ก่อนที่จะเริ่มต้นเรื่องราวในวันนี้ ผมขอไว้อาลัยให้กับการตกรอบเอฟเอ คัพ ของแมนฯ ยูฯ เป็นเวลา 1 คืนนะครับ 555 (ใช้เวลานานพอสมควร) เพราะว่าทำใจไม่ได้กับฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่...
ต้องบอกก่อนเลยครับว่าผมไม่ได้ดูการแข่งขันในครึ่งแรก เลยไม่รู้ว่าฟอร์มครึ่งแรกแมนฯ ยูฯ เล่นดีขนาดไหนแต่ในครึ่งหลังนี่สิครับ เรียกว่าเล่นแบบเป็นรองเกือบตลอดผมเป็นแฟนแมนฯ ยูฯ นะครับ และผมก็วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของแมนฯ ยูฯ อยู่บ่อยครั้ง เพราะผมรู้จักทีมนี้ดีที่สุดในลีกแล้ว555...
ผมเชื่อว่าแฟนปีศาจแดงหลายๆ คนคงรู้สึกอึดอัดไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ กับโอกาสยิงและจังหวะการสร้างสรรค์เกมรุกที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ถึงจะมีโอกาสลุ้นอยู่บ้างจากลูกโหม่งที่น่าจะเป็นประตูของน้องถั่วน้อย ชิชาริโต้ แต่ก็ต้องถูกปฏิเสธจากปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยมของ ปีเตอร์ เช็ก และลูกยิงที่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดายของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่... ไม่ขอพูดถึงอะไรมาก เอาเป็นว่า "เจ็บ" แต่ก็สมควรแล้วกับผลของการพ่ายแพ้ จึงทำให้ความฝันกับการคว้าดับเบิลแชมป์ของแมนฯ ยูฯ ในฤดูกาลนี้คงต้องหยุดลงแต่เพียงเท่านี้
สิ่งที่ผมคาดการณ์เอาไว้ (ถ้าไม่เกิดอะไรผิดพลาด)แมนฯ ยูฯ จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในเร็วๆ นี้ และช่วงปลายท้ายฤดูกาลเราคงจะได้เห็นการทดลองทีมของ เซอร์ อเล็กซ์แน่ๆ ครับ และหลังจากจบฤดูกาลนี้อาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่อีกครั้งนึงเหมือนกัน
มาถึงเรื่องฟุตบอลในประเทศเรากันบ้างนะครับล่าสุดกับความวุ่นวายของศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก แมตช์ที่ชลบุรี เอฟซี ยกพลไปเยือนราชบุรี มิตรผล เอฟซี แล้วจบลงด้วยสกอร์เสมอกันไป 1-1... บอกตามตรงนะครับผมไม่ได้ดูเกมที่เกิดขึ้น แต่ได้รับทราบข่าวสารอยู่บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นในแมตช์ดังกล่าว
เรื่องที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีหรือว่าตำหนิติเตียนใคร สำหรับในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับแต่ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวลักษณะนี้ในวงการฟุตบอลไทย มันทำให้ผมเกิดความรู้สึกเสียดายในภาพลักษณ์ของฟุตบอลในสยามประเทศ
เหตุการณ์ปั่นป่วนที่เกิดขึ้นและสร้างความเสียหายให้กับหลายๆ ฝ่ายก็คือ การอารมณ์ร้อนและควบคุมไม่อยู่ของบรรดาผู้ที่มีอารมณ์ร่วมอยู่ในสนาม... ตลอดทั้งเกมการแข่งขันที่เกิดขึ้น ราชบุรี มิตรผล เอฟซี นำ ชลบุรี เอฟซี อยู่ 1-0และถูกชลบุรีตามตีเสมอในช่วงท้ายปลายเกม... กองเชียร์บางกลุ่มอาจจะไม่พอใจในผลสกอร์หรือการตัดสินของกรรมการในสนาม และด้วยสาเหตุนี้อาจจะเป็น 1 ในชนวนที่ทำให้เกิดความวุ่นวายก็ได้นะครับ
บอกแล้วตัวผมเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่แค่รู้สึกหดหู่ใจเมื่อทราบข่าวว่ามีกองเชียร์ของเจ้าบ้าน "บางกลุ่ม" (ขอย้ำนะครับว่าแค่บางกลุ่มจริงๆ เพราะว่ากองเชียร์ที่ดีๆ และมีน้ำใจในการเชียร์กีฬาก็มีอยู่เยอะแยะมากมาย) ปิดล้อมกองเชียร์ของฝ่ายทีมเยือนไม่ให้ออกจากสนาม... เหตุการณ์บานปลายถึงขั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่อยู่ จึงมีคนถูกทำร้ายร่างกาย มีคนบาดเจ็บ มีการทำลายข้าวของสร้างความเสียหายให้กับรถหลายๆ คันในบริเวณนั้น...
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีการลงโทษด้วยการปรับเงินกันไปตามระเบียบ และที่สำคัญเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ได้สร้างรอยแผลอีกครั้งให้กับวงการฟุตบอลไทย ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก
แน่นอนครับว่าเรื่องทุกอย่างต้องมีเหตุและผลของมันและควรมองทั้ง 2 ด้านอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่มองเพียงด้านเดียวแล้วตัดสินใจว่าใครเป็นยังไง ใครเป็นฝ่ายผิด ใครเป็นฝ่ายถูก ผมเป็นเพียงคนเสพข่าวเหมือนๆ กับคนที่อยู่ทางบ้านและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น ผมแค่อยากจะแสดงความคิดเห็นว่าถ้าคุณไปดูฟุตบอลที่สนาม คุณก็คงมีความรักในกีฬาฟุตบอลเหมือนๆ กันทั้งหมด...
มีอยู่แล้วครับ กับการตัดสินที่ผิดพลาด กับจังหวะการเล่นที่แรงเกินควร อารมณ์ทุกอย่างมันย่อมเกิดขึ้นอย่างยับยั้งไม่ได้ แต่ที่สุดแล้วนี่มันก็คือเกมกีฬา และสิ่งที่สำคัญที่กองเชียร์และนักกีฬาควรจะมีก็คือน้ำใจนักกีฬา ซึ่งตอนเด็กๆ ทุกคนคงถูกฝึกและถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่ตอนกีฬาสีประจำโรงเรียนนะครับ 555...
ผมได้ดูคลิปวิดีโออันนึงแล้วรู้สึกฮากับการสอนของคุณแม่คนนึงที่กำลังคุยกับลูกชายมากครับ เหตุเกิดที่ริมสนามขณะที่มีกองเชียร์ของชลบุรีบางส่วนยังไม่ได้ออกจากสนาม มีภาพจากวิดีคลิปส่ายไปส่ายมาเห็นบรรยากาศมากพอสมควร แล้วก็ได้ยินเสียงเล็กๆ น่ารักๆ พูดขึ้นมาว่า
เด็ก : แม่ๆๆ เค้าหนีอะไรอ่ะ ? (พูด 2 รอบด้วยความสงสัย)
แม่ : เค้าหนีคนนิสัยไม่ดีลูก เค้าไม่ต้อนรับเรา...อย่าให้เค้าไปบ้านเราละกัน
หะ!!! แม่ครับบบบบบ ทำไมสอนลูกแบบนั้นละครับ555 ... นี่เป็นอีกตัวอย่างนึงที่สอนลูกได้ดีแต่จบไม่ค่อยสวยเหมือนคุณแม่ท่านนี้ยังมีอารมณ์ขุ่นๆ เคืองๆ ใจอยู่พอสมควร
ในช่วง 4 ปีหลังมานี้วงการฟุตบอลในประเทศเราเจริญก้าวหน้าและเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก มีสโมสรที่ยิ่งใหญ่และเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศอยู่หลายสโมสร มีนักเตะต่างชาติเข้ามาค้าแข้งหรือเรียกได้ว่าย้ายถิ่นฐานเข้ามาหากินกับฟุตบอลอาชีพในบ้านเราเลยก็ว่าได้ครับ
ผมขอยืดอกยอมรับตามตรงเลยว่าผมเป็นประชาชนคนไทยคนนึงที่บ้าฟุตบอลชนิดเข้าเส้นแต่ไม่ได้เป็นแฟนและไม่ได้ติดตามดูฟุตบอลไทยอย่างเหนียวแน่น เรียกว่านานๆทีจะได้ดูหรือตามข่าวของคู่ใหญ่ๆ ที่เป็นกระแสและน่าสนใจเท่านั้น แต่ ณ ตอนนี้เมื่อประเทศของเราพัฒนาวงการฟุตบอลมาได้ขนาดนี้แล้ว เราก็ควรที่จะรักษาสิ่งเหล่านี้ต่อไปและช่วยกันทำให้ดีขึ้น ....
นักฟุตบอลก็เป็นอาชีพอาชีพนึงที่ทำงานอย่างสุจริตและสร้างความบันเทิงให้กับเหล่ากองเชียร์ พวกเราเหล่ากองเชียร์ก็มาช่วยกันรับผิดชอบเพื่อความก้าวหน้าของเกมกีฬาที่เรารักกันดีกว่าครับ
อีกเรื่องนึงครับที่ผมขอร้องและกราบงามๆ ให้ท่านผู้อ่านทุกคน ช่วยดูมหกรรมกีฬาฉลองครบรอบ 43 ปี ซุป’ตาร์ปาร์ตี้ด้วยนะคร้าบบบบบ 555... ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ้าไม่ได้ไปดูถึงสนามก็เปิดช่อง 3 รอเลยครับ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงๆ (ในสนามคงโคตรจะร้อนมากๆ)...
รู้ว่าแฟนๆ สตาร์ซอคเก้อร์หลายๆ ท่านคงเป็นผู้ชายและบ้าฟุตบอลก็คงไม่ติดละครเช่นกัน... แต่งานนี้ดูดารานักแสดงเตะฟุตบอลก็แปลกไปอีกแบบนะครับ ดูเอาบันเทิงนะครับ อย่าตำหนิติเตียนกัน555 และงานนี้ก็คงจะได้ลุ้นกันถึงช่วงเตะจุดโทษแน่นอน... อิอิ
สุดท้ายนี้ด้วยความเคารพในทุกๆ ฝ่ายนะครับ ผมเป็นคนนึงที่อยากเห็นทีมชาติไทยไปบอลฟุตบอลโลก ดังนั้นการแข่งขันฟุตบอล การเข้าไปเชียร์ฟุตบอล ช่วยกันมี "สติ" ก่อนที่อารมณ์โมโหเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในใจคุณจะกลายเป็น 1ในสาเหตุที่ฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทยนะครับ... เอาใจช่วยสุดพลังเพราะทุกวันนี้ประโยคที่ว่า "บอลนอกแค่สะใจบอลไทยอยู่ในสายเลือด" บ่องตงๆ ว่าผมเข้าใจมันแล้วครับ
... รักคนอ่านนะครับ
[กระทู้ผีแดง & บอลไทย 2014-04-05] ไว้อาลัยการตกรอบFACupของแมนฯยู & ภัยในสนามบอล(ไทย) & บอลช่อง3- เกรท วรินทร
ก่อนที่จะเริ่มต้นเรื่องราวในวันนี้ ผมขอไว้อาลัยให้กับการตกรอบเอฟเอ คัพ ของแมนฯ ยูฯ เป็นเวลา 1 คืนนะครับ 555 (ใช้เวลานานพอสมควร) เพราะว่าทำใจไม่ได้กับฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่...
ต้องบอกก่อนเลยครับว่าผมไม่ได้ดูการแข่งขันในครึ่งแรก เลยไม่รู้ว่าฟอร์มครึ่งแรกแมนฯ ยูฯ เล่นดีขนาดไหนแต่ในครึ่งหลังนี่สิครับ เรียกว่าเล่นแบบเป็นรองเกือบตลอดผมเป็นแฟนแมนฯ ยูฯ นะครับ และผมก็วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของแมนฯ ยูฯ อยู่บ่อยครั้ง เพราะผมรู้จักทีมนี้ดีที่สุดในลีกแล้ว555...
ผมเชื่อว่าแฟนปีศาจแดงหลายๆ คนคงรู้สึกอึดอัดไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ กับโอกาสยิงและจังหวะการสร้างสรรค์เกมรุกที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ถึงจะมีโอกาสลุ้นอยู่บ้างจากลูกโหม่งที่น่าจะเป็นประตูของน้องถั่วน้อย ชิชาริโต้ แต่ก็ต้องถูกปฏิเสธจากปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยมของ ปีเตอร์ เช็ก และลูกยิงที่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดายของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่... ไม่ขอพูดถึงอะไรมาก เอาเป็นว่า "เจ็บ" แต่ก็สมควรแล้วกับผลของการพ่ายแพ้ จึงทำให้ความฝันกับการคว้าดับเบิลแชมป์ของแมนฯ ยูฯ ในฤดูกาลนี้คงต้องหยุดลงแต่เพียงเท่านี้
สิ่งที่ผมคาดการณ์เอาไว้ (ถ้าไม่เกิดอะไรผิดพลาด)แมนฯ ยูฯ จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในเร็วๆ นี้ และช่วงปลายท้ายฤดูกาลเราคงจะได้เห็นการทดลองทีมของ เซอร์ อเล็กซ์แน่ๆ ครับ และหลังจากจบฤดูกาลนี้อาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่อีกครั้งนึงเหมือนกัน
มาถึงเรื่องฟุตบอลในประเทศเรากันบ้างนะครับล่าสุดกับความวุ่นวายของศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก แมตช์ที่ชลบุรี เอฟซี ยกพลไปเยือนราชบุรี มิตรผล เอฟซี แล้วจบลงด้วยสกอร์เสมอกันไป 1-1... บอกตามตรงนะครับผมไม่ได้ดูเกมที่เกิดขึ้น แต่ได้รับทราบข่าวสารอยู่บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นในแมตช์ดังกล่าว
เรื่องที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีหรือว่าตำหนิติเตียนใคร สำหรับในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับแต่ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวลักษณะนี้ในวงการฟุตบอลไทย มันทำให้ผมเกิดความรู้สึกเสียดายในภาพลักษณ์ของฟุตบอลในสยามประเทศ
เหตุการณ์ปั่นป่วนที่เกิดขึ้นและสร้างความเสียหายให้กับหลายๆ ฝ่ายก็คือ การอารมณ์ร้อนและควบคุมไม่อยู่ของบรรดาผู้ที่มีอารมณ์ร่วมอยู่ในสนาม... ตลอดทั้งเกมการแข่งขันที่เกิดขึ้น ราชบุรี มิตรผล เอฟซี นำ ชลบุรี เอฟซี อยู่ 1-0และถูกชลบุรีตามตีเสมอในช่วงท้ายปลายเกม... กองเชียร์บางกลุ่มอาจจะไม่พอใจในผลสกอร์หรือการตัดสินของกรรมการในสนาม และด้วยสาเหตุนี้อาจจะเป็น 1 ในชนวนที่ทำให้เกิดความวุ่นวายก็ได้นะครับ
บอกแล้วตัวผมเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่แค่รู้สึกหดหู่ใจเมื่อทราบข่าวว่ามีกองเชียร์ของเจ้าบ้าน "บางกลุ่ม" (ขอย้ำนะครับว่าแค่บางกลุ่มจริงๆ เพราะว่ากองเชียร์ที่ดีๆ และมีน้ำใจในการเชียร์กีฬาก็มีอยู่เยอะแยะมากมาย) ปิดล้อมกองเชียร์ของฝ่ายทีมเยือนไม่ให้ออกจากสนาม... เหตุการณ์บานปลายถึงขั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่อยู่ จึงมีคนถูกทำร้ายร่างกาย มีคนบาดเจ็บ มีการทำลายข้าวของสร้างความเสียหายให้กับรถหลายๆ คันในบริเวณนั้น...
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีการลงโทษด้วยการปรับเงินกันไปตามระเบียบ และที่สำคัญเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ได้สร้างรอยแผลอีกครั้งให้กับวงการฟุตบอลไทย ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก
แน่นอนครับว่าเรื่องทุกอย่างต้องมีเหตุและผลของมันและควรมองทั้ง 2 ด้านอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่มองเพียงด้านเดียวแล้วตัดสินใจว่าใครเป็นยังไง ใครเป็นฝ่ายผิด ใครเป็นฝ่ายถูก ผมเป็นเพียงคนเสพข่าวเหมือนๆ กับคนที่อยู่ทางบ้านและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น ผมแค่อยากจะแสดงความคิดเห็นว่าถ้าคุณไปดูฟุตบอลที่สนาม คุณก็คงมีความรักในกีฬาฟุตบอลเหมือนๆ กันทั้งหมด...
มีอยู่แล้วครับ กับการตัดสินที่ผิดพลาด กับจังหวะการเล่นที่แรงเกินควร อารมณ์ทุกอย่างมันย่อมเกิดขึ้นอย่างยับยั้งไม่ได้ แต่ที่สุดแล้วนี่มันก็คือเกมกีฬา และสิ่งที่สำคัญที่กองเชียร์และนักกีฬาควรจะมีก็คือน้ำใจนักกีฬา ซึ่งตอนเด็กๆ ทุกคนคงถูกฝึกและถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่ตอนกีฬาสีประจำโรงเรียนนะครับ 555...
ผมได้ดูคลิปวิดีโออันนึงแล้วรู้สึกฮากับการสอนของคุณแม่คนนึงที่กำลังคุยกับลูกชายมากครับ เหตุเกิดที่ริมสนามขณะที่มีกองเชียร์ของชลบุรีบางส่วนยังไม่ได้ออกจากสนาม มีภาพจากวิดีคลิปส่ายไปส่ายมาเห็นบรรยากาศมากพอสมควร แล้วก็ได้ยินเสียงเล็กๆ น่ารักๆ พูดขึ้นมาว่า
เด็ก : แม่ๆๆ เค้าหนีอะไรอ่ะ ? (พูด 2 รอบด้วยความสงสัย)
แม่ : เค้าหนีคนนิสัยไม่ดีลูก เค้าไม่ต้อนรับเรา...อย่าให้เค้าไปบ้านเราละกัน
หะ!!! แม่ครับบบบบบ ทำไมสอนลูกแบบนั้นละครับ555 ... นี่เป็นอีกตัวอย่างนึงที่สอนลูกได้ดีแต่จบไม่ค่อยสวยเหมือนคุณแม่ท่านนี้ยังมีอารมณ์ขุ่นๆ เคืองๆ ใจอยู่พอสมควร
ในช่วง 4 ปีหลังมานี้วงการฟุตบอลในประเทศเราเจริญก้าวหน้าและเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก มีสโมสรที่ยิ่งใหญ่และเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศอยู่หลายสโมสร มีนักเตะต่างชาติเข้ามาค้าแข้งหรือเรียกได้ว่าย้ายถิ่นฐานเข้ามาหากินกับฟุตบอลอาชีพในบ้านเราเลยก็ว่าได้ครับ
ผมขอยืดอกยอมรับตามตรงเลยว่าผมเป็นประชาชนคนไทยคนนึงที่บ้าฟุตบอลชนิดเข้าเส้นแต่ไม่ได้เป็นแฟนและไม่ได้ติดตามดูฟุตบอลไทยอย่างเหนียวแน่น เรียกว่านานๆทีจะได้ดูหรือตามข่าวของคู่ใหญ่ๆ ที่เป็นกระแสและน่าสนใจเท่านั้น แต่ ณ ตอนนี้เมื่อประเทศของเราพัฒนาวงการฟุตบอลมาได้ขนาดนี้แล้ว เราก็ควรที่จะรักษาสิ่งเหล่านี้ต่อไปและช่วยกันทำให้ดีขึ้น ....
นักฟุตบอลก็เป็นอาชีพอาชีพนึงที่ทำงานอย่างสุจริตและสร้างความบันเทิงให้กับเหล่ากองเชียร์ พวกเราเหล่ากองเชียร์ก็มาช่วยกันรับผิดชอบเพื่อความก้าวหน้าของเกมกีฬาที่เรารักกันดีกว่าครับ
อีกเรื่องนึงครับที่ผมขอร้องและกราบงามๆ ให้ท่านผู้อ่านทุกคน ช่วยดูมหกรรมกีฬาฉลองครบรอบ 43 ปี ซุป’ตาร์ปาร์ตี้ด้วยนะคร้าบบบบบ 555... ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ้าไม่ได้ไปดูถึงสนามก็เปิดช่อง 3 รอเลยครับ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงๆ (ในสนามคงโคตรจะร้อนมากๆ)...
รู้ว่าแฟนๆ สตาร์ซอคเก้อร์หลายๆ ท่านคงเป็นผู้ชายและบ้าฟุตบอลก็คงไม่ติดละครเช่นกัน... แต่งานนี้ดูดารานักแสดงเตะฟุตบอลก็แปลกไปอีกแบบนะครับ ดูเอาบันเทิงนะครับ อย่าตำหนิติเตียนกัน555 และงานนี้ก็คงจะได้ลุ้นกันถึงช่วงเตะจุดโทษแน่นอน... อิอิ
สุดท้ายนี้ด้วยความเคารพในทุกๆ ฝ่ายนะครับ ผมเป็นคนนึงที่อยากเห็นทีมชาติไทยไปบอลฟุตบอลโลก ดังนั้นการแข่งขันฟุตบอล การเข้าไปเชียร์ฟุตบอล ช่วยกันมี "สติ" ก่อนที่อารมณ์โมโหเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในใจคุณจะกลายเป็น 1ในสาเหตุที่ฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทยนะครับ... เอาใจช่วยสุดพลังเพราะทุกวันนี้ประโยคที่ว่า "บอลนอกแค่สะใจบอลไทยอยู่ในสายเลือด" บ่องตงๆ ว่าผมเข้าใจมันแล้วครับ
... รักคนอ่านนะครับ