แค่ มุยเน่ โฮจิมินทร์ ไม่เจอภัยอันตรายอะไรที่ให้อ่านคะ ทุกอย่างดูดีสวยงามหมด ประกอบกับไม่เคยเที่ยวต่างประเทศ
และไม่เคยรู้ภัยมืดต่างๆ มาเลยจนกระทั่งวันไปถึง
เช้าของวันที่ 2 เมษายน ดูจากแผนที่ที่จัดไว้ก็เดินตามหาทัวร์ของบ.เวียตซี แต่หาไม่เจอคะเดินพักใหญ่ก็ใจไม่ดีหรือจะหลง ประกอบกับมี3ล้อมาถาม
และเสนอตัวไปส่งให้ด้วยเงินราคาหนึ่งหมื่นห้าพันด่อง เท่ากะประมาณเงินไทยเพียง 20กว่าบาท เราก็ตกลงนั่งกันไปคะ 3สาว คนละคัน ตอนที่ดิฉันนั่งรถอยู่จะเอากล้องออกมาถ่ายรูปเพื่อนข้างหน้า แต่สามล้อถีบข้างหลังรีบจับมือและกล้องลงไปไว้ในกระเป๋ากล้องตามเดิมไม่ให้ถ่ายรูป ก็ยังงงๆแต่ไม่ได้คิดอะไร พอถีบไม่มาไม่นานก็เจอ บ.ทัวร์ของเวียตซีซึ่งอยู่ใกล้มาก จนเราคิดว่าทำไมไม่เดินอดทนต่อมาอีกสักนิดนะ แต่ก็ไม่เป็นไรควักเงินจ่าย แต่ว่าสามล้อ 3 นายบอกราคา แสนห้าหมื่นด่อง หรือตกเป็นเงินไทยก็ 2ร้อยกว่าบาทคะเรางงมากตอนขึ้นบอกหมื่น ขาลงบอกแสนกว่า เถียงกันพักใหญ่ ฝ่ายชาย 3 คนก็ตา สีหน้าเอาเรื่องให้จ่าย เราเลยตัดสินใจจ่ายไปเพราะมันไม่ใช่บ้านเรา กลัวเขาจะทำร้าย คิดเสียว่าเสียรู้ไป
จบ1 เรื่องคะกับการโดนโกง ที่นี้มาต่อด้วยเรื่องการโดนกระชากกระเป๋ากล้อง
วันที่ 3 เที่ยว มุยเน่ และมีเดินไปตลาดตอนกลางคืนกันด้วยนะคะ ตอน2ทุ่ม ถึง 5ทุ่มมานึกย้อนหลัง คืนนั้นนี้น่าจะโดนดีแต่กลับรอดมาได้
วันที่ 4นี้ตามโปรแกรมที่เราจัดไว้คือเที่ยวสถานที่สำคัญของเมืองโฮจิมนทร์และช้อปปิ้งที่ตลาดเบนถัน พวกเราตื่นกันค่อนข้างสาย อาบน้ำแต่งตัวลงมาสักเวลาประมาณ เกือบ 11 โมง ก่อนจะเดินไปตลาดเจอธนาคารพวกเราก็ทำการแลกเงินกันคนละ 50 - 100 us พวกเรา3คนออกจากธนาคารมา
ที่พักของเราติดถนนนะคะ และเส้นที่เราเดินไปก็ติดถนนใหญ่หมดคะ ร้านค้าเต็มฝั่งคะ ไม่มีอะไรที่ลับตาหรือเปลี่ยวแต่อย่างใด เชื่อไหมคะ เดินมาถึง 4 แยกแรก ไฟแดง พวกเราเห็นรถกำลังวิ่งไปมากเพราะมันเป็นช่วงไฟเขียวคะ เราก็ยืนรอกันเป็นกระดาน 3 คนเรียง ดิฉันอยู่กลางคะ ดิฉันเอากระเป๋ากล้องไป 1 ใบ ภายในนั้นมีเงินที่ซุกไว้หลายช่อง และพาสปอตพึ่งได้จากทางโรงแรม และกล้องคู่ใจอยู่ในนั้นดิฉันสะพายเฉียงคะ และเอาเสื้อแขนยาวมัดเอวไว้1ตัว มัดไว้แบบหลบกระเป๋ากล้องด้วย รอเวลาให้ไฟแดงแล้วเราก็จะข้ามกันไป ทันใดนั้นเอง มีชายขับมอไซด์ซ้อนกันมาขับมาใกล้มากจนดิฉันจะพูดกะเพื่อนว่า ทำไมขับมาซะจะเฉี่ยวเลย กะว่ากำลังจะถอยหลัง และน้องคนที่ยืนอยู่คนแรกก็พูดดังๆ ขึ้นมาระวังกระเป๋า สิ้นสุดเสียงที่บอก คนซ้อนท้าย จับสายกระเป๋าของดิฉันละกระตุกไปแต่มันไปทั้งตัวสิคะ เพราะกระเป๋ามันสะพายเฉียงและมีเสื้อตัวหนึ่งผูกไว้ระหว่างกระเป๋ากะตัวของดิฉัน มันไวมาก ดิฉันโดนดึงไปตามแรงรถมอไซด์ และก็มารู้ตัวอีกทีตอนสะดุดล้ม หัวฟาดไปกะพื้นถนนอยู่ในท่านอน สายตาดิฉันจับไปที่โจรที่ยังคงไม่ปล่อยสายกระเป๋า ดิฉันใช้แรงทั้งหมดกระดุกกระเป๋ามา (น้ำหนักดิฉัน 43ได้ *-* ) โชคช่วยคะ สายกระเป๋าขาดคะ เลยทำให้หลุดมือโจรไป ส่วนดิฉันหัวแตกคะ เลือดอาบคอ ไม่เคยหัวแตกหรือเลือดตกมากขนาดนี้มาก่อนเลยคะ เนื้อตัวซีกขวาถลอก และ2วันก่อนนี้ช้ำไปทั้งตัว ส่วนเพื่อน2คนจะช่วยกันจับตัวดิฉันตอนโจรลากไปแต่เสียหลักล้มกันหัวเข่าเจ็บไปตามๆ กัน ลุกมาอีกทีก็มาเจอดิฉันนอนอยู่ข้างถนน
อยากจะบอกว่า โจรมันชุม มันโจ่งแจ้งกันขนาดนั้นเลยหรอคะ โฮจิมินทร์ ขอลาเลยนะคะประเทศนี้ บางคนอาจจะบอกว่าเมืองไทยเราก็มี แต่ดิฉันคิดว่าบ้านเราคงไม่ปล้นกันกลางวัน กลางแจ้ง คนพลุกพล่านขนาดนั้นหรอกมั้งคะ เฮ้อ