ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องเหตุการณ์สั้นๆนะคะ
คือรถฝั่งประกันของคู่กรณีเป็นรถกระบะ ของบริษัทประกันมิตซุยค่ะ
เหตุเกิดจากการที่รถของคู่กรณีขับมาชนท้ายรถเราเข้าอย่างจังในขณะที่รถของเราหยุดให้ทางรถมอเตอไซค์ที่เลี้ยวออกจากซอย
ซึ่งก่อนหน้านั้นมีรถคันอื่นออกไปหลายคันแล้ว แต่รถคู่กรณีขับมาด้วยความเร็วจึงเบรคไม่ทันและพยายามหักหลบ!!
แต่มันไม่พ้นค่ะเป็นเหตุให้ รถคันเราที่จอดให้ทางอยู่ พุ่งไปชนมอเตอร์ไซด้านหน้า
ในที่เกิดเหตุคู่กรณียอมรับแต่ไปกลับคำให้การที่โรงพัก ทั้งที่มีพยาน จากคนแถวนั้นที่เห็นเหตุการณ์ รถมอร์เตอร์ไซค์และรถคันเราให้การตรงกัน
แต่เนื่องจากเรายังอยู่รพ. ตำรวจจึงยังไม่ตัดสิน หลังจากนั้นหนึ่งวันเราก็ออกมาจากรพ. และไปให้การที่โรงพักพร้อมกันทั้งสามฝ่ายแต่ฝ่ายคู่กรณียังไม่ยอมรับผิด
ตำรวจจึงได้เรียกกองพิสูจน์หลักฐานด้านผู้เชี่ยวชาญฝ่ายเฉี่ยวชนมาดูรถทั้ง 3 คัน ซึ่งตัดสินและชี้ว่าคู่กรณี ผิดจริง
ได้มีการเปรียบเทียบปรับ และระบุไว้ในบันทึกประจำวันชัดเจนว่าฝ่ายคู่กรณีผิดและประกันฝ่ายผิดต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
เราโล่งใจไปในคราวแรก จึงได้ไปทำเรื่องที่ประกันฝ่ายคู่กรณี โดยเรียก
1 ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากพรบ. 2 ค่าเช่ารถเพราะเราต้องใช้รถทำงาน เช่ามา900บาท (ประกันไกล่เกลี่ยขอจ่ายวันละ500)
3 ค่าเสียประโยชน์ทำงาน 2 วัน ทั้งหมดประกันตกลงจะจ่ายให้ 15500 บาท
ซึ่งเราก็ตกลง ทั้งที่มันไม่คุ้มแต่ก็ไม่อยากมากเรื่อง ประกันนัดจ่ายเงินวันที่ 1 เมษา มีการออกใบนัดรับเงินค่าสินไหมเรียบร้อย
แต่แล้ว........................
พอถึงวันที่จ่ายเงินประกันโทรมาบอกว่า ยังจ่ายไม่ได้ เพราะคนขับฝ่ายตนบอกว่าตัวเองไม่ผิดและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ดิฉันจึงเดินทางไปที่สน เพื่อถามกับตำรวจ ตำรวจยืนยันว่าคู่กรณีผิดจริง และคดีถึงที่สุด ตร ตัดสินแล้ว หลักฐานก็มี
ดิฉันได้แต่งง งง และงง ว่าหากคู่กรณีมาบอกว่าตนไม่ผิดลอยๆ ประกันมีสิทธิไม่จ่ายด้วยหรอคะ????
และควรจะทำอย่างไรต่อไปจะฟ้องดีผู้ขับขี่ดีหรือไม่ ควรทำอย่างไรต่อไปดี
เด๋วพรุ่งนี้จะไป ศปภ. ค่ะ ลองไปดู คืบหน้ายังไงจะมาเล่าต่อนะคะ
ประกันมิตซุย เบี้ยวค่าสินไหม?? คิดจะทำ คิดให้ดี
คือรถฝั่งประกันของคู่กรณีเป็นรถกระบะ ของบริษัทประกันมิตซุยค่ะ
เหตุเกิดจากการที่รถของคู่กรณีขับมาชนท้ายรถเราเข้าอย่างจังในขณะที่รถของเราหยุดให้ทางรถมอเตอไซค์ที่เลี้ยวออกจากซอย
ซึ่งก่อนหน้านั้นมีรถคันอื่นออกไปหลายคันแล้ว แต่รถคู่กรณีขับมาด้วยความเร็วจึงเบรคไม่ทันและพยายามหักหลบ!!
แต่มันไม่พ้นค่ะเป็นเหตุให้ รถคันเราที่จอดให้ทางอยู่ พุ่งไปชนมอเตอร์ไซด้านหน้า
ในที่เกิดเหตุคู่กรณียอมรับแต่ไปกลับคำให้การที่โรงพัก ทั้งที่มีพยาน จากคนแถวนั้นที่เห็นเหตุการณ์ รถมอร์เตอร์ไซค์และรถคันเราให้การตรงกัน
แต่เนื่องจากเรายังอยู่รพ. ตำรวจจึงยังไม่ตัดสิน หลังจากนั้นหนึ่งวันเราก็ออกมาจากรพ. และไปให้การที่โรงพักพร้อมกันทั้งสามฝ่ายแต่ฝ่ายคู่กรณียังไม่ยอมรับผิด
ตำรวจจึงได้เรียกกองพิสูจน์หลักฐานด้านผู้เชี่ยวชาญฝ่ายเฉี่ยวชนมาดูรถทั้ง 3 คัน ซึ่งตัดสินและชี้ว่าคู่กรณี ผิดจริง
ได้มีการเปรียบเทียบปรับ และระบุไว้ในบันทึกประจำวันชัดเจนว่าฝ่ายคู่กรณีผิดและประกันฝ่ายผิดต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
เราโล่งใจไปในคราวแรก จึงได้ไปทำเรื่องที่ประกันฝ่ายคู่กรณี โดยเรียก
1 ค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากพรบ. 2 ค่าเช่ารถเพราะเราต้องใช้รถทำงาน เช่ามา900บาท (ประกันไกล่เกลี่ยขอจ่ายวันละ500)
3 ค่าเสียประโยชน์ทำงาน 2 วัน ทั้งหมดประกันตกลงจะจ่ายให้ 15500 บาท
ซึ่งเราก็ตกลง ทั้งที่มันไม่คุ้มแต่ก็ไม่อยากมากเรื่อง ประกันนัดจ่ายเงินวันที่ 1 เมษา มีการออกใบนัดรับเงินค่าสินไหมเรียบร้อย
แต่แล้ว........................
พอถึงวันที่จ่ายเงินประกันโทรมาบอกว่า ยังจ่ายไม่ได้ เพราะคนขับฝ่ายตนบอกว่าตัวเองไม่ผิดและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ดิฉันจึงเดินทางไปที่สน เพื่อถามกับตำรวจ ตำรวจยืนยันว่าคู่กรณีผิดจริง และคดีถึงที่สุด ตร ตัดสินแล้ว หลักฐานก็มี
ดิฉันได้แต่งง งง และงง ว่าหากคู่กรณีมาบอกว่าตนไม่ผิดลอยๆ ประกันมีสิทธิไม่จ่ายด้วยหรอคะ????
และควรจะทำอย่างไรต่อไปจะฟ้องดีผู้ขับขี่ดีหรือไม่ ควรทำอย่างไรต่อไปดี
เด๋วพรุ่งนี้จะไป ศปภ. ค่ะ ลองไปดู คืบหน้ายังไงจะมาเล่าต่อนะคะ